จากการพิจารณาร่างกฎหมายขัดกันรัสเซีย ในเบื้องต้น พบว่า กฎหมายขัดกันของรัสเซียได้นำกฎหมายขัดกันไปอยู่ในกฎหมายแพ่ง ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายขัดกันไทย ที่ออกเป็นพระราชบัญญัติออกมาต่างหาก
ต่อมา หากเราพิจารณาถึงหลักกฎหมายขัดกันของรัสเซียว่าด้วยละเมิด พบว่า จะอยู่บทบัญญัติ มาตรา 1259 ซึ่งรัสเซียก็ใช้หลักการเช่นเดียวกับกฎหมายไทยและญี่ปุ่น กล่าวคือ
แต่กฎหมายรัสเซียมีข้อแตกต่างจากกฎหมายไทยและญี่ปุ่นอยู่ 2 ประการคือ
หากพิจารณาหลักกฎมายขัดกัน ว่าด้วยลาภมิควรได้ ของรัสเซีย ในมาตรา 1258 มีหลักเกณฑ์ดังนี้
จะเห็นได้ว่า กฎหมายรัสเซียได้บัญญัติข้อยกเว้นการนำหลักกฎหมายแห่งถิ่นที่ลาภมิควรได้นั้นได้เกิดขึ้นมาบังคับใช้ ในขณะที่กฎหมายไทยและญี่ปุ่นไม่มีบทบัญญัติดังกล่าว
กฎหมายขัดกันรัสเซีย ไม่มีบทบัญญัติที่เกี่ยวกับจัดการงานนอกสั่งไว้อย่างชัดแจ้ง แต่หากจะหาหลักกฎมายขัดกัน ว่าด้วย จัดการงานนอกสั่ง (ชื่อเรียกตามกฎหมายไทยและญี่ปุ่น) จะต้องพิจารณา กฎหมายขัดกันรัสเซีย 2 มาตรา คือ มาตรา 1224 ประกอบกับ มาตรา 1260 กล่าวคือ
ตามมาตรา 1260 กฎหมายที่ใช้บังคับแก่ความสัมพันธ์ของบุคคลที่ไม่ใช่สิทธิในทรัพย์สิน คือ กฎหมายแห่งประเทศที่การกระทำหรือเหตุการณ์ได้เกิดขึ้น ซึ่งใช้เป็นมูลเหตุในการอ้างความคุ้มครองในสิทธินั้น ซึ่งจากบทบัญญัติของรัสเซียนี้ สามารถตีความว่าเป็นหลักกฎหมายว่าด้วยการจัดการงานนอกสั่ง (ตามกฎหมายไทยและญี่ปุ่น) โดยอาศัยบทบัญญัติมาตรา 1224 ซึ่งมีหลักว่า หากมีหลักกฎหมายใดที่ไม่มีในกฎหมายของประเทศที่พิจารณาคดี หรือว่ามีแต่มีชื่อและองค์ปรกอบที่แตกต่างกันไป และไม่สามารถกำหนดโดยวิธีตีความใดๆแห่งศาลที่พิจารณาคดีนั้น สามารถนำกฎหมายต่างประเทศมาตีความหลักกฎหมายดังกล่าวได้
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เราอาจอาศัยมาตรา 1224 นี้ ในการตีความมาตรา 1260 ของกฎหมายขัดกันรัสเซีย เป็นเรื่องของกฎหมายขัดกันว่าด้วยจัดการงานนอกสั่ง ตามกฎหมายไทยและญี่ปุ่นได้
ดังนั้น ในเรื่องจัดการงานนอกสั่ง กฎหมายขัดกันไทย ญี่ปุ่น รัสเซีย ต่างบัญญัติไว้เหมือนกัน คือ ใช้กฎหมายแห่งถิ่นที่ข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุให้เกิดการเรียกร้องหรือหนี้นั้นได้เกิดขึ้น
สรุปได้ว่า กฎหมายขัดกันรัสเซีย มีบทบัญญัติที่คล้ายๆกับกฎหมายขัดกันของไทย และญี่ปุ่น แต่มีข้อยกเว้นบางประการ เช่น การนำหลักสัญชาติมาใช้กับเรื่องละเมิดด้วย เป็นต้น
ไม่มีความเห็น