นิทานกลางชานบ้าน
ขับขานเรื่องราวแต่หลัง
ฟังแม่นางสิบสอง
ฟังพ่อเล่าท้าวสามล
ลมหนาวพรูหัวค่ำ
พระจันทร์ย้ำความนุ่มนวล
อบอุ่นและอบอวล
มวลมิตรรักในครอบครัว
ใกล้ไกลห่างแค่ทาง
อาจอ้างวางดูห่างตัว
ใจเราจังหวะรัว
ใกล้เพียงเดือนดวงเดียวกัน
จันทร์ฉายเสี้ยวถึงอิ่ม
เติมเต็มวิ่นจนครบครัน
เปล่งแสงกระจายพลัน
หันสดใสให้ผองชน
อ่อนนุ่มมิอ่อนแอ
ฝ่าเมฆแก้ทิศทางลม
เฉไฉไม่หายจม
มั่นคงถึงจุดหมายไกล
ชีวิตลิขิตไว้
โคจรรอบสิ่งหนึ่งใด
ฉายแสงเปล่งประกาย
ฉายความดีด้วยนุ่มนวล
ฝันดีใกล้คืนพระจันทร์เต็มดวงนะคะ
^_,^
เขียนที่บ้านหนองคาย ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑
พระจันทร์ขึ้น ๑๓ ค่ำ จากชานบ้านอุดร
:)
พลาดแล้วเรา....ต้องเข้าเมือง....อดเลย คืนวันเพ็ญ.....ออกพรรษา + งานกฐินฯ
พระจันทร์ สวย ปน เศร้า นิดๆๆ นะคะ ท่าน อจ. หมอธิรัมภา
โอ.....อาจารย์เป็นคนเมืองในบางคืน
เสียดายด้วยนะคะ ในเมืองแสงสีเยอะไปหน่อย
ที่บ้านอุดร เป็นหลังสุดท้ายของหมู่บ้าน ติดชายทุ่ง ไม่มีใครบัง ไม่มีแสงไฟฟ้าข่ม
แสงจันทร์แต่ละคืนจึงสวยแตกต่างไปตามท้องฟ้า เมฆ ลม และข้างขึ้น - แรม
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ อาจารย์ วิชญธรรม
P'Ple คิดคำนึงระลึกถึงใครอยู่ละคะ ?
ขอบคุณมากค่ะ
แต่งกลอนได้ยอดเยี่ยมมากๆ เลยครับ
บ่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหมอแข่วสิแต่งกลอนได้ดีจังซี่ 555
ยอดเยี่ยมหลายๆ เลยครับ คุณหมอ
ว้าว !!!! คำชมคุณอักขณิช ขอบคุณมากค่ะ
อักขณิช |
แต่ว่าทำไมมี 555 ด้วยละคะ
เหมือนไม่คิดว่าจะกินงูสิงได้......แม่นบ่
สุขสงบกับแสงจันทร์ยามค่ำคืน..ใจตรงกันเลยค่ะ..
ภาพชัดมากเลยครับ ไม่กล้าออกไปไหนตอนกลางคืน กลัวมนุษย์หมาป่า 555
ขอบพระคุณที่ใจตรงกันนะคะคุณป้าใหญ่