ก่อนวันแม่ 2-3 วัน เราเห็นคนไข้เด็กวัยรุ่นผู้ชายนอนรถนอน เข็ญผ่านหน้าห้องไป ผมบนหัวมีอยู่น้อยนิด รูปร่างผอมบาง ซีดเซียวดูอ่อนเพลียมาก รอทำ CT เราได้คุยกับแม่ของเด็ก ทราบว่าเด็กอายุ 16 ปี เป็นโรคมะเร็งกระดูก อยู่ในระยะสุดท้าย ถูกตัดขาไปแล้วข้างหนึ่ง ไม่ตอบสนองต่อยาเคมี เป็นเด็กที่มีความประพฤติดี เป็นที่พึ่งของแม่และยาย เราตามไปเยียมที่หอผู้ป่วย เด็กนั่งฟุบกับ Over bedหอบอยู่บนเตียง ให้ออกซิเจนแบบ mask เราเข้าไป เอามือลูบหลังเขาเบาๆ ถามว่าห่วงอะไรมั้ย เขาบอกว่าเป็นห่วงแม่ เป็นห่วงน้อง ถ้าเขาเป็นอะไรไปจะไม่มีคนดูแล เราบอกเขาว่า เป็นห่วงตัวเองดีกว่า ถ้าจิตดวงสุดท้ายคือความเป็นห่วงจะทำให้ไปสู่ในที่ไม่ดี เขาก็ต้องจากเรา เราก็ต้องจากเขา ต่างคนก็ต่างมา ต่างคนก็ต่างไป จะยึดทำไม ควรทำจิตคิดถึงความดีที่เราทำ ทำใจให้สบาย แม่ของเขาทำใจไม่ได้ ทุกข์มาก รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับลูกแต่ก็ทำใจไม่ได้ คุยกับเขาไม่นานก็ขอตัวกลับ เขายกมือไหว้ขอบคุณ เราไม่รู้จักกันเลย แต่เรามีความรัก ความเมตตาสงสาร ให้กัน จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
ไม่มีความเห็น