เป็นอาจารย์ในดวงใจ แม้ไม่เคยพบขอคารวะและน้อมจิตไว้อาลัย ค่ะ
๏ เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
๏ จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ
๏ หากเจ้าอุบัติบนสรวงสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟ เราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ
๏ แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกาลปาวสาน
แม้นชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
๏ ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย
พี่สมศักดิ์ ศรีเอี่ยมกูล บอกเล่าว่า ท่านอังคาร สิ้นชีวิตแล้ว เมื่อ เวลา01.30 น.คืนนี้
รดน้ำศพ ที่วัดตรีทศเทพ 17.00 น. สวดพระอภิธรรม 7 วัน พระราชทานเพลิง ค่ะ
เชิญชวนนักกลอน กวี ท่านที่ชื่นชอบ ศรัทธา ท่านอังคาร ไปร่วมงานกันนะคะ
ผู้ตั้งกระทู้ สมุทร สาครบุรี วันที่ลงประกาศ 2012-08-25 09:01:12
ข่าวจาก กระทู้ของสมาคมนักกลอน ค่ะ
ร่วมไว้อาลัยด้วยค่ะ
น้อมจิตคารวะและขอไว้อาลัยด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สมัยอ่านกลอนแรก ๆ เริ่มหัดเขียน หลงใหลกลอนครู บทนี้มาก
เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
จดคัดลอกมาอ่านแล้วอ่านอีก
สูญเสีย จนเสียใจยิ่ง ราวสูญของรักอันมีค่าเหนือคณนา ไม่หวังอะไรอีกแล้ว
ซบหน้าติดดินกินทราย ประหนึ่ง หมดอาลัยตายอยาก ไม่ขอมีชีวิตต่อ
แม้นชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
เป็นการเปรียบเปรยแบบ เหนือจริง เกินความจริง
ใคร ๆ ก็รู้ ว่า มันไม่จริง
แต่ ใคร ๆ ก็อยากฟังและอยากอ่าน
นี่แหละค่ะ ครูหรือท่านอังคาร
ผมขอร่วมไว้อาลัยด้วยน๊ะครับ..เฮ้อ ! ความตาย..เอาเข้าจริงไม่มีใครรู้ว่า..คนที่ตายก่อนนั้นเป็นคนมีบุญ. หมดทุกข์. หรือคนที่ยังอยู่กันแน่ ? อยู่เพื่อใช้กรรมกันก่อน. ยังไงก็ตามคงต้องเจอกันที่ศาลา ๑ ถ้าว่าง. ส่วนวัดไหนนั้นคงต้องแล้วแต่ศรัทธา..
ขอร่วมไว้อาลัยด้วยค่ะ
ร่วมไว้อาลัย เช่นกันค่ะ
KRUDALA ค่ะ ครูอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบทกวีไพเราะและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จนเรียกกันว่า อหังการ์กวี