รื่นรมย์ชมหิมพานต์


รื่นรมย์ชมหิมพานต์

 

เพลงสุนทราภรณ์ที่มักได้ยินกันอยู่เสมอในงามลีลาศ

...งามเอ๋ยงามรื่น               งามสมกลมกลืนเพียงพื้นพิมาน

งามหิมพานต์                    ดั่งอุทยานพุดตานแห่งพรหม

ชมเอ๋ยชมชื่น                    ชมพฤกษ์ไพรยืนพร่างพื้นพนม

ชมหงส์เหินลม                  ลีลาศเริงรมย์ภิรมย์สุรางค์...

เพลง หิมพานต์ ขับร้องโดย บุษยา  รังสี บรรยายถึงความงดงามของป่าหิมพานต์

 

ในมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์หิมพานต์  พระนางมัทรีได้ทูลพรรณนาพนัสพนาเวศประเทศหิมพานต์  ดุจได้ทัศนาการแน่ถนัด  ถวายพระเวสสันดรบรมกษัตริย์ผู้เป็นภัสดาว่า...ควรที่จะทัศนาพื้นภูมิภาคปฐพีอันเดียรดาษด้วยหญ้าแพรกต่างสีซ้อนสลับ  สี่องคุลีสรรพเสมอกัน  พื้นพรรณแมลงค่อมทองดูนี่เรืองรองอร่ามงามระยับประเสริฐสรรพสรรพางค์  เที่ยวเล็มน้ำค้างบนปลายหญ้า  แล้วจะได้ทอดพระเนตรนานาพรรณหมู่ไม้  บ้างผลิดอกออกใบระบัดอ่อนกิ่งก้านอรชรดั่งชั้นฉัตร  บ้างก็ทรงผลกำดัดสุกทราม  บ้างก็ดิบห่ามระคนปนผกามาศ  ที่บานแบ่งบุปผชาติน่าใคร่ชม  เสาวคนธภิรมย์ระรวยรื่น  ที่โรยก็ร่วงลงยังพื้นพสุธา  หอมขจรตรลบราวป่า  ปางเมื่อฤดูดอกเดียรดาษระดับดง  ได้ชมก็ละเลิงหลงลืมระลึกถึงพระนคร  อันเคยสุขสถาพร...

 

ในป่าหิมพานต์ยังมีสัตว์นานาชนิด...อนึ่งจะได้ชมมหามหิทธิหัสดีเดี่ยว  เดินโทนเที่ยวในกลางป่า  ช้างสารที่เป็นคชคณาบดีดูพิลึก  คำรณเสียงคระครึกมาภายหน้า  เงยงวงงาร้องก้องโกญจนาท  นำโขลงคลาดออกจากดง  ได้ทอดพระเนตรเห็นก็จะเป็นที่พิศวงว่างวิตกถึงพระนคร  สองข้างทางบทจรลำเนาป่า เดียรดาษด้วยพาฬมฤคคณานิกร  หมู่พยัคฆพญาไกรสรสรรพจตุบาท  ละมั่งมาศหมู่มฤคสุกร  โคมหิงส์สิงโตตัวคะนอง  ลองเชิงระเริงร้องก้องคระครึกป่า  ได้ทรงเห็นก็จะเป็นมหามหรสพเนตร  จะบรรเทาที่ทุกข์เทวษถวิลหวัง...

 

ป่าหิมพานต์นี้ช่างเป็นแนวอรัญที่น่าหฤหรรษ์เสียจริง  สารพันทุกสิ่งมีแต่น่าเจริญตาเจริญใจ...ความรู้เกี่ยวกับป่าหิมพานต์นี้มาจากไตรภูมิพระร่วงซึ่งกล่าวไว้ว่า

...ป่าหิมพานต์นี้ตั้งอยู่ในแถบทิศเหนือของชมพูทวีปซึ่งตามจินตนาการของกวีโบราณได้แบ่งทวีปใหญ่ที่สุดไว้เป็น 4 ทวีป คือ อุตรกุรุทวีป  บุรพวิเทหทวีป  อมรโตยาน  และชมพูทวีป  ป่าหิมพานต์ที่ตั้งอยู่ในชมพูทวีปมีภูเขาหิมพานต์สูง 50 โยชน์ กว้าง 2,500 โยชน์  มียอดเขามากมายนับได้ถึง 84,000 ยอด  เป็นป่าดงที่ใหญ่ที่สุด ปกคลุมด้วยหมู่ไม้นานาพรรณดูร่มรื่นเยือกเย็น  ประกอบด้วยตฤณชาติสีเขียวขจี  ดูราบเรียบ  และที่เชิงเขาหิมพานต์มีต้นหว้าใหญ่ โอบรอบต้นได้ 15 โยชน์  สูง 100 โยชน์ ผลของต้นหว้าหวานดังน้ำผึ้ง  ทั้งงามทั้งมีกลิ่นหอม  ผลหว้ามีขนาดเท่ากับยื่นมือล้วงเข้าไปในเนื้อลูกหว้าพอสุดแขนจะถึงเม็ดในของลูกหว้า  ฝูงนกที่กินลูกหว้านั้นตัวใหญ่เท่าช้างสาร  ยางของลูกหว้าที่หยดลงมากลายเป็นทองคำสุกปลั่ง เรียกว่า ชมพูนุท  จึงเรียกชื่อทวีปว่าชมพูทวีปเพราะมีต้นหว้าใหญ่เป็นต้นไม้ประจำทวีป  (ชมพู มีความหมายว่าลูกหว้า)

 

ในป่าหิมพานต์มีเทือกเขาใหญ่และสูงที่สุดเรียกว่าหิมพานต์  ซึ่งก็คือเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาที่สูงที่สุดในโลก  ยอดที่สูงที่สุดคือยอดเขาเอเวอร์เรสต์  สูงถึง 29,140 ฟุต  อยู่ในดินแดนประเทศเนปาลในปัจจุบัน

 

หมายเลขบันทึก: 502626เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2012 08:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม 2013 12:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท