ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ขัดแย้ง ประเทศไทยได้หรือเสีย


บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2555

ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้ครับ

http://www.naewna.com/columnist/1104

 

ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ขัดแย้ง ประเทศไทยได้หรือเสีย

 

ผมได้เขียนถึงความขัดแย้งของนายกฯยิ่งลักษณ์กับพี่ชายไว้กว่า 3 เดือนแล้ว

เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา พาดหัวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เนชั่นก็ย้ำสิ่งที่ผมพูดเรื่องความขัดแย้งครั้งที่เป็นความจริงมากขึ้นคำถาม แล้วประเทศไทยได้อะไร? มีจุดดีและจุดอ่อนอย่างไร?

ก่อนอื่นการขัดแย้งระหว่างพี่กับน้องเป็นการขัดแย้งที่เป็นปมเล็กๆ ก่อน แต่อาจจะขยายไปสู่ปมใหญ่และอาจจะเกิดวิกฤติได้

หตุผลมีหลายเรื่อง

วิธีการทำงานของอดีตนายกฯทักษิณมองตัวเองเป็นหลัก ใครก็ตามที่ไม่ตามใจ ไม่ว่าญาติหรือคนอื่น คุณทักษิณอาจจะจัดการหรือกำจัดออกไปในที่สุด

ตัวอย่างคือ อดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นตัวของตัวเองและมีความมั่นใจสูงมาก หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญปลดออกจากตำแหน่งนายกฯ คุณทักษิณก็ไม่สนับสนุนให้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ทั้งๆ ที่มีสิทธิ์เป็นได้ โดยเลือกน้องเขยคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาเป็นแทนคุณสมัคร ซึ่งคุณสมัครคงตรอมใจมากๆ ในที่สุดก็เสียชีวิตไปก่อนวัยอันควร สาเหตุเพราะคุณทักษิณคุมคุณสมัครไม่ได้

อาจจะสรุปได้ว่า นายกฯทักษิณเป็นพวกบ้าอำนาจ หรืออำนาจนิยม

ส่วนคุณยิ่งลักษณ์ถึงแม้จะเป็นน้องสาวและตระกูลเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องโคลนนิ่งมาจากพี่ชายทุกอย่าง เช่น อาจจะไม่บ้าอำนาจและมีนิสัยเผด็จการเหมือนพี่ชาย

นักข่าวเคยถามว่าโคลนนิ่งเหมือนพี่ชายไหม? ยิ่งลักษณ์ตอบว่าคล้ายบางเรื่อง เช่น ชอบฝีมือความเก่งของพี่ แต่อาจจะไม่ชอบความบ้าอำนาจหรือวิถีชีวิตของพี่ชาย

โดยความเป็นผู้หญิงและวัยที่ต่างกัน การมองโลกก็คงไม่เหมือนกัน คุณยิ่งลักษณ์ จงรักภักดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วงรับตำแหน่ง สิ่งแรกที่ทำคือ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในโอกาสที่รับพระราชทานปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ความที่อายุน้อยกว่า เพื่อนๆ เป็นนักธุรกิจส่วนใหญ่มากกว่านักการเมือง ผมคาดว่าการตั้ง ครม.ครั้งแรก คุณยิ่งลักษณ์ คงจะเลือกคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ด้วยตัวเอง เหตุผลก็คือ รู้จักกันมาก่อน และอาจจะเป็นเพราะคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นเพื่อนสนิทกับคุณเศรษฐา ทวีสิน จากแสนสิริ ที่ทำธุรกิจอสังหาฯคล้ายๆ กัน

ตัวอย่างของความขัดแย้งที่เห็นชัดอีกด้านหนึ่งก็คือ

การปรับ ครม.ครั้งแรกเป็นฝีมือพี่ชายแท้ๆ คือเร็วและมั่วครม.ชุดแรกทำงานแค่ 4 เดือน

แต่พอยิ่งลักษณ์ตั้งหลักได้ ก็ชะลอในการปรับครั้งที่ 2 ไว้ก่อน ซึ่งบัดนี้อยู่มาได้เกือบ 9 เดือนแล้วยังไม่ได้ปรับและวิธีการปรับก็จะเน้นแนวคิดของตัวเองมากกว่ารับคำสั่งมาจากพี่ชาย เช่น อาจไม่ปลดกิตติรัตน์ออก ทั้งๆ ที่ทุนทางการเมืองหมดแล้วเพราะไปโกหกประชาชนเรื่อง การส่งออก 15% นายกฯยิ่งลักษณ์ชอบคุณยงยุทธ วิชัยดิษฐ เพราะประจบเก่งคงยังเก็บไว้อยู่แต่นายกฯทักษิณไม่พอใจการทำงานของคุณยงยุทธ

มีคนมาเล่าให้ผมฟังว่า คุณยงยุทธ วิชัยดิษฐ น่าจะเป็นรัฐมนตรีประจำตัวนายกฯมากกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะตามติดนายกฯทุกฝีก้าว ไม่มีเวลาไปทำงานที่กระทรวงมหาดไทย

สุดท้ายคุณยิ่งลักษณ์ คงไม่ชอบบ้านเลขที่ 111 นักเพราะเก่งกว่า ทำให้ข่มรัศมี จึงชะลอ ก๊วน 111 ไว้ก่อน และอาจจะไม่พอใจบทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์ด้วย

หนังสือพิมพ์เนชั่น เน้นไปที่บทบาทของคุณพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ซึ่งคุณทักษิณให้มานั่งเป็นประธานที่ปรึกษานายกฯ แต่ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ปลื้มนัก

ประเด็นแรกก็คือ วัยต่างกันมาก

ประเด็นที่ 2 คือ วิธีคิดของพันศักดิ์ คุณยิ่งลักษณ์คงฟังไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ

ประเด็นที่ 3 อาจจะขัดแย้ง เรื่องนโยบายเศรษฐกิจกับคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง

ในเนชั่นพูดว่า มีคุณพันศักดิ์มาช่วยก็ไม่ได้ผลนักเพราะคุณยิ่งลักษณ์ไม่ค่อยจะฟังเท่าไหร่? แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้ การขัดแย้งก็ไม่ใช่ว่าจะมีจุดดีอย่างเดียว แต่มีทั้งจุดดีและจุดอ่อน

จุดอ่อนก็คือ ปัญหาหลักๆ ของชาติ เช่น วินัยการคลังดุลการชำระเงินกำลังเริ่มมีปัญหา การใช้เงินสำรองระหว่างประเทศอย่างผิดๆ ใครจะช่วยดูแล

คุณยิ่งลักษณ์ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ ถ้าไม่มีคนเก่งช่วย ปัญหาจะมีมากขึ้น เพราะคุณยิ่งลักษณ์พึ่งคุณกิตติรัตน์คนเดียว มีปัญหาในอนาคต อาจจะพาประเทศสู่ความเสี่ยงในเรื่องการเงิน ในปีข้างหน้าเพราะรองนายกฯเศรษฐกิจต้องรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาค คุณกิตติรัตน์รู้เรื่องตลาดหุ้นดีและเก่ง เรื่องบริหารไม่เข้าใจเศรษฐศาสตร์มหภาค

ข้อดี

ทำให้บทบาทการปูนบำเหน็จของทักษิณเกี่ยวกับเสื้อแดง อาจจะไม่เข้มข้นเท่าที่ควร บทบาทเสื้อแดงในรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่โดดเด่นอย่างที่คุณทักษิณต้องการและแนวทางการล้างแค้นคู่ต่อสู้ของนายกฯทักษิณน้อยลง ทำให้รัฐบาลมั่นคงมากขึ้น

ข้อเสีย

คุณยิ่งลักษณ์ขาดประสบการณ์อย่างมาก เป็นนายกฯต้องรอบคอบ มีศักยภาพของตัวเองอ่อนมาก พาประเทศไปในทางผิดๆได้ ซึ่งทักษิณอาจจะมองความอยู่รอดของประเทศได้ดีกว่า และมีความสามารถในการแก้ปัญหาหลักๆของประเทศดีกว่าเพราะมีประสบการณ์ เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อนและแก่พรรษากว่า

แต่การบริหารจากต่างประเทศของทักษิณโดยมีน้องสาวที่ฟังพี่ชายแค่ 50% ก็เป็นการบริหารที่ลำบาก อาจจะมีความเสี่ยงมาก ทั้งตัวคุณทักษิณเองและประเทศ

ยิ่งเวลานานๆ ไป ผมคิดว่าคงจะไม่ง่ายนัก ที่คุณทักษิณจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือน้องสาว

คำถามก็คือ อนาคตจะเป็นอย่างไร?

ประเทศไทยและคนไทยจะได้อะไร?

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
[email protected]
www.gotoknow.org/blog/chiraacademy
แฟกซ์ 0-2273-0181

หมายเลขบันทึก: 502109เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2012 09:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 16:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

" อนาคตเราไม่รู้ ถึงไม่รู้ก็ต้องเดินไป จะกลัวไปใยมันก็ล่วงไปตามเวลา" ใครมาเป็นทหารเรือถ้าร้องเพลงโดยเฉพาะท่อนนี้.ไม่ได้สมควรกระโดดทะเลตาย..ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่าพอถึงเวลาอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดครับ จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ! บ้านเราคนเก่งมากเกินความจำเป็นแถมยังจะเก่งตอนหมดยุคเสมอ..ตอนเป็นรัฐบาล..ไอ้โน่นก็ไม่ทำ..ไอ้นี่ก็ยังไม่ทำ พอรัฐบาลใหม่ทำเออ..กูเพิ่งนึกอยากจะทำขึ้นมากับเขาด้วย..ผมเองไม่หวั่นใดใดว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล..มันก็ไม่เคยสนใจคนจนอยู่แล้ว..ดูสิปล่อยน้ำท่วมกทม.แต่มันยังขึ้นเงินเดือนให้พวกพ้องมันได้..ปัญหาง่ายๆมันยังแก้กันไม่เป็นเลย..เป็นใหญ่เป็นโตกันทั้งนั้น..การขึ้นเงินเดือนจะขึ้นแบบไม่ประกาศไม่ได้หรือยังไง ?...พี่แกประกาศขึ้น๕ %ข้าวของขึ้นดักหน้าไปโดยไม่มีใครอนุมัติล่วงหน้า ๑๐ % มีประโยชน์ไหมล่ะกับการขึ้นเงินเดือนเพื่อไปให้ทันราคาใหม่..คนที่ไม่มีเงินเดือนไม่ตายเหรอครับ ? เพื่อนผมกลับมาพักจากภาคใต้ผมแกล้งถามว่าเฮ้ย ! บอลลูนราคาหลายร้อยล้านยังใช้ได้ไหม ? เพื่อนหัวเราะและบอกว่ายังรั่วอยู่เลย เขานำมาซ่อมทำที่สนามบินอู่ตะเภาแล้ว..จะสั่งซื้ออะไรอีกล่ะ ? ผู้มีอำนาจโกงกินทั้งหลาย..สุดท้ายขอให้ประเทศไทยเจริญลงช้ากว่าที่ผมคิดเอาไว้..

มิงกาลาบา - ซัวซะเด.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท