การเลี้ยงกบในบ่อพลาสติก
โดย นายลีนะวัตร เศษศรี
การเลี้ยงกบในบ่อพลาสติก ดัดแปลงมาจากการเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก พยายามหาเทคโนโลยีใหม่เพื่อพัฒนาเกษตรกรที่สนใจและได้ทำการทดลองแล้ว ปรากฏว่า การเลี้ยงกบในบ่อพลาสติกนี้ จะมีผลตอบแทนมากกว่า การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก เพราะสามารถเพิ่มจำนวนกบที่เลี้ยงและขยายพื้นที่เลี้ยงได้ และเลี้ยงได้หลายรุ่นและขยายจำนวนบ่อของเกษตรกรได้
พันธุ์กบที่นำมาเลี้ยง
กบที่เหมาะสมจะนำมาทำการเพาะเลี้ยงนี้ ได้แก่ กบนา ซึ่งถ้าเลี้ยงอย่างถูกต้องตามวิธีการจะใช้เวลาเลี้ยงเพียง 4-5 เดือน จะได้กบขนาด 4-5 ตัว / กก. เป็นกบที่มีความเจริญเติบโตเร็ว
การสังเกตเพศ กบนาตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย และส่วนที่เห็นได้ชัดคือ กบนาตัวผู้เมื่อจับพลิกหงายขึ้นจะเห็นมีกล่องเสียงอยู่ใต้คางแถวๆ มุมปากล่างทั้งสองข้าง ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ กบนาตัวผู้จะส่งเสียงร้องและในขณะที่ร้องนั้นส่วนของกล่องเสียงจะพองโตและใส
อัตราการปล่อย
50-100 ตัว / ตร.ม. การเลี้ยงกบ จำเป็นต้องคอยคัดขนาดของกบให้มีขนาดเท่าๆ กัน ลงเลี้ยงในบ่อเดียวกัน มิฉะนั้น กบใหญ่จะรังแกและกินกบเล็ก
การให้อาหาร
อาหารที่นิยมเลี้ยงกบมีด้วยกัน 2 แบบ คือ
1. อาหารสด ได้แก่ หนอน , ปลวก , แมลง ต่างๆ,ปลาเป็ด และไส้เดือน เป็นต้น
2. อาหารสำเร็จรูป ได้แก่ อาหารเม็ดสำหรับปลาดุก และอาหารเม็ดสำหรับกบ
การให้อาหาร ควรให้วันละ 2 ครั้ง คือเช้าและเย็น พยายามอย่าให้อาหารเหลือในบ่อมากเพราะจะทำให้น้ำในบ่อเน่าเสียได้
วัสดุอุปกรณ์ต่อ 1 บ่อ
- พันธุ์กบขนาด 2 เซนติเมตร จำนวน 100 ตัว
- อาหารปลาดุกเล็ก จำนวน 30 กิโลกรัม
- พลาสติกดำ (ปูบ่อ) ขนาด 2 X 2 เมตร จำนวน 1 ผืน
- ตาข่ายอวน (กันงู ,นก) จำนวน 1 กิโลกรัม
- มุ้งเขียว จำนวน 1 ม้วน
ผลตอบแทน
รายได้จากการจำหน่ายกบ ปล่อยกบ 100 ตัว อัตรารอด 80% คงเหลือ 80 ตัว เลี้ยงประมาณ 4 เดือน ได้กบขนาด 5 ตัว/ กิโลกรัม การเลี้ยงรุ่นที่ 2 ไม่ต้องลงทุน ผ้าปูบ่อพลาสติก และมุ้งเขียว
โรคและการป้องกัน
ปัญหาโรคของกบที่เกิดขึ้น มักเกิดจากความผิดพลาดของการเลี้ยงและการจัดการ โรคที่พบบ่อยๆ ได้แก่
1. โรคท้องบวม สาเหตุเกิดจากการปล่อยลูกอ๊อดหนาแน่นเกินไป มีการให้อาหารปริมาณมาก ทำให้คุณภาพน้ำในบ่อเน่าเสีย ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำ
2. โรคแผลที่หัวและลำตัว บริเวณหัวและลำตัวของกบจะเป็นแผลเน่าเปื่อย สาเหตุเกิดจากสภาพบ่อสกปรกมาก ดังนั้นควรเปลี่ยนถ่ายน้ำ
หากไม่อยากให้เกิดโรค ไม่ควรเลี้ยงกบหนาแน่นเกินไป หรือ ถ้าพบกบตัวใดมีอาการผิดปกติควรจับแยกออกเลี้ยงต่างหาก และควรดูแลเรื่องระบบน้ำในบ่อให้ดีอยู่เสมอ
ไม่มีความเห็น