ตัวอย่างที่ดีของการจัดการงานวิจัยพื้นฐาน
บทบรรณาธิการในวารสาร Science ฉบับวันที่ ๓ ส.ค. ๕๕ เรื่อง NIH Basics เขียนโดย ผอ. ของ NIH คือ Francis Collins ให้ความรู้แก่ผมในเรื่องวิธีคิด และวิธีจัดการงานวิจัยพื้นฐาน จึงนำมา ลปรร.
เขาบอกว่า เวลานี้ประมาณร้อยละ ๕๓ - ๕๗ ของ งปม. ของ NIH ใช้สนับสนุนงานวิจัยพื้นฐานด้านชีวการแพทย์ (biomedical) วิธีคิดของเขาคือต้องได้สมดุลระหว่างการวิจัยพื้นฐานกับการวิจัยประยุกต์
เขาบอกว่า เมื่อดูที่รายการ Top breakthroughs 2011 ของวารสาร Science ในส่วนที่เป็นด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ๖ รายการ เป็นรายการที่ NIH สนับสนุนหรือดำเนินการเอง ๔ รายการ ในจำนวนนี้ ๓ รายการเป็นการวิจัยพื้นฐาน (cell senescence, human microbiome, archaic human DNA) และ ๑ รายการเป็นการวิจัยทางคลินิกที่มีฐานของการวิจัยพื้นฐานแข็งแรงมาก (การรักษาในฐานะการป้องกัน HIV)
มีผู้ได้รับรางวัลโนเบล ๑๓๕ คน ได้รับการสนับสนุนจาก NIH และทั้งหมดเป็นการวิจัยพื้นฐาน
เขาชี้ให้เห็นว่า การสนับสนุนการวิจัยพื้นฐานต้องไม่ใช่สนับสนุนแบบเปะปะ ต้องมีจุดเน้นหรือทิศทางที่ถูกต้อง เขาบอกว่าทุกประเด็นใน Science’s Area of Watch 2012 ด้านชีวการแพทย์กำลังได้รับการสนับสนุนจาก NIH ได้แก่ การศึกษา metabolic pathways ใน stem cells, whole-genome sequencing เพื่อใช้ในงานระบาดวิทยา, และ พัฒนาโมเดลใหม่ในการศึกษา developmental brain disorders
นอกจากนั้น สถาบันวิจัยในสังกัด NIH ยังทำงานวิจัยพื้นฐานเพื่อเปิดขอบฟ้าใหม่ในความรับผิดชอบของแต่ละสถาบัน ได้แก่ บทบาทของ microRNAs แข่งกับ endogenous RNA ในการควบคุม ยีน, โครงการ modENCODE ศึกษา functional elements ของ Drosophila และ Carnorhabditis elegans ไว้เป็น model organism, โครงการ trans-NIH เพื่อทำแผนที่ high resolution brain wiring
NIH Common Fund ทำหน้าที่ตั้งคำถามเพื่อทำความเข้าใจประเด็นพื้นฐานที่สุดในชีววิทยา เช่น extracellular RNA communication, single-cell analysis เป็นต้น
ใน Common Fund มีโปรแกรมให้ทุนวิจัยชื่อ High-Risk/High-Reward Program ขยายตัวอย่างมาก จากใช้เงินปีละ $7.3 ล้านในปี ค.ศ. 2004 เป็น $191.8 ล้าน ในปี ต.ศ. 2011 และเขาจะเพิ่มจำนวน Pioneer and New Innovator award ซึ่งหมายถึงการสนับสนุนนักวิจัยใหม่ที่ creative จริงๆ
ผมชอบคำกล่าวว่า ในยามยากที่งบประมาณต้องลดลง คนอเมริกันต้องตระหนักว่า การวิจัยพื้นฐานในปัจจุบันคือพลังขับเคลื่อนการค้นพบหรือนวัตกรรมในอนาคต
วิจารณ์ พานิช
๒๕ ส.ค. ๕๕
เคยเห็นงานวิจัยหลายชิ้นในประเทศไทยที่ได้งบประมาณมาก ได้แต่คิดในใจตามประสาคนรู้น้อยว่า ใช้ยังไงหมดนี่ ผู้ให้งบคงพิจารณารอบคอบแล้วละค่ะ