การเรียนรู้เรื่องของข้าวปลาอาหาร ทำให้เด็กมีความหนักแน่นเพิ่มมากขึ้น ความหนักแน่นนั้นได้มาจากการตั้งคำถามเอากับปราชญ์ชาวบ้านที่แวะมาทำหน้าที่ "ครู" ให้กับเด็กๆ
การจัดการเรียนการสอนในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องให้เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลายและเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง การตั้งคำถามเรื่องที่พบเห็นอยู่ทุกวันก็สำคัญ
"ก่อนจะได้ข้าวที่พร้อมสำหรับกิน ลูกว่าลำบากไหม" ครูชาวบ้านตั้งคำถามเอากับเด็กๆ บ้าง เมื่อเห็นความกระตือรือร้นในแววตาที่ขอลองทำทุกขั้นตอนของการทำนา
เรื่องธรรมดานี่ล่ะที่ถูกละเลย ถูกมองข้ามและเห็นว่าไม่สำคัญเอาเสียเลย ก่อนจะลงสนามจริง ได้พาเด็กปลูกข้าวในกระถาง เราเรียกมันว่า "ข้าวกระถาง" เด็กๆ เห็นแล้วว่ากว่าจะได้ข้าวเป็นเม็ด ใช้เวลานานหลายเดือน แต่คราวนี้สนามท้องนาทำให้เด็กรู้เพิ่มมากขึ้นอีกนะว่า "ข้าวเปลือก" ก็ยังกินไม่ได้นะเออ
ในการเดินทางไกลครั้งนี้ ทำให้ครูในห้องเรียน ต้องยอมแพ้ให้แก่ครูนอกห้องเรียน จะกล่าวให้ถูกหลักการก็คงเข้าทำนอง การจัดการศึกษาโดยให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม
การศึกษาที่อยู่ในห้องเรียนขาดโอกาสหลายอย่างที่ทำให้เด็กๆ เซื่องซึมลงไป หลายครั้งที่นอกห้องเรียนสว่างไสวจนทำให้คนในกรอบสี่เหลี่ยม "ได้คิด" กระทั่งความมีชีวิตชีวาของเด็กๆ เป็นตัวเฉลยเมื่อเขาได้มีโอกาสออกจากห้องสี่เหลี่ยม
และนอกห้องสี่เหลี่ยมสำคัญนักคือพวกเขาได้ลงมือทำมากกว่าจำทฤษฎี ข้าวสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง คำตอบแจ้วๆ ของเด็กๆ ในห้องเรียนได้ถูกลงมือทำด้วยมือเล็กๆ นั้นเอง
นอกจากได้ลงมือทำแล้ว การเดินทางไกลหนนี้ทำให้เด็กๆ ได้ค้นพบ "ราก" ของสิ่งใกล้ตัวที่ดื่มกินอยู่ทุกวัน บางทีการจัดการเีรียนการสอนนอกห้องก็ทำให้ "เพิ่งคิดได้" ว่า เรากางแผนที่กลับด้านในห้องสี่เหลี่ยมมาเสียนาน
กลับคืนสู่รากเหง้า
ดีใจแทนเด็กๆที่มีห้องเรียนแบบนี้ครับ...
เด็กๆ สนุกมากค่ะ แล้วก็ยังเกิดความรู้สึก "ศรัทธา" ในการกินข้าวมากขึ้น (ระยะหนึ่ง) พยายามจะหาอะไรให้เด็กๆ ทำมากกว่าห้องสี่เหลี่ยมค่ะ