เหตุเนื่องมาจากได้พบเจอคนที่สนใจจะมาทำหน้าที่เป็นผู้สอนในมหาวิทยาลัย
....ช่วงนี้มีคนมาสมัครเพื่อสอบคัดเลือกเป็นอาจารย์จำนวนมาก มหาวิทยาลัยได้จัดบริการสถานที่และวัสดุ อุปกรณ์พื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัคร บริเวณหน้าทางขึ้นอาคาร....
มีเรื่องเล่าเล็ก ๆ น้อย ๆ มาแบ่งปันเผื่อใครไปสมัครงานควรศึกษารายละเอียดประกาศรับสมัครให้ดี...
เมื่อสองวันก่อน ..
อาจารย์กฤษฎา (คุณสามี) นั่งตรวจสอบเอกสารให้กับผู้สมัครรายหนึ่งที่เอกสารไม่ครบ มีผู้สมัครคนหนึ่งต้องการสมัครในตำแหน่งอาจารย์สาขานิติศาสตร์ เดินตรงเข้ามาสอบถามว่า
ผู้สมัคร " น้อง ๆ พี่จะมาเป็นอาจารย์นะทำไมต้องสอบความรู้ความสามารถทั่วไปด้วย "
อ.กฤษฎา " การทดสอบวิชาความรู้ความสามารถทั่วไปประกอบด้วย คณิตศาสตร์พื้นฐาน ภาษาอังกฤษพื้นฐาน วิชาวัดแววความเป็นครู เหตุการณ์โลกปัจจุบัน เป็นต้น เพื่อทดสอบว่ามีความสามารถในการสื่อสารและคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่หรือไม่ "
ผู้สมัคร " ไม่จำเป็น เพราะสอนเฉพาะสาขา "
จำไม่ได้ว่า อ.กฤษฎา ตอบไปว่าอย่างไร แต่อีกไม่กี่นาทีก็กลับไปเพราะ ผู้สมัครคนนั้นมีเอกสารไม่ครบถ้วน
@________@
...........................................
วันนี้ก่อนเที่ยง แวะไปทำธุระที่ห้องธุรการ สำนักงานอธิการบดี
มีผู้สมัครสตรีคนหนึ่ง ตะโกนเรียกเสียงดัง " อาจารย์ขา หนูมาสมัครสอบเป็นอาจารย์คะ "
ตัวเองก็ถามไถ่ความเป็นมา สารทุกข์กันเล็กน้อย สรุปได้ความว่า
"เรียนจบจากที่นี่ วท.บ.สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร จากนั้นไปทำงานเป็นครูสอนอนุบาลที่กรุงเทพฯ เลยมีโอกาสศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพครู และเพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาเศรษฐสาสตร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กลับมาบ้านที่นราธิวาสเพื่อหางานทำ ตอนนี้ว่างงาน "
ก่อนแยกย้ายกัน ลูกศิษย์บอกว่า " อาจารย์ขา หนูไม่ค่อยฉลาดเท่าไร กว่าะเรียนจบมาได้เพื่อนหนูยังงว่าโง่อย่างหนูเรียนจบมาได้อย่างไร หนูไม่รู้ว่าจะสอบได้หรือเปล่า อาจารย์ช่วยหนูหน่อยนะคะ ฝากงานที่นี่ให้หนูหน่อย "
ด้วยความมึนงง เลยตอบไปว่า "การที่จะให้ครูช่วยฝากงานให้ในตำแหน่งอาจารย์นะคงไม่ได้ เพราะว่าประกาศมหาวิทยาลัยคือ การสอบคัดเลือกบุคคลมาเป็นอาจารย์ ไม่ได้ประกาศว่ารับฝากบุคคลที่เหมาะสมมาเป็นอาจารย์ การสอบแข่งขัน มีผู้สมัครจำนวนมาก ต้องมีทั้งคนที่สอบได้และไม่ได้ ในการสอบแต่ละครั้งมีคณะกรรมการมากมายหลายชุดที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง ดังนั้นที่มีคนพูดว่า ฝากเข้ามาทำงานที่นี่น่าจะไม่มี ที่ผ่านมาทำงานได้ ต้องสอบผ่านวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป ความรู้เฉพาะตำแหน่ง สอบการสอนหรือปฏิบัติ และการสอบสัมภาษณ์ ตั้งใจอ่านหนังสือมาสอบนะคะ ส่วนเรื่องฝากนั้นครูช่วยไม่ได้คะ "
จากนั้นก็แยกย้ายกันไปพร้อมความมึนงง...
กลับมานั่งคิดทบทวนดูอีกรอบ.....เด็กอุตส่าห์บอกว่า ไม่ค่อยฉลาดเท่าไร แต่ไฉนเรียนจบมาได้ทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท แสดงถึงอะไรเนี่ย.....แถมจะมาเป็นอาจารย์อีก.......แบบนี้ต้องแย่แน่ ๆ หากสอบได้คนที่ไม่ฉลาดเท่าไร มาเป็นผู้สอนหนังสือเนี่ย ผลออกมาจะเป็นอย่างไร ......
น่าสงสารผู้เรียนจังเลยคะ
^_______<
.............................................................................
ขอบคุณ. ดอกไม้ กำลังใจจากกัลยาณมิตรทุกท่านนะคะ
555...ปัญหาจะคล้าย ๆ กันเลยนะคะ...ใคร ๆ ก็อยากจะเป็นอาจารย์ แต่เริ่มแรกก็ไม่มีจรรยาบรรณสะแล้ว...
นั่นสิคะพี่ บุษยมาศ
นอกจากไม่รู้จักคำว่า "จรรยาบรรณ" แล้วยังไม่รู้จักคำว่า "จิตสำนึก มารยาทและสุภาพ" อีกด้วยคะ...
เมื่อไม่กี่วันมีอาจารย์ใหม่จะมาเข้าประชุม แต่งกายด้วยเสื้อตัวยาวอยู่นอกกางเกงคาดเข็มขัดเล็กๆ รองเท้ารัดส้นแต่เปลือยนิดๆ
พอทักว่า "หากจะเข้าประชุมควรแต่งกายสุภาพคะ"
อาจารย์นั้นย้อนมาถามว่า "แบบนี้ไม่โอเหรอ"
คนถามแอบ.งง.อิอิ....