เสริมสร้างสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ แบบ ลำปาง (3) ชั่วโมงทอง
สำหรับ อาจารย์วีระพงศ์ ทวีศักดิ์ ท่านนี้ (ลอง search ใน google กันดูสิคะ ว่า อาจารย์ท่านนี้คือใคร มีดีที่ไหน) ต้องถือว่า ลำปางโชคดีที่สุดที่ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียน แบ่งปันความรู้กับอาจารย์ที่เป็นซุปตาร์ของเราในวันนี้
อาจารย์วีบอกว่า ที่มาวันนี้ เพราะได้รู้ว่า "ลำปางไม่ธรรมดา" ด้วย กิจกรรมในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก ที่พบว่ามีมากมาย และหลากหลาย ... อาจารย์ก็เลยมาหา ด้วยจิตวิญญาณของการเป็นผู้ให้ และแบ่งปันความคิด ประสบการณ์ของอาจารย์ให้ลำปางได้เรียนรู้ ด้วยความพร้อมที่จะมาให้ แบ่งปัน และเรียนรู้
ประเด็นแรก ... คนเราในแต่ละวัน พลาดสิ่งดีงามไปมากน้อยแค่ไหนกัน ... เนื่องจาก "ความรีบ"
อาจารย์ยกตัวอย่าง โจชัว เบล นักไวโอลินผู้ยิ่งใหญ่ระดับโลก กับประสบการณ์เล่นดนตรีข้างถนน ในย่านคนพลุกพล่าน หน้าสถานีรถไฟใต้ดิน ที่เรียกความสนใจจากผู้คนที่เดินไปมาได้น้อยมาก ในช่วงเวลาที่ผู้คนมีความเร่งรีบของวัน ... นี่แสดงถึงว่า "ในชีวิตของเรา มีสิ่งดีดีที่เข้ามาในแต่ละวัน แต่เราก็ปล่อยมันไป ไม่เคยเห็น ... เพราะฉะนั้น ในวันนี้ ขอให้เรานิ่งๆ และสบายๆ"
ประเด็นที่สอง ... เราพร้อมเป็นผู้ให้กันแล้วหรือยัง
อาจารย์ยกตัวอย่าง ตอนเราขึ้นเครื่องบิน แอร์ฯ จะมาสาธิต ถ้ามีเหตุร้าย ถุงออกซิเจนตกลงมา ถ้ามากับเด็ก ต้องสวมออกซิเจน ให้คนที่เป็นแม่ หรือพ่อ หรือผู้ใหญ่ก่อน แล้วค่อยสวมให้เด็ก ... แสดงได้ว่า ถ้าเป็นผู้ให้ ก็ต้องมีความพร้อมเสียก่อน
ถ้าผู้ให้มีอารมณ์ดี ผู้รับก็จะได้สิ่งที่ดีตาม แต่ทำนองกลับกัน ถ้าผู้ให้มีอารมณ์ไม่ดี ผู้รับก็อาจได้ผลกระทบที่ไม่ดีจากอารมณ์ของผู้ให้ด้วย
เทียบได้กับพุทธศาสนา .... หัวใจสำคัญของพุทธศาสนา ก็คือ อริยสัจ 4 เมื่อเรามีทุกข์ ก็ต้องหาเหตุแห่งทุกข์ เพื่อให้ถึงการดับทุกข์ แล้วก็จะไปช่วยคนอื่นๆ ได้
ตามมาด้วยประเด็นที่สาม ... ที่ยังเกี่ยวโยงกับประเด็นที่สอง ว่าถึง ทัศนคติที่ผิด
ทัศนคติผิด ข้อที่ 1 คือ ปัญหาที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ คือ ปัญหาที่เราไม่รู้ว่า ... เป็นปัญหา เหมือนน้ำซึมตามด ซึ่งไม่ได้มีเรื่องเดียว แต่มีหลายๆ เรื่อง
ทัศคติที่ผิด ข้อที่ 2 คือ ทุกครั้งที่เตรียมงาน ทำงาน ทำกิจกรรมใดๆ แล้วไม่มีปัญหา ไม่มี ... ตัวอย่างเช่น เป็นนักเรียน ทำการบ้านผิด แล้วดีหรือไม่ ต้องมองมาว่า ดี ตรงที่คุณครูก็จะได้รู้ และปรับปรุงตนเองในเรื่องการสอน และนักเรียนก็ต้องรู้ว่า ยังไม่รู้ในเรื่องอะไรด้วย
วิชา "ชีวิต" เปรียบเหมือนคณิตศาสตร์ ที่เวลาที่เราเจอปัญหาใดๆ หลังจากที่เราได้ผ่านปัญหาไปแล้ว เราเก่งขึ้นเสมอ"
เทคนิคการเผชิญปัญหา คือ ต้องมีสติ ... ขอให้นิ่งๆ มีสติ แล้วชีวิตจะผ่านไปได้ ... ปัญหาเป็นของดี เป็นเครื่องมือในการที่จะพัฒนาเราให้เก่งขึ้นเสมอๆ
สติ ทำให้เกิดความสมดุลแห่งชีวิตได้
ทัศนคติที่ผิด ข้อที่ 3 การมีเงินเยอะ จะทำให้มีความสุข
มีหลายเรื่องที่พิสูจน์ได้ว่า มีเงินเยอะ แล้วมีความสุขนั้นผิด อาทิ
- คนมีบ้านใหญ่ ส่วนใหญ่ครอบครัวไม่อบอุ่น เพราะหมายความว่า เขามีเวลาในการบริหารเงิน แต่ไม่มีเวลาให้กับครอบครัว
- เงิน ซื้อเตียงนอนได้ แต่ไม่สามารถซื้อการนอนที่หลับสบายได้
- เงิน ซื้อนาฬิกาได้ แต่ซื้อเวลาไม่ได้
- เงิน ซื้อยาได้ แต่ซื้อสุขภาพไม่ได้
- เงิน ซื้อเลือดได้ แต่ซื้อชีวิตไม่ได้
เรื่องนี้สรุปได้ว่า เราให้ความสำคัญกับเงินมากเกินไป เราได้เงินมาก เราก็เสียอะไรออกไปมากด้วย ของบางอย่างราคาสูงมากแต่ไม่มีคุณค่า-ของบางอย่างไม่มีราคา แต่มีคุณค่ามาก ... การทำงานในชีวิต เมื่อมีผู้ร่วมงานที่ดี ชีวิตก็จะเป็นสุขที่สุด
อาจารย์ยกตัวอย่าง Nick Vujicic คนพิการหัวใจนักสู้ ชาวออสเตรเลีย เกิดมาไม่มีแขนทั้งสองข้าง มีขาสั้นๆ ข้างเดียว คือ นิ้วโป้งสองนิ้วเท่านั้น ... นิคสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และปัจจุบันเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจ เดินทางรอบโลก เพื่อพูดกับเด็ก ให้กำลังใจวัยรุ่นในการดำรงชีวิต "กำลังใจ ล้มแล้วอย่าท้อ ต้องลุกขึ้นสู้ต่อไป"
กุญแจที่สำคัญที่ให้เรามีความสุข ก็คือ การที่เรามีคุณค่า
ตัวอย่าง "การที่เรามีคุณค่า เราไม่ต้องทำในเรื่องที่ใหญ่" ... อาจารย์ยกตัวอย่าง จาก China's Got Talent การแสดงของผู้เข้าแข่งขันชาวจีน ช่างซ่อมรถยนต์ หน้าตาไม่ดี การแสดงก็ไม่ดี มาแสดงนกยูงรำแพน ที่เขาประดิษฐ์เครื่องยนต์ที่ติดหางนกยูงเอง และนำมาแสดงในการประกวด เพียงเพื่อให้ภรรยามีความสุข ยิ้มได้ ... ด้วยความไม่ชอบใจของกรรมการที่เห็นการแสดงไม่ดี จึงไม่ให้ผ่าน แต่ท้ายที่สุด เมื่อกรรมการได้รู้ความจริงว่า เขาทำในสิ่งที่มีคุณค่า ให้ภรรยาที่เป็นอัมพาต ยิ้มได้ ด้วยคำพูดที่ว่า ""ภรรยาที่รัก เราอยู่กันมา 20 ปี ไม่ว่าคุณจะเป็นแบบไหน ผมก็จะดูแลคุณไปตลอดชีวิต" กรรมการจึงให้โอกาสเขาได้แสดงใหม่จนจบ
นั่นก็คือ ... เราทำในสิ่งที่แค่ธรรมดาที่สุด แต่ขอให้ทำด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า งานใหญ่หรือเล็ก ได้รางวัลหรือไม่
อาจารย์ยกตัวอย่าง ดิค และ ริค ฮอยท์ พ่อลูกหัวใจแกร่ง จากมลรัฐแมซซาซูเสตต์ ริค ลูกชาย เป็นอัมพาตมาตั้งแต่เกิด ไม่สามารถเดินและพูดได้ และเมื่อริคชวนพ่อไปวิ่งมาราธอน และพ่อตอบว่า "ได้สิลูก" การแข่งขันครั้งนั้น ริคเป็นแรงจูงใจ ที่ทำให้พ่อพาริคเข้าสู่เส้นชัยของการแข่งขันได้ เขารวมกันเป็นหนึ่ง ที่ทำตัวให้มีคุณค่าให้กับโลก
เรื่องนี้ แสดงให้รู้ว่า สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดนั้น จะเป็นสิ่งที่มีคุณค่า
ประเด็นสรุป สำหรับชั่วโมงทองนี้ ก็คือ
"พวกเราในวงการสาธารณสุขนี้ มีคุณค่า และมีคุณค่ามาก แต่ไม่รู้ตัว พวกเราได้มีโอกาสดูแลคน เป็นญาติก็ไม่ใช่ และเป็นจำนวนมาก คนแล้วคนเล่า เป็นสิ่งที่เรามี และมีความสุข สุด สุด แล้ว"
"เราโชคดีที่มีคุณค่า ในการที่จะดูแลเขาด้วยหัวใจ ด้วยจิตวิญญาณของการเป็นผู้ให้ และมีความสุข ... เราต้องมีความภาคภูมิใจกับงานที่เราทำ"
"ความสุขมีได้ทันที ไม่ต้องรอ"
ความเห็น (2)
ตามมาอ่านบันทึก ทีมอาจารย์ เอกลึกล้ำ ในเรื่องจิตใจ อจอท่านอาจารย์ วีระพงศ์มาแล้วครั้งหนึ่ง ยังซึ่งไม่หยุด
-
... ค่ะ เพิ่งได้ฟังอาจารย์ในครั้งนี้ - ได้ใจจริงๆ ค่ะ