"มาทำ "ฟาร์มสุข"ในบ้านกันเถอะ"
อยากเอ่ยประโยคนี้เชิญชวนทุกคนมาช่วยกันทำ "ฟาร์มสุข" ให้เกิดขึ้น คงไม่จำกัดแค่ในบ้านเพราะเราสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ในทุกที่ที่เราอยู่
ดิฉันเห็นตัวอย่างนี้ที่ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อครั้งได้ไป "จับภาพ"การทำงานโครงการชุมชนเป็นสุขที่ สสส.สนับสนุน
เจ้าของประโยคนี้ก็คือ คุณอนุสรณ์ สายนภา หรือพี่แกละ ที่ไม่อยากเรียกตัวเองว่านักพัฒนา เพียงแต่ทำตนเอง ครอบครัวตัวเองให้ดีก่อนแล้วใครเขาเห็นเราทำดีอย่างเข้ามาร่วมก็ยินดีต้อนรับเสมอ
พี่แกละบอกว่า การทำเรื่อง “ความสุข” เน้น การ สร้าง “ตนต้นแบบ” ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ” ซึ่งมีทั้งคนและพื้นที่น่าสนใจหลายแห่ง มี 1 ศูนย์ที่ทำมา 2 ปี อีก 1 ศูนย์ทำมา 1 ปี และอีก 2 พื้นที่เริ่มทำ เน้นกิจกรรมสร้างคนแก้ปัญหาของครอบครัวและชุมชน เช่น ปัญหาเยาวชนติดเกมส์ เล่นการพนัน ปัญหาค่าใช้จ่ายของครอบครัว เช่น ครอบครัวในหมู่บ้านประมง พ่อออกเรือตอนเย็นกลับตอนเช้า อยู่บนเรือก็กินเหล้า แม่บ้านอยู่บ้านว่าง ๆ ก็เล่นไพ่ ลูก ๆ ก็ติดเกมส์ติดเหล้าขนาดหนักรวมกลุ่มกันกินเหล้าอยู่ไม่ติดบ้านแทบจะทุกวัน เมื่อ เมื่อไปสร้างความเข้าใจ (กระตุ้นสอนแบบไม่สอน จัดกิจกรรมศิลปะ ดนตรี กีฬา ดึงเด็กให้เข้ามาร่วม)ให้เข้าใจ กลุ่มเด็กก็กลับตัว แม่บ้านก็เลิกไพ่ พ่อบ้านก็เลิกเหล้าเลิกบุหรี เพราะถ้าพ่อแม่ยังเป็นอย่างนี้ก็ไม่รู้จะสอนลูกได้อย่างไร การดำเนินงานในหมู่บ้าน “ศูนย์ฯต้นแบบ” อื่นก็ต่างกันไป เพราะสภาพปัญหาต่าง แต่ทุกศูนย์เน้นการสร้างคนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ เริ่มที่ตน ครอบครัว ชุมชน และสังคม ผ่านกิจกรรมหลากหลายที่ พี่เลี้ยงกระตุ้นแล้วพวกเขาร่วมคิด ร่วมทำ และขยายผลกันเอง เป็นเครือข่ายชุมชนเป็นสุขที่ตำบลนาจอมเทียน ที่มีรูปธรรมของคนต้นแบบ และศูนย์ต้นแบบเกิดขึ้นจริง และกำลังใช้เวลาขยายผลอย่างค่อย ๆ ก้าวไปเพื่อฐานที่มั่นคงนั้นคือ ชีวิตที่ดำเนินไปพร้อมกับ “ความสุข” ที่ยั่งยืน <p> </p>