เรื่องเล่าจากภาพยนตร์..รักสามเศร้า


ในภาพยนตร์เรื่องรักสามเศร้า
ที่นำแสดงโดยเป้-อารักษ์ ก้อย-รัชวินทร์ และพีค ไม่รู้จักชื่อจริงของเธอ

เป็นเรื่องราวของความรักที่ไม่สมหวัง เพราะไม่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก
แต่ตอนจบ หนังเรื่องนี้ได้ให้ข้อคิดเรื่องของความจริงในเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ
ที่ค่อนข้างจะเป็นโลกของความจริงเลยทีเดียว

โดยปกติแล้ว การที่เราจะใช้ชีวิตอยู่กับใครในปัจจุบัน เรื่องความรักเป็นเรื่องรองจากเรื่องฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมเป็นเรื่องสุดท้ายที่จะพูดถึง
อาจจะเพราะสังคมไทยเป็น พหุสังคม มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง
มีการหลอมรวมทางวัฒนธรรมเป็นอย่างดีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา
กระโน้นเลยทีเดียว
การแต่งงามข้ามศาสนามีให้เห็นอย่างดาษดื่น
เงินตรา เป็นตัวแปรเดียวที่ทำให้ความรักของคนทั้งสอง ดำเนินไปอย่างราบรื่น
หากจะไม่นับว่า รักจริง หรือรักลวง แต่อย่างน้อย ๆ ก็รักละกัน 555

ความเหมาะสมในการครองคู่ของคนสองคน
ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความพร้อมด้านเงินตรา
เพราะเดี๋ยวนี้จะทำอะไรก็ต้องพึ่งเงินตัวเดียว
ที่กล่าวเช่นนี้ หาใช่ว่า ให้ทุกคนแต่งงานกันเพราะเรื่องเงินอย่างเดียว
แต่อยากจะให้มองว่า สิ่งสำคัญในชีวิตที่จับต้องได้ ควรคิดถึงเป็นอันดับแรก
ดังคำที่ว่า กัดก้อนเกลือกิน อย่างโบราณ
เป็นเรื่องที่ไม่มีอยู่จริงแล้ว ก็ควรจะต้องยอมรับความจริงกันบ้าง
หาใช่ว่าต้องการจะสอนให้คนเรารักกันที่เงินทอง
แค่เพียงให้มองที่ความสุขของเราเป็นตัวตั้ง
แล้วค่อยผนวกกับคนที่ใช่ น่าจะดีกว่า 

ไปถามดูเถิดว่า ความรักที่ขาวสะอาด เดี๋ยวนี้จะมีอยู่จริงสักกี่คู่
คนเราตั้งแต่อดีต ก็แต่งงานตามความเหมาะสมด้วยกันทั้งนั้น
เมื่อก่อนไม่มีตัวแปรที่เป็นเงินตรา
แต่เป็นตัวแปรของการบีบรัดทางสังคมให้ต้องมีคู่ครองตามอย่างที่ควรจะเป็น
จึงทำให้ ลูก ที่ออกมาอาจจะไม่ได้เกิดจากความรักอันบริสุทธิ์โดยแท้
แต่ก็หาใช่ว่า พ่อแม่จะไม่ได้รักลูก 
การแต่งงานด้วยความรักจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นน้อยมาก
เพราะสัตว์สังคมเยี่ยงมนุษย์
มีสมองไว้ตรึกตรองถึงความเหมาะสมแห่งการมีตัวตนแห่งตน
หรือแม้แต่สัตว์โลกทั่วไป ก็ยังต้องใช้ความคิดในการเลือกคู่ครองด้วยกันทั้งสิ้น

แล้วสรุปว่า รักแท้ กับการแต่งงาน มีอยู่จริงหรือไม่
ก็อาจจะมีอยู่จริง แต่ก็ต้องรวมเข้ากับความเหมาะสมที่่ว่าด้วย
โดยเฉพาะในชนชั้นปกครองที่ต้องแต่งงานตามความเหมาะสมแห่งตน
ไม่มีสิทธิเลือกคู่ครองได้เอง แล้วชีวิตคู่จะมีความสุขจริงหรือ
หากเป็นข้าพเจ้าก็คงต้องดำเนินไปตามนั้่น
แต่เมื่อถึงทางตัน...คนเราก็อาจจะมีสิทธิเลือกทางเดินของตัวเองบ้าง

หมายเลขบันทึก: 503331เขียนเมื่อ 24 กันยายน 2012 14:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กันยายน 2012 14:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท