สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
๐ ข้าขอน้อมอภิวาทพระบาทพระชินสีห์
ผู้ทรงพระปรานี นรา
๐ อีกคุณแห่งวรธรรมพระเผยเพราะกรุณา
เวไนยสัตตา สดับ
๐ พร้อมหมู่ภิกษุลุถึงวิมุตติ์อริยะนับ
เนื่องในอเสขทรัพย์ อุดม
๐ กราบแทบเท้าชนกาและมาตรบรม
คงคุณประดุจพรหม พิจิตร
๐ อีกอาจารย์วินิตาวิสัยและวรวิชญ์
ปรานีประสาทสิทธิ์ ปริญญ์
๐ ด้วยเดชาคุณธรรมพยาธิอสุภิณ
จงหายมลายสิ้น สกนธ์
สาลินีฉันท์ ๑๑
๏ เหตุการณ์ที่ผ่านรู้ พินิจดูเถอะปัญญา
ทุกสิ่งนั่นคืออา จรีย์สอนสิรับเอา
๏ ผ่านแล้วไม่ผ่านล่วง จิตาดวงมิขลาดเขลา
หนาแน่นนั่นขัดเกลา จะบางเบาเพราะเพียงตน
๏ สิ่งเร้าที่เข้ามา พิจารณ์จ้ากระจ่างมน
รู้รับไยสับสน ฉลาดรู้และดูเป็น
๏ สังเกตทุกแห่งหน จะเป็นคนฉลาดเห็น
เป็นอยู่ย่อมสุขเย็น เพราะใจนี้สิวางเฉย
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
๏ เป็นอยู่จะลาลับ ชิวะดับมิรู้เลย
โรคใดสิใกล้เกย ก็มิทราบอนิจจัง
๏ อีกอย่างสถานที่ ปฐพีจะกลบฝัง
เวลาจะภินท์พัง ก็มิรู้ฤดูเดือน
๏ กรรมซัดอุบัติใหม่ ณไผทผิว์รางเลือน
มีบุญก็หนุนเหมือน สุขะนั้นจะพลันเห็น
๏ มีบาปก็ตามติด จะสะกิดมิอยู่เย็น
ลำบากและทุกข์เข็ญ ก็เพราะกรรมกระทำเอง
๏ เหล่านี้มิทราบไซร้ ขณะใดก็รีบเร่ง
ขวนขวายมิหวั่นเกรง สุประกอบสิชอบธรรม
ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
๏ ประจักษ์จริง ณ มิ่งแก้ว พิสุทธิ์แผ้วธุลีปน
สดับแล้วหทัยคน ผิว์เอ่ยเอื้อนมิเหมือนเคย
๏ อนิจจังประดังสู่ เพราะเพิ่งรู้เพราะเพื่อนเผย
อนุชนี้มิมีเปรย ละอายใจ ฤ ไรกัน
๏ ก็รู้ว่าจะคลาคลาด ก็มิอาจจะห้ามศัลย์
เพราะโง่เขลามิเท่าทัน มนัสมั่นก็พลันไหว
๏ ประสบซึ้งสิพึงจำ อุราช้ำจะดีไหม
ก็มีทุกข์สิคลุกใจ จะโทษใครก็ไม่ดี ๚๛
นมัสการพระคุณเจ้า ชื่นชอบฉันท์ ของพระคุณเจ้ามาก โดยเฉพาะ อินทรวิเชียร ครู-ลหุ ทำให้ดูตื่นเต้น และหนักแน่นน่าเลื่อมใสมากครับ!..
ขอบคุณอาจารย์ทั้งสองท่านมาเยี่ยมมาให้กำลังใจ ก็ทดสอบแต่งดูไปอย่างนั้นแหละอาจารย์ เผื่อบางทีจะได้เขียนจริงจังเกี่ยวกับธรรมะไว้บ้าง ขอให้อาจารย์ทั้งสองมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงครับ