ยามค่ำคืนที่แสนเดียวดายเพราะขาดความรู้และคำตอบที่ชัดเจนอันเป็นปัญหาของนักศึกษาพยาบาล คงเป็นค่ำคืนที่พร้อมจะนำแผนการพยาบาลไปให้กับผู้ป่วยด้วยใจที่ปิติยินดี ซาบซึ้งคุณค่าของวิชาชีพที่เกิดประโยชน์แก่สังคม
เรื่องเล่าจากคณะพยาบาลศาสตร์
ทิพยวรรณ นิลทยา
เสียงสวดมนต์และกล่าวคำปฏิญาณในยามเย็นของนักศึกษาพยาบาลกระหึ่มไปทั่วคณะ เสียงดังกล่าวบ่งบอกถึงคำมั่นสัญญาที่จะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ปฏิบัติในทางที่มีคุณ เพื่อประโยชน์สุขของเพื่อนมนุษย์ทั้งปวง…ราตรีนี้เพิ่งเริ่มต้น ด้านหน้าคณะมีโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยคับคั่ง และญาติมิตรที่มาเยี่ยมเยียน หากไม่มีเสียงสวดมนต์นี้หากฟังดีๆจะพบว่ามีเสียงความเจ็บปวดแทรกแว่วๆเป็นระยะ
หลังจากการสวดมนต์แล้ว อาจารย์เวร และนักศึกษาเวรสุขภาพจะแจ้งเรื่องราวต่างๆให้กับสมาชิกได้รับทราบ รวมทั้งการค้นหาและดูแลนักศึกษาที่มีการเจ็บป่วย ดูแลด้วยองค์ความรู้เบื้องต้นทางการพยาบาล จากนั้น นักศึกษาทุกคนเริ่มปฏิบัติภารกิจของตนเอง อาจมีการจับกลุ่มเข้ากลุ่มเพื่อเริ่มทำงานตามที่อาจารย์มอบหมายในแต่ละรายวิชา เสียงอื้ออึงสอบถามภารกิจที่ได้รับมอบหมายดังเพิ่มขึ้น เริ่มมีการจับจองสถานที่บริเวณใต้อาคารเรียนที่เรียกว่า ห้องสีชมพู ที่นี่มีโต๊ะนั่งเป็นกลุ่ม มีอินเตอร์เน็ตไร้สาย และปลั้กมากมายสำหรับไว้บริการ พร้อมๆกับความมืดที่เข้าปกคลุม เหล่านี้ล้วนเป็นชีวิตประจำวันที่นักศึกษาพยาบาลต้องพานพบ และเป็นสีสันที่นักศึกษาพยาบาลทุกคนในคณะพยาบาลศาสตร์ได้พบเจอ
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งมาตั้งแต่ปี 2505 มีพัฒนาการทั้งการตั้งชื่อและหลักสูตรมาตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา เดิมเป็นโรงเรียนผู้ช่วยพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลนราธิวาส วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นราธิวาส และปัจจุบันเป็นคณะหนึ่งสังกัดมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ความเป็นมาดังกล่าวชวนให้นึกถึง เพลงมาร์ช คณะพยาบาลศาสตร์ ที่ว่า
สถาบันการศึกษาพยาบาล ที่ตั้งมายาวนานชายแดนใต้
เพื่อตามรอยพระมารดาพยาบาลไทย ด้วยดวงใจทุกเมื่อเอื้ออาทร
พยาบาลประสานใจเพื่อชุมชน เด่นด้วยธรรมงามล้นหนทางสอน
ร่วมใจกันสมานฉันท์ไม่สั่นคลอน ดุจดังพรคงมั่นคู่แผ่นดิน
ช่อดอกปีบสีขาวพราวดูเด่น ประจักษ์เห็นในสายตาประชาถิ่น
งามน้ำใจใฝ่ศึกษาซี่งอาจินต์ มิลืมสิ้นกรุณาและปราณี
พยาบาลศาสตร์เรานราธิวาส ต่างมุ่งมาดนำชีวาพาสุขศรี
พวกราพร้อมจะตั้งมั่นสร้างความดี เพื่อความสุขทุกชีวีน้องพี่ชาวไทย
นับเป็นเรื่องแปลกไม่น้อยที่สถาบันแห่งนี้ตั้งมานาน และอยู่ในพื้นที่ที่มีความไม่สงบ แต่มีผู้มาสมัครเข้าเรียนวิชาชีพมากมาย บิดามารดาต่างรู้สึกภาคภูมิใจที่ลูกได้เข้าเรียนพยาบาล นักศึกษาเองมีการเรียนรู้ที่จะดำรงตนอยู่ท่ามกลางความสงบ ยึดหลักศาสนาเป็นที่ตั้ง นั่นหมายถึงว่า สถานการณ์ไม่สามารถบั่นทอนความมั่งมั่นในการก้าวเข้าสู่วิชาชีพพยาบาล อันเป็นวิชาชีพที่สังคมให้เกียรติว่าสำคัญและขาดเสียไม่ได้
ลมเย็นพัดมาเป็นระยะ แสงไฟยังสว่างไสวแม้นจะใกล้เที่ยงคืนแล้ว นักศึกษาแทบทุกคนนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ คิ้วเริ่มขมวดเข้าต่างกับบรรยากาศในช่วงเริ่มต้นอย่างลิบลับ หวนให้คิดว่า หากยามนี้ได้เอนกายลงนอนในหอพักคงสุขไม่น้อย
“ดะห์ อาการปัจจุบันเขียนยังไง?”เสียงนักศึกษาสอบถามจากเพื่อน ยามเที่ยงคืนนี้หรือแม่หนูน้อย เพิ่งเริ่มกรอกข้อมูลในส่วนแรก
“แล้วที่เขียนนี่ใช่อาการปัจจุบันหรือปล่าว?” เอาล่ะแม่หนูที่เป็นเพื่อนก็เริ่มงงหลังจากที่เพื่อสอบถาม
“ขอดูข้อวินิจฉัยการพยาบาลของเธอหน่อย เขียนยังไง” แม่หนูของเราเริ่มสร้างสัมพันธภาพ เกิดการพัฒนานวัตกรรม
“เราก็เลียนแบบที่อาจารย์แจกชีท” แม่หนูอีกคนช่างเป็นศิษย์มีครุดีแท้ เลียนแบบเสียทุกอย่าง แล้วอาการผู้ป่วยที่แตกต่าง อีกทั้งบริบทอื่นๆจะเหมือนกับตัวอย่างของอาจารย์ได้อย่างไร
เสียงฝีเท้าวิ่งเข้าใกล้ นักศึกษาทุกคนหันไปมอง ในใจคงนึกตำหนิว่า ใครหนอช่างวิ่งมายามดึกดื่นเที่ยงคืนเช่นนี้
“เธอช่วยส่งPlan เป็นตัวอย่างให้เราหน่อย เพิ่งกลับจากซ้อมบอลมาขออนุญาตลุงยามเข้ามาแป๊บเดียว Copy ไม่ทัน ส่งให้เราทางเมลล์นะ พรุ่งนี้จะได้มีส่งอาจารย์ที่วอร์ด” เสียงห้าวๆกล่าวแล้วเดินจากไปอย่างเร่งรีบ สาวๆมองหน้ากันเหลอหลาจะส่งให้เพื่อนชายได้อย่างไร ในเมื่อตัวเองก็ยังไม่เสร็จ
ความทุกข์ของการเรียนพยาบาลเริ่มเกิดขึ้นยามนี้ หลังเที่ยงคืน ความภาคภูมิใจ ความมีเกียรติ การเป็นวิชาชีพที่มีคุณค่าต่อสังคมบดบังความง่วงหงาวหาวนอนไม่ได้เสียแล้ว แล้วจะไปถึงฝั่งของความเป็นพยาบาลได้อย่างไร ช่างทุกข์ทรมานเหลือเกิน คำถามเริ่มเกิดึ้นในใจ ทำไมต้องวางแผนการพยาบาลช่างยุ่งยากเหลือเกิน
อาจารย์พยาบาลที่รักรับรู้ถึงความทุกข์ของศิษย์เหล่านี้ เข้าใจความทุกข์ที่เกิดเพราะประสบการณ์ในชีวิตนักศึกษาพยาบาลยังตราตรึง แถมบอกให้ศิษย์รู้สึกดีว่า สมัยนี้ยังดีนะคะ สมัยครูอาจารย์ Google ไม่มีครูต้องรีบเข้าจับจองหนังสือในห้องสมุดก่อนห้องสมุดปิด เหนื่อยกว่าหนูเยอะบางคืนที่ต้องวางแผนการพยาบาลครูแทบไม่ได้นอนจนถึงรุ่งเช้า แต่งตัวแล้วขึ้นวอร์ดเลย
เอ...อาจารย์ขาคุณภาพการพยาบาลจะเกิดหรือไม่?
ห้องเรียนในฝัน...เป็นอย่างไร
ห้องเรียนในฝันวันนี้ของนักศึกษาพยาบาล ที่อยากให้มีน่าจะสอดคล้องกับ การจัดการความรู้ในโมเดลปลาทูของ สคส.ดังนี้
-
ห้องเรียนที่อาจารย์และนักศึกษามีส่วนร่วม
เป็นการกำหนดในส่วนหัวปลา ตัวอย่างเช่น
“ทำอย่างไรให้นักศึกษาพยาบาลสามารถวางแผนการพยาบาลได้อย่างมีคุณภาพและเกิดความสุข”
แค่คิดประเด็นนี้ เชื่อว่านักศึกษาคงสุขขึ้นมากมาย อาจารย์ไม่ใช่คำเฉลยสุดท้าย แต่เป็นผู้กระตุ้นการเรียนรู้ที่อยู่ข้างๆช่วยให้นักศึกษาที่เริ่มหัดเดินๆให้เดินตรงทาง โดยไม่หกล้มและกลัวการเดินนี้เสียก่อนจะช่วยสร้างความรู้สึกรักในวิชาชีพพยาบาลให้เกิดขึ้นเหมือนเมื่อแรกเข้าด้วย..อิ่มใจที่ได้คิดประเด็นห้องเรียนในฝันนี้ค่ะ
2.ห้องเรียนที่สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ตรงจริตของนักศึกษาในปัจจุบัน
ห้องเรียนนี้ต้องเกิดจากความต้องการของนักศึกษาและความร่วมมือของอาจารย์ทุกท่าน ความใกล้ชิด สัมพันธภาพระหว่างอาจารย์พยาบาลและนักศึกษาจะส่งผลความห่วงใยของอาจารย์ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม หรือ อาจใช้ระบบอาจารย์ที่ปรึกษาได้เข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้ระบบเข้มแข็งขึ้น ทั้งนี้เหมือนเราสอนการบ้านลูกๆที่บ้าน ถือเป็นหน้าที่และสร้างจิตสำนึกของอาจารย์ในการสร้างจิตอาสาท่ามกลาง สถานการณ์ความไม่สงบ อาจารย์ไม่ต้องเดินทางกลับบ้านมืดค่ำเพราะเสี่ยงอันตราย
ในยุคปัจจุบันนักศึกษาแทบจะอยู่ในโลก Online อาจารย์เองก็ไม่แตกต่างเช่นกันสาะวนที่จะส่งผ่านความรู้ ความคิดเห็น..ผ่านสื่อเครือข่ายสาธารณะ...ตรงกับจริตทั้งอาจารย์และนักศึกษาเลยเชียว ถึงตอนนี้แล้วทำใไ้หวนคิดถึงคำบรรยายของท่านอาจารย์ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร อธิการบดีมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ที่ท่านได้บรรยายเรื่อง แนวโน้มนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ที่ผู้ทำหน้าที่อาจารย์ต้องรู้เท่าทันความต้องการของนักศึกษา พยายามเรียนรู้และใช้สื่อต่างๆที่นักศึกษาชอบให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เช่น การใช้มือถือ การใช้สื่อสาธารณะอื่นๆที่นักศึกษาชอบและมีความสุขที่สำคัญต้องฝึกให้นักศึกษารู้จักการใช้งานให้เกิดประโยชน์กับตนเองและสังคม
ช่องทางที่พบบ่อย คือ face book นอกจากเรื่อสัปเพเหระแล้วน่าจะได้ประโยชน์จากส่วนนี้เพราะมีผู้เป็นสมาชิก เป็นเพื่อนกันมาก หรือช่องทางที่เห็นหน้าเห็นตากันก็ได้ เช่น Twitter แต่อาจารย์หลายท่านอาจไม่สะดวกเพราะรู้สึกเหมือนมีคนมาเยี่ยมเยียนถึงเตียงนอน
จากประสบการณ์นักศึกษาส่งงานให้ตรวจ ขอคำปรึกษา Mail และ Facebook โต้ตอบกันในช่วงเวลากลางคืน ทั้งครูและศิษย์สนุกมาก นอกจากช่องทางที่กล่าวถึงมีอีกหลายช่องทางที่ส่งงานกันได้ เช่น Dropbox
3.ห้องเรียนที่มีการจัดเก็บบทเรียนไว้เป็นหมวดหมู่สามารถเข้าถึงและใช้งานได้
งานนี้จะต้องพึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Web log ของ Gotoknow หรือสร้างขึ้นมาใช้เฉพาะหากต้องการพอทักษ์สิทธิผู้ป่วย ไม่ต้องการให้ความลับของผู้ป่วยถูกเปิดเผย แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้เปิดเผยส่วนที่ต้องปกปิดอยู่แล้ว เพราะทุกคนคำนึงถึงสิ่งๆเหล่านี้เป็นสำคัญและเป็นการสอนให้นักศึกษาเกิดจริยธรรมทางการพยาบาลด้วยประสบการณ์ตรงของการสื่อสารผ่านสื่อสาธารณะ ที่มีการสื่อสารสองทาง มีชีวิตชีวา มีความอบอุ่นซ่อนอยู่ภายในคำปรึกษานั้นๆ ตลอดจนกำลังใจ และถ่ายทอดความเป็นวิชาชีพพยาบาลสู่ผู้กำลังก้าวเข้าสูวิชาชีพ ดีกว่าชีทที่อาจารย์ให้มากมาย นอกจาก เครือข่ายภายในแล้วจะได้เครือข่ายภายนอกเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นทั้งนักศึกษาจากสถาบันอื่น ทั้งพี่พยาบาล อาจารย์พยาบาล รวมทั้งประชาชนที่สนใจ ถือเป็นการมองครบระบบที่คำนึงถึงสิทธิผู้ป่วย และเคารพผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอีกด้วย
หากสามารถทำได้ นักศึกษาสามารถตั้งสติ ได้รับรู้ ได้ยินเสียงความต้องการของผู้ใช้บริการแม้จะอยู่ท่ามกลางไฟใต้ แต่บริการพยาบาลที่เกิดจากน้ำมือ น้ำใจ และน้ำคำของนักศึกษาพยาบาลตัวน้อย ผู้ที่อนาคตจะก้าวเข้าสู่บทบาทพยาบาลวิชาชีพ เป็นความหวังและเป็นที่พึ่งของสังคม คงสร้างประทับใจไม่น้อย ที่เช้าวันนี้จะมีรอยยิ้มของนักศึกษาพยาบาบที่ขึ้นมาให้การพยาบาลด้วยสีหน้าสดชื่น ไม่ใช่นักศึกษาพยาบาลที่กลายพันธ์เป็นหม่แพนด้าตาเขียวคลำ้าเพราะอดนอนจากการเขียนแผนการพยาบาลทั้งคืน เกิดความสุขทั้งตัวนักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์ และที่สำคัญคือ ประชาชน ดังเพลงมาร์ชนักศึกษาพยาบาลที่นำมาจากบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ว่า
อันความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน....
คำ่คืนที่แตกต่างของสายฝนพรำ ...สายลมเย็นพัดเอื่อย... พระจันทร์วันเพ็ญที่ที่สุกสกาว ..แม้ความสว่างไสวของดาวในท้องฟ้า...ธรรมชาติดังกล่าวล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยจรรโลงจิตใจนักศึกษาพยาบาลให้งดงามยิ่งขึ้นในยามคำ่คืนที่รุ่งเช้าจะต้องออกฝึกปฏิบัติงานให้การพยาบาลกับผู้ป่วยและผู้ใช้บริการ
ช่างเป็นคำ่คืนที่มีความสุข...บนหอพักนักศึกษาพยาบาล...หากมีห้องเรียนในฝันนี้อยู่เคียงข้าง
สามาารถส่งใจ...กลับไปหา...พ่อแม่ที่ภาคภูมิใจ...ที่ลูกได้เรียนพยาบาล...สร้างความกตัญญูให้เกิดขึ้นในใจ...ได้ทุกวัน
สามารถสืบทอดปณิธาน...ที่ตั้งใจมาเรียนพยาบาล เพื่อต้องการช่วยเหลือผู้อื่น...ผู้ที่มีความทุกข์ทางกาย... ผู้ที่ีมีปัญหาทางใจ...ด้วยจิตใจบริสุทธิ์งดงาม...ของนักศึกษาพยาบาลตัวน้อย
ถึงกระนั้นแล้ว...เราจะไม่ร่วมกันสร้าง...ความดีงามเหล่านี้...ให้เิกิดขึ้นกับวิชาชีพพยาบาลกันหรือ?
ด้วย...ห้องเรียนในฝัน...ที่นักศึกษาต้องการ
คงไม่ใช่เพียงฝัน...แต่ต้องสานต่อฝันให้เป็นจริง...
ห้องเรียนในฝัน..คงอยู่ไม่ไกล..เกินใจจะไขว่คว้า..