CaseStudy2: Autosomal STR ทำนายผลพี่น้องไม่ถูกในทุกกรณีหรอก....

     ตัวอย่างตรวจที่ได้รับนี้เป็นตัวอย่างตรวจจากคดี โดยตำรวจส่งสำลีพันปลายไม้ซึ่งมีคราบเลือดของผู้เสียชีวิต  (ศพชายไม่ทราบชื่อ) พร้อมสำลีพันปลายไม้เก็บตัวอย่างเซลล์เยื่อบุกระพุ้งแก้มของหญิงคนหนึ่ง ซึ่งให้ข้อมูลว่า สงสัยว่าผู้ตายจะเป็นพี่ชายของตน

     งานนี้ก็วิเคราะห์ไมโตคอนเดรีย และ autosomal STR ครับ สำหรับไมโตคอนเดรีย เป็นการเพิ่มปริมาณดีเอ็นเอบริเวณ control region ทั้งเส้นครับ คือตั้งแต่ HV1 ไปจนถึง HV3 รวม 1122 bp  ส่วน autosomal STR ใช้ น้ำยา identifiler จำนวน 15 ตำแหน่ง ครับ ได้ผลการทดสอบดังนี้

     ผลไมโตคอนเดรีย ดังภาพข้างล่างครับ ซึ่งสรุปได้ว่า ผู้ตายเป็นพี่ชายร่วมมารดาของหญิงคนนี้จริง

     ส่วนผล autosomal STR นำมาวิเคราะห์แบบ Full sibling หมายถึง กรณีที่ทั้งสองคน เป็นพี่-น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ได้ผลดังภาพข้างล่างครับ คำนวณค่า likelihood ratio ได้ 0.11 และ posterior probability ได้ 9.78% ซึ่งเป็นการปฏิเสธว่า ทั้งสองคนนี้ไม่ใช่พี่-น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน

     สำหรับผล autosomal STR แล้ววิเคราะห์แบบที่เป็น half sibling คือตั้งสมมติฐานว่า ทั้งสองคนเป็นพี่-น้อง ร่วมพ่อเดียวกันแต่คนละแม่ หรือแม่เดียวกันแต่คนละพ่อ ได้ผลดังภาพข้างล่างครับ  คำนวณค่า likelihood ratio ได้ 1.01 และค่า posterior probability ได้ 50.32% ซึ่งไม่สามารถสรุปได้ว่าทั้งสองคนเป็นกึ่งพี่น้องกัน จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีการอื่น

     จากตัวอย่างนี้ เราเชื่อได้ว่า ทั้งสองคนเป็นพี่น้องร่วมแม่เดียวกัน เนื่องจากผลการวิเคราะห์ไมโตคอนเดรีย ให้ผลรูปแบบ mtDNA haplotype เหมือนกัน แต่เมื่อวิเคราะห์ด้วย autosomal STR แล้ววิเคราะห์แบบ full sibling ให้ผลการวิเคราะห์ที่ผิดพลาด หรือวิเคราะห์แบบ half sibling ให้ผลว่าไม่สามารถสรุปผลได้ครับ 

     เพราะฉะนั้น การใช้ autosomal STR ในการทำนายความสัมพันธ์พี่-น้อง มีความไว (sensitivity) ไม่เต็ม 100 % ครับ