ไปวัดกับแม่ : ไดอารี่ชีวิต


เมตตาธรรมค้ำจุนโลก เมตตาจิตทำให้ชีวิตเป็นสุข สร้างปัญญาก่อนปล่อยวาง

 

...หลังวันแม่ไม่กี่วัน เกิดอาการปิดเทอมใหญ่หัวใจวุ่นๆกับหลากหลายเรื่องราวของคนกับการลงมือทำงาน "ความปราถนาดีที่ตั้งใจช่วยผู้อื่น แต่หัวใจต้องเป็น"แม่อายสะอื้น" ...

 

...จากความรู้สึกที่ให้อึดอัดกับหัวใจกับอาการน้ำท่วมปาก(เห็นภายในใจแต่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นรูปธรรมได้ "ไม่มีหลักฐาน").

 

...เช้าวันหนึ่งกับฉันและเธอ:)ที่มุมกาแฟ..พูดแบบจริงจังสื่อเข้าหัวใจ(โครงการปลูกผักหวานในแปลงที่ดินของน้องสาว"ย่า") พ่อไม่ทำแล้วใครจะทำ บรรดาน้องๆของพ่อไม่มีใครทำการเกษตรเลย แล้วคนในเมืองจะมาทำสวนมันก็ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อปรับขบวนหัวใจบางครั้งก็ต้องพูด"แบบหนักๆ"แต่ไม่ใช่ทะเลาะกัน แต่มันต้องปรับขบวนทัศน์เพื่อก้าวไปด้วยกัน ฉันเป็นผู้น้อยอึดอัดใจนะรู่ไหม.

 

...บางครั้งการพูดสิ่งในใจออกไปก็ไม่ใช่อารมโกรธหรืออะไรมากมาย เพียงแต่การปรับใจในการใช้ชีวิตร่วมกันกับคนที่เบ้าหลอมต่างกันที่มาใช้ชีวิตร่วมกันในแบบคู่ชีวิต..แต่ก็ให้รู้สึกลึกๆในหัวใจตนกับอาการครั้งนี้ที่เกิดขึ้นภายในหัวใจที่มันรู้สึกว่าไม่นิ่ง และจะได้รับปัญญาจากที่ไหนซักแห่ง.

 

...นึกถึงวัดๆหนึ่ง(แต่ไม่เคยไป)ได้ยินแม่กับพี่สาวเล่าให้ฟัง ซึ่งตอนนั้นได้ฟังก็เฉยๆไม่รู้สึกดึงดูดใจที่จะไป..แต่ก็ไม่รู้อะไรดลใจข้าพเจ้า วันนั้น(13-8-55)อยู่ๆโทรศัพท์ไปถามแม่เรื่องหลวงปู่และวัดแห่งนั้น..แม่บอก ถ้าจะไปก็ออกมาหาแม่จะพาไป.

 

...วันนั้นท้องฟ้าไม่มีทีท่าฝนจะตก ก่อนออกจากบ้านไปหาแม่ฝนตกลงมาแบบหยุดๆตกๆ บอกกับฝนถึงตกฉันก็จะไปหากตั้งใจแล้วไม่มีทางถอย..ไปรับแม่ที่บ้านให้แม่นำทางไปวัด.

 

...ไปถึงวัดบ่ายแก่ๆ(3โมงเย็น) เป็นวัดป่าที่แวดล้อมด้วยต้นไม้และสวนของชาวบ้าน แถบนี้เรียกว่า"วัดเกาะ"(ด้านหนึ่งอยู่ติดลำน้ำพองปีไหนน้ำหลากก็เข้าท่วมวัดด้วย).

 

...ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้พบเห็นและกราบหลวงปู่(แม่พาเรียก) อายุท่านมากแต่ดูท่านผ่องใสสงบเย็น..ผิดกับเรื่องที่ได้ยินคนอื่นเล่าและจินตนาการในใจของตัวเองมาก.

 

...ยิ่งได้ฟังน้ำเสียง ปิยวาจาที่ท่านพูดออกมาทำให้หัวใจของข้าพเจ้าที่ดิ้นปับๆไม่อยู่นิ่งหยุดกึกทันใด..ยิ่งได้พูดคุยสนทนากับท่านดึงดูดหัวใจที่ร้อนรุ่มกำลังจะตายให้ได้สงบเย็นได้อย่างประหลาดใจตัวเอง.

 

...ชีวิตที่เป็นมา อุปสรรคปัญหาที่พบเจอ และสิ่งที่เกิดขึ้นสดๆร้อนที่ต้องผ่านมันไปให้ได้..เหมือนว่าหลวงปู่ท่านจะรับรู้ในทุกสิ่ง.

 

...เกิดปีไหน วันอะไร(หลวงปู่ถาม)..ปีมะเมีย วันอังคารค่ะหลวงปู่(ทั้ง2คน)  หลวงปู่บอกว่าเป็นมาพระยาเลี้ยงไม่ตาย ไม่ตกหรอกมันเหมือนจะตกเหวแต่มันก็ไม่ตกซักทีจริงไหม(จริงค่ะ)..แต่ตอนนี้เหมือนมันกำลังจะตาย เหมือนกำลังดิ่งเหวค่ะหลวงปู่..ให้ทำตามแบบของตน ให้ยึดมั่นศรัทธาในสิ่งที่ตนเพียรมา ให้คงไว้ซึ่งเมตตาให้เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ..อุบายธรรมปรับจิตปัจจุบันขณะจากหลวงปู่.

 

...มีลูกกี่คน(หลวงปู่ถาม)ไม่มีค่ะ..แต่หัวใจสบายค่ะไม่คิดอะไร คงเพราะสัญญาในส่วนนี้ไม่มีต่ออีกแล้วและตั้งใจจะเดินตามรอยผ้าเหลือง..ดีแล้วตั้งใจทำนะ.

 

...วันอังคาร มันแข็ง(ความดีที่ทำ)..ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก เรื่องราวต่างๆไม่ต้องกังกล ให้อยู่นิ่งๆเผื่อแผ่เมตตาให้พวกเขาโดยชะตาที่ต้องพบพาลกับเหล่า"เปรตดิบ"(คน) โดยเฉพาะคำพูด"ปากมหาภัย" ..หากชนะได้(ชนะด้วยธรรม เมตตา อภัยทาน ด้วยใจสงบนิ่ง ตะบะ) บารมีธรรมของเราก็แก่กล้าขึ้นด้วยนะ..ทำมาตลอดค่ะหลวงปู่ แต่ทำไมยังพบเจอเรื่องซำ้ๆอยู่อีก..ไม่มีอะไรให้นิ่งๆไว้..ค่ะ (รับมาแล้วก็ต้องทำให้ได้สิงานนี้) อุบายธรรมสร้างพลังชีวิตจากหลวงปู้.

 

...ที่ดิน มันมากไปหลายเรื่องก็แบ่งขายทำทุนทำบุญทำทานด้วย..วัดไหนก็ได้ที่ศรัทธา.

 

...ในวันนั้นกับ อุบายธรรมชีวิตที่ข้าพเจ้าและคุณพ่อบ้านเป็นอยู่(พบเจอ) ที่ต่างจากใครๆทั่วไป หลวงปู่ท่านคงรับรู้ ฉายธรรมะเล่าเรื่องราวชีวิตของท่าน (เกี่ยวกับแม่และครอบครัวของท่าน).

 

...รู้สึกจะเิ่มเย็นจึงขอโอกาสกราบลาหลวงปู่ ฝนเทกระหน่ำจึงต้องอยู่ต่อหลวงปู่ทำฝ้ายผูกแขน..ให้แม่ผูกให้-ผูกให้แม่ด้วย(ในรอบหลายปีที่มีโอกาสได้ให้แม่ผูกแขนและผูกข้อมือให้แม่พร้อมอวยพรอธิษฐานจิตให้แม่)..ฝนหยุดจึงกราบลาอีกรอบ..

 

...ไปส่งแม่ที่บ้านขี่รถกลับมาสวนก็ให้ครุ่นคิดพร้อมความสบายใจที่ได้รับปัญญาจากอบายธรรมจากหลวงปู่..ทำให้มองเห็นเส้นทางข้างหน้าอย่างชัดเจนขึ้น(บางอย่างก็ให้บ่นกับตัวเอง"โง่แบกไว้ตั้งนานวางไม่ลงซักที").

 

...3วันให้หลังไปกราบหลวงปู่ ได้รับจม.แจ้งข่าวศาลปกครองสูงสุด เกี่ยวกับวันและการพิจารณาคดีครั้งที่1 (นับเป็นข่าวดีกับสิ่งที่รอคอยมานาน ซึ่งทำให้รับรู้ว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นใกล้จะจบสิ้นเสียที..)

 

...การปรับหัวใจและได้รับปัญญาตนในรอบ5ปี พบทุกข์ก่อนได้ปัญญานับว่าคุ้มค่ากับหัวใจอย่างมากมาย.

 

                      *** ขอบพระคุณ สวัสดีค่ะ ***

 

หมายเลขบันทึก: 500051เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2012 13:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม 2012 23:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ชื่นชมการใช้ธรรมะนำทางชีวิตของคุณน้อยค่ะ

แค่รู้ตัวว่าใจไม่นิ่งก็แสดงว่ารู้ในระดับหนึ่งแล้วนะคะ ทำให้ได้พบทางออกในที่สุด

วันนี้ึคงรู้สึกดีขึ้นนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

สวัสดียามบ่ายวันเสาร์นะคะ

สวัสดียามบ่ายค่ะคุณน้อย

ยินดีอนุโมทนาด้วยนะคะ ที่น้องพบคำตอบ

ซึ่งคงต้องผ่านความอดทน และเดินหน้าด้วยความระมัดระวังไม่น้อย

สุดท้าย ยังตั้งจิตน้อมใจปรึกษาหารือผู้ใหญ่ จนวางใจได้ด้วยดี

สาธุด้วยนะคะ


 

...ขอบพระคุณทุกๆท่านที่กรุณาเข้ามาเยื่ยมชมและมอบดอกไม้กำลังใจค่ะ...

 สวัสดีค่ะคุณปริม...

...ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ(เป็นคนใจร้อน..จึงต้องหาวิธีมาปราบเมื่อเกิดอาการร้อนภายในใจค่ะ).

...ตอนเช้ากับมุมกาแฟ คนใกล้ๆบอกว่า "ความทุกความลำบากคือยาชูกำลัง คือพลังของชีวิต เพราะความทุกข์ความลำบากนั้นเป็นตัวช่วยปลุกการตื่นตัวของร่างกายและหัวใจ(ฮอร์โมนชีวิต) ทำให้กายและใจดิ้นรนหาทางออก หาหนทางที่จะทำเพื่อแก้ทุกข์-ดับทุกข์" (ฟังแล้วคิดถึง..คุณปริมค่ะ)...

...มีความสุขกับค่ำคืนวันพักผ่อนค่ะคุณปริม...

สวัสดีค่ะพี่ตะวัน...พี่สาวสำบายดีบ่...

...เหตุเกิดที่ตนจึงดิ้นรนหาทางดับมันให้ได้ ยิ่งดับได้เร็วเท่าไหร่หัวใจก็จะเบาเร็วเท่านั้น แต่จริตในใจตนต้องให้มันดิ่งถึงก้นเหวซะก่อนถึงจะบังคับใจได้(ล่อให้เหนื่อยก่อน ค่อยหยอดน้ำให้มันฟื้น) ต้องให้ใจมันรู้ในความรู้สึกเมื่อมันเกิดความทุกข์อาการใจ-กายเป็นเช่นไร(เหตุ) มันค่อยจะสอนใจตัวเองได้ค่ะ...

...พบความสุขทั้งยามหลับและยามตื่นนะคะพี่สาว...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท