พูดถึงความตายเพื่อผ่อนคลายความหลง


เว็บไซต์เพื่อสังคม "ธรรมชาติธรรมค้ำจุนโลก"

พูดถึงความตาย
เพื่อผ่อนคลายความหลง

         วันนี้ผมมาตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาล  ขณะที่นั่งรอคิวพบแพทย์  เป็นคิวที่ 53   ใช้เวลารอนานพอสมควรด้วยแพทย์มีน้อย (ห้องตรวจโรคทั่วไป) คนไข้มีมาก  คนไข้ประมาณ 150 คน   จึงใช้เวลานั่งรอพบแพทย์ได้คิดได้เขียน

         คนไข้ที่รอพบแพทย์ซึ่งรวมหมดทุกห้อง  ห้องตรวจอายุรกรรม  ห้องตรวจศัลยกรรม  ห้องตรวจกุมารเวช  ฯลฯ  มีประมาณ 300 กว่า คน มีอาการเบาบ้าง  หนักบ้าง ที่เห็นอาการหนักนี้เองทำให้นึกถึง "ความตาย"

         คนที่มาพบแพทย์ตามนัดก็ดี  คนที่มาด้วยอาการไข้  ด้วยอุบัติเหตุ ทั้งหมดนี้หากสรุปกันตรงไปตรงมาก็คือ ล้วนรอความตายกันทั้งสิ้น เรียกให้เข้าใจง่ายขึ้น "ต่างรอคิวตาย"คนที่นอนบนเปล หรือเก้าอี้ เป็นการรอคิวตายคิวแรก ๆ อย่างผมเองมีปัญหาเรื่องไขมันในเลือดสูง  รอคิวตายช่วงค่อนข้างปลายคิว

          สรุปว่ามนุษย์ทุกคนมีวัฎสงสารคือ "เกิด แก่ เจ็บ และ ตาย" จะเกิดแล้วตายตอนเด็ก หรือตายก่อนจะถึงวัยแก่วัยชราล้วนแต่ตายทั้งสิ้น เอาเป็นว่าให้เวลาโดยเฉลื่ยประมาณช่วง75 ปี นี่ก็ให้เกณฑ์สูงพอสมควร

          ท่านคงไม่มีความรู้สึกสมเพชเวทนา หรืออ่อนใจสักเท่าไร ที่ผมเล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟัง หากท่านเคยไปเยี่ยมผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แล้วท่านนึกถึงสภาพของคนไข้ที่นอนรายเรียงเป็นร้อย ๆ ลองดู   ความเวทนาย่อมเกิดขึ้นในใจท่านบ้าง  ดังที่ผมรู้สึกอยู่ในขณะนี้

          ฉะนั้นเมื่อเรารู้ว่าทุกคนต่างรอคิวตาย ด้วยเหตุนี้เราน่าจะมาทบทวนมาคิดเรื่อง "หลง" กันบ้าง  หากเราหลงเราจะใช้ชึวิตที่หนัก ที่เหนื่อย หนักเหนื่อยที่ไม่คุ้มทุน ไม่คุ้มค่า นี่เพราะเรามัวหลงทาง  หลงในที่นี้คือการหลงเรื่องวิถีดำเนินชีวิตนั่นเอง

         ขอยกบทกลอนจาก "ลายเส้นเพื่อสังคม"

 

หากมนุษย์พอเพียงเยี่ยงอย่างสัตว์
เป็นบรรทัดมาตรฐานด้านธรรมชาติ
มิน้อมนำวิชาการด้านวิทยาศาสตร์
เชิงเป็นทาสรับใช้ให้แก่เรา

ทาสรับใช้ให้เพียงพอเลี้ยงชีพ
ดุจประทีปนำพาฆ่าความเขลา
เพียงอยู่ดีกินดีที่ยึดเอา
เคียงคู่เงาธรรมชาติมิพลาดทาง

มนุษย์นี้หลงทางอย่างพลาดผิด
เมื่อนำวิทย์รับใช้ให้กว้างขวาง
ใช้วิทยาศาสตร์พลาดพลั้งยังอับปาง
ทำลายล้างโลกาฆ่าชีวัน

ผลิตภัณฑ์สรรค์สร้างอย่างที่ผลิต
เพื่อธุรกิจการค้ามาแข่งขัน
มุ่งทรัพย์สินเงินทองของกำนัล
แม้รางวัลชีวิตพิษมากมาย

สู่ระบบแข่งขันกันว้าวุ่น
สู่ระบบนายทุนวุ่นซื้อขาย
ธรรมชาติบอบช้ำถูกทำลาย
พิษแรงร้ายแห่งประโยชน์ความโฉดฅน

แบ่งเป็นฝ่ายเป็นพรรครักษ์ประโยชน์
หฤโหดดุจผีเปรตไร้เหตุผล
ผลิตอาวุธทำลายกันมันทรชน
ทั่วแห่งหนร้อนร่าเรื่องฆ่าฟัน

ก็เพียงเพื่อผลประโยชน์โคตรอักขฬะ
เมินธรรมะศีลห่างมิสร้างสรรค์
การเบียดเบียนเวียนวนกลโทษทัณฑ์
ไร้สุขสันต์ทุกหย่อมหญ้ามิซาเพลา

เมื่อไรหนาซาบซึ้งซึ่งศาสนาพุทธ
นำศีลธรรมบริสุทธิ์ปราบความเขลา
จิตที่วุ่นทุนทาสอาจบางเบา
ได้บรรเทามารยาที่ฆ่าใจ

เกียรติกินกามสามอย่างต่างละลด
จิตบริสุทธิ์หมดจดจักสดใส
รู้จักหารจักแบ่งมิแย่งใคร
คือกำไรชีวิตตรงกิจฅน

สัตว์กล่าวเตือนเพื่อนมนุษย์สุดที่รัก
แจ้งประจักษ์ตรองดูสู่มรรคผล
ยึดถือสัตว์เป็นปรัชญาเช่นสากล
ดูแต่ต้นจนปลายคลายเงื่อนปม

ด้วยว่าสัตว์มิเปลี่ยนแปลงแห่งการกิจ
ดำเนินวิถีชีวิตอย่างเหมาะสม
ไม่ปรุงแต่งมารยาตามอารมณ์
ฝังนิยมแบบเดิมแต่เริ่มมา

ด้วยฉลาดปิดกั้นมันสมอง
ปิดมุมมองทุกด้านการศึกษา
วิถีชีวิตที่น้อมนำธรรมดา
ไร้มารยาอย่างฅนอวดตนดี

ดูบริสุทธิ์ตรงนี้ส่วนดีสัตว์
เป็นตัววัดเที่ยงตรงตัวบ่งชี้
เพื่อเป็นแนวแห่งพุทธยุทธวิธี
ใช่กระพี้แก่นแท้อย่างแน่นอน

ยกตัวอย่างชัดชัดจัดให้เห็น
จับประเด็นไก่ป่ามาเทียบสอน
พอพลบค้ำลับลาตาวันรอน
บินขึ้นคอนผ่อนพักรักษ์ใจกาย

ไม่เหมือนฅนรนหาซึ่งอาหาร
ออกจากบ้านทานข้าวเคล้าเดือนฉาย
ดื่มเบียร์บาร์เหล้าคลับครับสบาย
บางซื้อขายตลอดคืนฝืนกายา

ขับสิบล้อห้อตะบึงไปถึงไหน
ถึงกรุงเทพกรุงไทยเมื่อไรหนา
ทนหลับนอนทั้งคืนฝืนลูกตา
หลับในมาเมื่อไรได้ตายกัน

ฅนไม่หลับไก่หลับนับเต็มคืน
ไก่สดชื่นฅนเฉาเมาสวรรค์
ฅนหลงผิดในกิจจะสารพัน
ยังดื้อรั้นมิตรึกตรองมองดูใคร

รุ่งอรุณอุ่นไอไก่ขับขาน
ก้องกังวาลพฤษ์พงส่งเสียงใส
คอยคุ้ยเขี่ยอาหารเบิกบานใจ
อิ่มเมื่อไรพักผ่อนนอนแนบเนา

นี่คือความพอเพียงเลี้ยงชีวิต
ทุกการกิจธรรมดาควรค่าเขา
มิปรุงแต่งเสริมสร้างอย่างฅนเรา
แบบเก่าเก่าเป็นเป็นที่เห็นมา

เรามนุษย์สุดฉลาดปราชญ์แห่งภพ
เรียนรู้ครบวิชาการด้านศึกษา
มาปรับเปลี่ยนอยู่อย่างสัตว์แบบพัฒนา
คอยค้นคว้าฉลาดล้ำทำวิจัย

ยึดพอดีแบบสัตว์บรรทัดฐาน
เสริมกิจการดีดีมีมากไว้
เสริมประเพณีวัฒนธรรมกิจกรรมไทย
ทิ้งมิได้คุณธรรมมาค้ำจุน

หลักเลิศล้ำธรรมชาติธรรมนำมนุษย์
ธรรมสูงสุดพุทธศาสน์ค้ำเกื้อหนุน
ทิ้งระบบวุ่นวายแบบนายทุน
โลกมิวุ่นสันติสุขเกิดเชื่อเถิดเอย

          เมื่อได้อ่านบทกลอนประกอบคงจะเห็นความหลงในการดำรงชีพของมนุษย์ได้บ้างในส่วนหนึ่ง  หากท่านประมวลเรื่องอื่น ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เข้าด้วยกัน จะทำให้ท่านเกิดแนวคิดได้อย่างมากมาย  และที่สำคัญมีความคิดที่จะ "ปลง"  และจะเกิด   ลด ละ เลิก  อะไรทำนองนั้น นี่ถือว่าเป็นการผ่อนคลายความหลง จากนั้นเราก็หันกลับมาใช้การอยู่ร่วมของมนุษย์ตามแนว "ธรรมชาติธรรม" ที่ได้นำเสนอแนวคิดไว้หลายแง่หลายมุม ขอท่านได้ศึกษาต่อไป

 

คำสำคัญ (Tags): #เว็บเพื่อสังคม
หมายเลขบันทึก: 500441เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2012 17:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 16:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท