สองวันมานี้ที่ได้มีโอกาสพิจารณาและขัดเกลาใจตนเอง
หลังจากเดินทางเพื่อนำพาแนวทางการพิจารณาอันเป็นทุกข์ในชีวิตทำงานของผู้คน เพื่อนำไปสู่การเกิดปัญญาอย่างกระจ่างมากขึ้นต่อการแก้ไขปัญหาหรือทุกข์แห่งการงานที่เกิดขึ้นนั้น
ตั้งแต่เสร็จสิ้นภาระที่มาจากการร่ำเรียนในปี ๒๕๔๘ ข้าพเจ้าก็กลับมาทำงานเต็มตัวในที่ทำงานใกล้บ้าน อย่างมีเป้าหมาย ... และมั่นคงต่อเป้าหมายตนเอง (๒.ใคร่ครวญธรรมกับชีวิตแห่งการงาน)
พร้อมกับ...ใคร่ครวญในตนเองว่า...
จะสามารถฝึกฝนตนเองเพื่อทำประโยชน์ต่อผู้คนได้อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้เวลาหลวงไปเรียนและการตอบแทนผู้คนมากมายที่เกื้อกูลให้เราได้เรียนหนังสือ
เป็นโอกาส...แห่งการตั้งเจตนารมย์
เมื่อได้รับการแบ่งปันโอกาสจากอาจารย์ผู้ใหญ่หลายท่านที่ดึงตัวไปช่วยการทำงานขับเคลื่อน R2R ประเทศไทย อันเป็นหนทางที่นำพาผู้คนไปสู่ปัญญาและความสุข
โดยเฉพาะตามโจทย์ที่เรียกว่า "Happiness R2R"
หลายปี...ผ่านไปได้รับแรงกระแทกอย่างมากมายทั้งที่เป็นการขัดขวางและการเกื้อกูล การเห็นคุณค่าและการไม่เห็นคุณค่า...สองขั้วด้านบวก-ลบ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าย่อท้อ เพราะเชื่อว่า ... คนเรานั้นสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขได้ท่ามกลางกระแสแห่งความรุมเร้าที่เกิดขึ้นในการทำงาน หากว่า บุคคลนั้นมี "ปัญญาและมีหัวใจที่อ่อนโยน"
ดั่งที่ได้มีโอกาสบอกต่อเครือข่าย R2R เสมอ ดั่งที่ Su Chi ได้บันทึกเผยแพร่ต่อว่า...
...เวลารักษาคนไข้ให้อธิษฐานจิตว่าขอให้เราเกิดปัญญาและจิตใจที่อ่อนโยน...คำสอนจาก อ.กระปุ๋ม (ดร.นิภาพร) ขอนำไปใช้น๊าค๊าอาจารย์..ช๊อบชอบ
บางครั้ง...
เราเกิดปัญญาก็จริงแต่ใจไม่อ่อนโยน ... ศานติก็ยากเกิดขึ้น ความรุ่มร้อนก็ยังคงจะมีอยู่...
ในความไม่ย่อท้อ...ต่ออุปสรรคทั้งปวง ปีนี้เข้าสู่ปีที่ ๗ และจะครบเจ็ดปีเต็มในอีกไม่กี่วัน ทำให้จิตใจของข้าพเจ้าเติบโตอย่างมาก
และสองวันที่ผ่านมานี้
ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ฟังธรรมะอันลึกซึ้งของพ่อแม่ครูบาอาจารย์
"R2R ที่กะปุ๋มไปช่วยเขานั่นน่ะ ... คือ ธัมมะวิจะยะอันเป็นธรรมบทหนึ่งในโพชฌงค์ ๗ ที่ทำให้ผู้คนเกิดปัญญารู้แจ้ง"
หลายๆ ครั้งที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านมักแนะนำข้าพเจ้าต่อบุคคลอื่นว่า "ไปบรรยายธรรม" แต่ในสองวันนี้ท่านชี้ชัดลงไปในบทธรรมอันประเสริฐที่พระพุทธองค์ท่านตรัสรู้
และสิ่งที่ซาบซึ้งใจมาก...คือ
พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเทศน์เสริมในเรื่องพระโพธิจิตที่เปี่ยมด้วยความอดทน ... แม้ตนเองลำบากก็ยังอดทน เพื่อนำสิ่งที่ตนเองรู้แล้วไปบอกให้ผู้อื่นได้รู้ด้วย
"อดทน"...
คือ บทธรรมที่ลึกซึ้งมากของการใช้ชีวิต
อดทนต่อความทุกข์และสุขที่มันผลุดขึ้นมาบีบคั้น ในทุกๆ สภาวะ
และวันนี้...ข้าพเจ้าก็ได้รับโจทย์มาอีกหนึ่งบทให้ได้พิจารณาใคร่ครวญภายใต้ความเมตตาและกรุณา ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านชี้ลงไป
...
๑๕-๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๕
ขอขอบคุณ คำเตือนดีๆ "ปัญญาและหัวใจที่อ่อนโยน" ต้องฝึกฝนกันอีก ๆ