อ่านเกม - มองกลยุทธ์สงครามสื่อ ASTV กับ MV1 ก่อน COUP D'ETAT


ยุคของข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย มีอิทธิพลต่อการสร้างความน่าเชื่อถือ การแบ่งฝักฝ่ายอย่างชัดเจน  ทำให้หลายคนรู้สึกเครียดเมื่อได้ฟังข่าวสารบ้านเมืองที่มีแต่ความขัดแย้งต่างๆ

โดยเฉพาะในความขัดแย้งเรื่องการเมือง เมื่อมีการใช้สื่อในการให้ข้อมูลมากขึ้น สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดเพิ่มขึ้น

สงครามสื่อระหว่าง ฝ่ายต่อต้านทักษิณ และฝ่ายสนับสนุน

การขยายวงการต่อต้านทักษิณจนเกิดแนวร่วมในกลุ่มวิชาชีพต่างๆเพิ่มขึ้น เพราะการให้ข้อมูลผ่านช่องทางของสื่อ อาทิ เวบไซต์ผู้จัดการออนไลน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุชุมชน โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV รวมถึง VCD  ทำให้ผู้คนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกปกปิดมานาน จนการต่อต้านขยายวง

มาจนถึง ก.ย. 2549 ฝ่ายสนับสนุน คงจะวิเคราะห์ถึงอิทธิพลของสื่อ จึงเกิดสื่อของฝ่ายสนับสนุน นับตั้งแต่เวบไซต์ reporter.co.th หนังสือพิมพ์รีพอตเตอร์ วิทยุชุมชนต่างๆ และโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง MV1

ฝ่ายต่อต้านมีอะไร ฝ่ายสนับสนุนก็มีเช่นกัน แต่มีจำนวนและปริมาณมากกว่า

ช่องทางสำคัญ คือ โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ซึ่งช่อง MV1 ไปเช่าสัญญาณดาวเทียม NSS6 ของเนเธอแลนด์ ที่ ASTV ใช้ช่องสัญญาณอยู่  ในแบบกลยุทธ หอกข้างแคร่ ฝ่ายต่อต้านใช้อาวุธอะไรในการบั่นทอน  ฝ่ายสนับสนุนก็จะใช้สิ่งเดียวกัน เพื่อตัดตอน บั่นทอนฝ่ายต่อต้านเช่นกัน

สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม MV1 ดูเหมือนจะเป็นช่องทางที่ได้ผลพอสมควร ในการให้ข้อมูล เป็นช่องทางติดตามข่าวสารของกลุ่มสนับสนุนทักษิณ

หากจะใช้ในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องก็จะทำให้สังคมได้รับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่หากจะใช้ในการปลุกระดม ยั่วยุ ก็จะยิ่งทำให้สังคมแตกแยก แบ่งฝักฝ่าย และก่อความรุนแรง เกิดการเผชิญหน้ามากขึ้น

หากใครได้รับชมรับฟัง สื่อทั้ง 2 ฝ่ายด้วยตัวเอง ย่อมจะตัดสินได้ว่า สื่อฝ่ายใดที่ให้ข้อมูลกับสังคม และสื่อฝ่ายใดที่ปลุกระดม ยั่วยุ

กลยุทธหอกข้างแคร่ โดยการเช่าดาวเทียมดวงเดียวกัน ช่องทางเดียวกัน ถ้าฝ่ายหนึ่งเรียกร้องให้ปิดสื่อของอีกฝ่าย ก็สามารถโต้แย้งได้ว่า ถ้าจะให้ปิดสื่อของฝ่ายแรก  ก็จะต้องปิดสื่อของฝ่ายที่สองด้วย

ฝ่าย  ASTV เผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทาง เคเบิลทีวีแบบบอกรับสมาชิกในต่างจังหวัด , ดูผ่านอินเตอร์เนต และใช้จานรับสัญญาณดาวเทียม  ฝ่าย MV1 ก็ใช้ช่องทางเหมือนกัน

ฝ่าย ASTV ซึ่งทุนน้อยกว่า ประชาสัมพันธ์ขายจานรับสัญญาณดาวเทียม โดยล่าสุดลดราคาลงมาต่ำสุดเหลือจานละ 2900 บาท ฝ่าย MV1 จัดงานเปิดตัว พร้อมแจกจานดาวเทียมฟรี เพื่อต้องการให้ผู้ชมรับข้อมูลจากฝ่าย MV1 มากกว่า

แต่กลยุทธหอกข้างแคร่ของฝ่าย MV1 ก็เป็นประโยชน์กับฝ่าย ASTV ได้เช่นกัน เพราะใช้ดาวเทียมดวงเดียวกัน เมื่อจูนกล่องรับสัญญาณนิดหน่อย คนที่ได้รับจานของ MV1 ก็จะสามารถชม ASTV ได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อจานดาวเทียมของ ASTV เช่นเดียวกัน คนที่มีจาน ASTV ก็สามารถที่จะจูน เพื่อรับสัญญาณของ MV1 ได้เช่นกัน

คราวนี้ก็อยู่ที่ว่า ใครจะเชื่อข้อมูลของฝ่ายไหนมากกว่ากัน

สงครามสื่อของฝ่ายสนับสนุน (MV1) และ ฝ่ายต่อต้าน (ASTV)  เป็นกลยุทธที่น่าศึกษา เพราะฝ่ายสนับสนุน มีสื่อมากกว่า ทั้งฟรีทีวีช่อง 3 5 7 9 11 ITV ที่มีจำนวนผู้ชมมากกว่า ในขณะที่ฝ่ายต่อต้าน มีสื่อน้อยกว่า ถูกขัดขวางปิดกั้นอยู่ตลอด แต่สามารถเผยแพร่ให้ข้อมูลจนเกิดแนวร่วมเพิ่มขึ้น

ฝ่ายสนับสนุน วิเคราะห์เกมว่า ถ้าใช้กลยุทธหอกข้างแคร่ ใช้ช่องทางสื่อสารเหมือนฝ่ายต่อต้าน แต่มากกว่า น่าจะลดแนวร่วมต่อต้านลงได้บ้าง เพิ่มแนวร่วมฝ่ายสนับสนุนได้มากขึ้น

ฝ่ายต่อต้านกลับวิเคราะห์เกมว่า การที่มีแนวร่วมในฝ่ายต่อต้านเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่มีช่องทางสื่อสารน้อยกว่า มีอุปสรรคในการเผยแพร่ข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เพราะการให้ข้อมูลของฝ่ายต่อต้าน ทำให้ผู้รับข้อมูลได้คิด วิเคราะห์ มองเหตุการณ์ และอ่านเกมการเมืองออก เมื่อติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง สามารถเชื่อมโยงต้นสายปลายเหตุ ความไม่ถูกต้อง ความไม่ชอบมาพากลออกมาได้

ฝ่ายหนึ่ง เน้นปริมาณที่มากกว่า แต่อีกฝ่าย มีข้อจำกัด จึงเน้นคุณภาพ โดยการให้ความรู้ ให้ผู้รับข้อมูลคิด และตัดสินด้วยตัวเอง จนเกิดแนวร่วมเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

ถ้าติดตามเรื่องราวและมองเกม อ่านกลยุทธกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้  ก็ได้ความรู้ หลายอย่าง ไม่แพ้กับการอ่าน สามก๊กเช่นกัน

นั่นคือเหตุการณ์ก่อนการเกิดขึ้นของคณะปฏิรูปการปกครอง จะดำเนินการยึดอำนาจ และในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น เมื่อผู้ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทยได้หมดอำนาจลงเมื่อตอนเย็นวันที่ 19 ก.ย. 2549

อย่างน้อยบรรดาสื่อฝ่ายสนับสนุนอดีตนายกทักษิณอย่าง MV1, เวบไซต์ และสื่ออื่นๆ ได้ยุติบทบาท หายไปทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจ

ขอให้สังคมไทยกลับมาสงบสุขโดยเร็ว

 

'สื่อเทียม' เผ่นหลังอวสาน 'ทักษิณ'

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 กันยายน 2549 00:57 น.

 

ผู้จัดการออนไลน์ - สื่อเทียมเผ่นแนบหลังนายใหญ่สิ้นวาสนา MVtv หยุดการแพร่ภาพ เว็บไซต์ข่าวปิดตัวกระทันหัน ขณะที่วิทยุชุมชนต่างก็หันมาถ่ายทอดเสียงจากช่อง 5 ทั้งหมด
       
        หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น พระประมุขฯ ที่นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะฯ ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และได้เข้าควบคุมสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์ วิทยุ ไว้ได้ทั้งหมด
       
        ล่าสุดเมื่อมีการตรวจสอบไปยัง 'สื่อเทียม' ทั้งหลายที่ได้รับเงินสนับสนุนจากพรรคไทยรักไทย ผลปรากฎว่า ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม วิทยุชุมชน หรือเว็บไซต์ข่าวต่างก็ปิดตัวลงอย่างกระทันหัน
       
        สำหรับ สื่อโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง MVtv ที่เพิ่งแพร่ภาพเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2549 ที่ผ่านมา และมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมาที่เมืองทองธานีก็หยุดการแพร่ภาพโดยมีเพียงภาพขึ้นหน้าจอขึ้นระบุ ว่า "ขออภัยเนื่องจากสัญญาณขัดข้อง"
       
        ทางด้าน สื่ออินเทอร์เน็ตอย่าง www.reporter.co.th นั้นก็ทำการปิดตัวลงอย่างกระทันหันโดยหากเปิดเข้าไปก็จะพบข้อมูลที่หน้าจอ แต่เพียงว่า "No website is configured at www.reporter.co.th Or bandwidth exceed." เท่านั้น
       
        ทั้งนี้เว็บไซต์พันธ์ทิป โดยเฉพาะคาเฟ่ ห้องราชดำเนิน ที่ในช่วงระยะเวลาปีกว่าๆ ที่ผ่านมาเป็นฐานหลักในการเผยแพร่ข่าวสารในการตอบโต้และโจมตีพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในนามของเครือข่ายคนผ่านฟ้า ณ เวลานี้ก็ไม่สามารถเข้าได้
       
        ในส่วนของ วิทยุชุมชน ที่ออกอากาศโจมตี สถาบันอันเป็นที่เคารพของประชาชนชาวไทย และพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษอยู่อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะ เป็น เอฟเอ็ม 89.75, 94.25, 105 และ 102 ที่มักจะใช้นายสมัคร สุนทรเวชเป็นหัวหอกนั้นต่างก็หันไปถ่ายทอดสัญญาณจากกองทัพบกทั้งหมด
       
        แม้กระทั่งวิทยุในเครือข่ายของ อสมท. ทุกคลื่นต่างก็รับสัญญาณการถ่ายทอดเสียงจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 5 ทั้งหมด
 

หมายเลขบันทึก: 50921เขียนเมื่อ 20 กันยายน 2006 14:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 18:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท