บันทึกประชุมคดี สมศักดิ์[1]
: เด็กไร้สัญชาติในความดูแลของมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ซึ่งจะเป็นบุตรบุญธรรมชาวต่างชาติ คือ คุณ Jil (คนสัญชาติอเมริกัน) และคุณ Jack (คนสัญชาติอิตาลี)
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2555
ผู้ร่วมประชุม
คุณ Jil Sharon MoraMarco ภรรยา
คุณ Jack Patrick MoraMarco สามี
นายสมศักดิ์
คุณบงกช นภาอัมพร คณะทำงานโครงการบางกอกคลินิกฯ
อาจารย์วิศรุต สำลีอ่อน อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
คุณพวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ คณะทำงานโครงการบางกอกคลินิกฯ
ข้อเท็จจริงของสมศักดิ์[2]
ช่วงเรียนประถมศึกษาปีที่ 1-6
ช่วงกำลังจะจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ปัจจุบัน
ประเด็นซักถามจากสมศักดิ์ และคุณ Jil คุณ Jack
เด็กทั้งสองคนซึ่งเป็นน้องของสมศักดิ์ ไม่มีเอกสารประจำตัวใดๆ
กรณีนี้ ทางมูลนิธิสร้างสรรค์แจ้งกับโครงการบางกอกคลินิกว่า เด็กทั้งสองเคยได้รับการสำรวจโดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์แล้ว ดังนั้นทางโครงการบางกอกคลินิกฯ จึงแนะนำให้ สมศักดิ์ลองถามโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ว่าเคยสำรวจให้น้องทั้งสอง หรือไม่ เพราะเด็กทั้งสองอาจจะได้รับการสำรวจและกำหนดเลขแล้ว แต่เรื่องอาจจะค้างอยู่ในขั้นตอนหนึ่ง
แต่ถ้ายังไม่ได้รับการสำรวจ ก็ให้ติดต่อกับ 1) อำเภอหนองม่วง หรือ 2) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ซึ่งมีหน้าที่สำรวจเด็กที่ยังไม่มีเลข 13 หลัก
ประเด็นเรื่องการเดินทางเพื่อมาเรียนหนังสือ
สมศักดิ์ต้อง ขออนุญาตออกนอกพื้นที่มาศึกษาตลอดหลักสูตร ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอนุญาตให้บุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทยออกนอกเขตควบคุมเป็นการชั่วคราวเพื่อเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ.2553
ส่วนกรณีเดินทางออกนอกพื้นที่ทั่วไป ก็ต้องขออนุญาตตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับและกำหนดเขตพื้นที่ควบคุม เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2552
ประเด็นเรื่องสิทธิในสัญชาติไทย
เป็นประเด็นที่ คุณ Jil คุณ Jack และสมศักดิ์กังวล ซึ่งทางโครงการบางกอกคลินิก ได้ชี้แจงว่าประเทศได้วางกรอบยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาสถานะบุคคลของ คนไร้สัญชาติ ประเภทเด็กในสถานะศึกษาและประเภทคนไร้รากเหง้าไว้ แต่แนวทางของคนในกลุ่มดังกล่าวก็ยังถูกแบ่งเป็น 1) กลุ่มคนเกิดในประเทศไทย(ซึ่งมีสิทธิในสัญชาติไทยได้โดยการร้องขอ หากมีข้อเท็จจริงอื่นครบตามเงื่อนไข) 2) กลุ่มคนที่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย (ซึ่งจะได้รับการพัฒนาสถานะเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย)
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาสถานะตามแนวทางดังกล่าว ยังไม่มีการออกขั้นตอนในทางปฏิบัติที่ชัดเจน และในกรณีของสมศักดิ์ มีปัญหาในแง่ที่ไม่สามารทราบข้อเท็จจริงเรื่องสถานที่เกิดได้ จึงอาจจะต้องรอนโยบายของรัฐไทยต่อไป
แต่เรื่องสิทธิขั้นพื้นฐาน และสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น สิทธิในการศึกษา สิทธิในการรักษาพยาบาล สิทธิในการเดินทาง กฎหมายไทยรับรองเรื่องดังกล่าวให้กับคนไร้สัญชาติอย่างสมศักดิ์เช่นเดียวกัน
ประเด็นเรื่องการรับบุตรบุญธรรม
จากการศึกษาข้อกฎหมายเรื่องการรับบุตรบุญธรรมของประเทศไทย ประเทศอิตาลีและประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคณะทำงานโครงการบางกอกคลินิกฯ และอาจารย์วิศรุต สำลีอ่อน[3] ทราบว่ามีความเป็นไปได้ที่คุณ Jack จะรับสมศักดิ์เป็นบุตรบุญธรรมโดยกฎหมายรับบุตรบุญธรรมของประเทศไทย และของประเทศอิตาลี ซึ่งหากกระบวนการรับบุตรบุญธรรมสำเร็จลง ก็มีความเป็นไปได้ที่สมศักดิ์จะอาศัยจุดเกาะเกี่ยวดังกล่าวกับประเทศอิตาลี เพื่อร้องขอสัญชาติอิตาลี ตามกฎหมายสัญชาติของอิตาลีต่อไป
ส่วนการรับบุตรบุญธรรมโดยคุณ Jil ตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกาจะไม่ยอมรับการรับเด็กที่อายุเกินกว่า 16 ปีเป็นบุตรบุญธรรม
อย่างไรก็ตาม คุณ Jack แจ้งว่าการรับบุตรบุญธรรมตามกฎหมายอิตาลีนั้น มีกระบวนการที่ยุ่งยากและซับซ้อน ในลักษณะที่ต้องผ่านกระบวนการทางศาล และอาจจะต้องใช้เวลาถึง 10 ปี
ดังนั้นขณะนี้ทั้งคุณ Jil และคุณ Jack จึงตัดสินใจที่จะยังไม่ได้ดำเนินการเพื่อรับบุตรบุญธรรมแต่อย่างใด
[1] บันทึกโดย พวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ นักกฎหมายโครงการบางกอกคลินิกฯ
[2] จากการสอบปากคำของสมศักดิ์ โดยอาจารย์บงกช และบันทึกปากคำโดยอาจารย์พวงรัตน์
[3] อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และนักศึกปริญญาเอก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ทำวิทยานิพนธ์ในประเด็นเรื่องครอบครัวข้ามชาติ
สมศักดิ์จำช่วงชีวิตที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการสิทธิไม่ได้เลยหรือ ซึ่งขั้นตอนนี้ จะมีประโยชน์ที่จะผลักดันต่อนะคะ ถ้ากรรมการสิทธิฯ จะทำต่อ