"ประกอบ ประกงกำ ประดับ กำกับเกวียน
ประกบ กะบกเสียม กบาลไม้ กบิลการ
เก่ากาล ก็เชิญเถิด เอามาเชิด ชูภายหน้า
กู้เก่า กลับคืนมา ดีกว่าขาย ไปหากิน..."
"พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา"
เกวียนเก่า สิ่งแรกที่ได้รับถวายเข้าพิพิธภัณฑ์ แต่เพลาพัง เลยถอดเป ถอดล้อ และของประกอบ กองไว้กลางวัดมาสัปดาห์หนึ่งแล้ว
เพราะงานเข้า ข้าวของประเดประดังเข้าพิพิธภัณฑ์มากกว่า ๕๐๐ ชิ้น ในเวลาสัปดา์ห์เดียว!
บัดนี้เกวียนเก่า ผู้มาก่อน
ได้ฟื้นคืนชีพแล้ว ใส่สัตว์เทียมวิ่งรอบโบสถ์... หรือรอบหมู่บ้านได้สบาย
ด้วยสองมือของปราชญ์ชุมชน หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ ใครจะรู้ ว่าหลวงพ่อทันยุค ทันสมัย เคยใช้เกวียนด้วย...
ภาษาถิ่นแถมท้าย
กะบก = (ถ.ภาษาถิ่นบ้านนอกคุ้งตะเภา) หมายถึง "จอบ" มักใช้เรียกคู่กับเสียม
ตย. กระบกกระเสียม = จอบเสียม
แถมอีก...
คุ= (ถ.ภาษาถิ่นบ้านนอกคุ้งตะเภา) หมายถึง "ถังใส่น้ำ"
ล้อ= (ถ.ภาษาถิ่นบ้านนอกคุ้งตะเภา) หมายถึง "เกวียน"
ภาษาถิ่นบ้านนอกคุ้งตะเภาเรียกเกวียนว่า ล้อ หมายถึง เกวียนทั้งเล่ม
ตย. เอาคุกระบกกระเสียมใส่ล้อไปไร่น้ำพี้ = เอาถัง จอบ และเสียม ใส่เกวียน เพื่อไปทำไร่ที่บ้านน้ำพี้
ให้ได้อารมณ์คนบ้านคุ้งตะเภาคุยกัน ต้องอ่านว่า เอาคุ๊ก๊ะบ๊กก๊ะเสียมใส่ล้อไปไร่น้ำพรี้
คิดว่าสมัยก่อน คนคุ้งตะเภา อาจทำคนต่างบ้าน ตายไปหลายคนแล้ว เพราะเวลาเจอเสือกลางป่า จะบอกว่า "เสื่อ เสื่อ เสื่อมา!"
ถ้าซื่อ ก็คงเอาเสื่อมานั่งปูรอให้เสือกินเสียเฉย ๆ อย่างนั้น
แต่ถ้าเวลาเพื่อนต่างบ้านมาเยี่ยมถึงเรือน
จะบอกว่า "มา มา เอาเสือมา"
เพื่อนคงเผ่นป่าราบกลับไปทุกที!
ไม่มีความเห็น