เดินทาง 7 ทีดี 7 หน


เดือนสิงหาคมนี้
หลายท่านที่อยู่ในวงราชการคงทราบว่าเป็นฤดูกาลแห่งการสัมนา อบรม
ข้าพเจ้านับดูของตัวเองคือเจ็ดครั้ง
ทุกครั้งไปด้วยความเต็มใจไป
และทุกครั้งก็เก็บ "ความสุข" มาได้ทุกครั้ง
บันทึกนี้เลือกมาสองการเดินทางที่ก่อให้เกิดบันทึกคะ

###
เริ่มต้นที่เซนทรัลแอร์พอร์ตเชียงใหม่
ชื่อบทความ ได้แรงบันดาลใจจากหนังไทยเรื่องหนึ่ง..
ตัวละครหญิงหม้ายวัย 42 ล้มตัวลงหลังเริ่มหัดวิ่งมาราธอน
" ไม่ไหวแล้ว ฉันก็แค่อยากวิ่ง แต่ไม่อยากเหนื่อย"
ตัวละครชายวัย 24 ที่เป็นโค้ชกล่าว
" ตามใจคุณนะ ถ้าคุณแค่อยากวิ่งคุณวิ่งกิโลเมตรเดียวก็พอ
แต่ถ้าคุณอยากพบชีวิตใหม่..ค่อยมาวิ่งมาราธอน"

           
ทำไมจำได้ดีนัก..บางทีเพราะมัน "Resonance" ความปรารถนาลึกๆ กระมัง
###

สุโขทัย

ครั้งนี้ทำให้ได้คาถา "จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ"
คืนก่อนกลับ หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น
ข้าพเจ้าอ่าน หนังสือ "สุขเหนือสุข" ของท่านพระไพศาลที่ "พี่กบ"  ให้มา
ในนั้นมีข้อความหนึ่ง ที่ผุดขึ้นมา
ขณะมองไปนอกหน้าต่างรถ แล่นผ่านทิวทัศน์เขียวชอุ่ม
"..เมื่อตอนอาจารย์ประมวล เดินกลับบ้านที่สมุย
ตอน 'ขาขึ้น' ดอยสุเทพ ท่านใจจดจ่อกับเป้าหมาย เหน็ดเหนี่อยจนล้มข้างทาง
เมื่อมีสี่ล้อแดงผ่านมารับข
ึ้นไป ได้น้ำ ได้อาหาร
ตอน 'ขาลง' ท่านพบว่า ข้างทาง มีธรรมชาติสวยงาม
เป็นความงามที่ไม่เห็นตอนขา
ขึ้น แต่มาเห็นตอนขาลง.."
..การเดิ
นทางของชีวิตเราก็หมือนกัน
'ขาไป' เราเห็นแต่เป้าหมายเบื้องหน้า
'ขากลับ' เราจึงมองเห็นความงามข้างทาง


 ###

กรุงเทพมหานคร

ครั้งนี้ ไปเป็นกองเชียร์ชาว go ก็ know เอง 
การ go นี้ได้ know กัลยาณมิตรหลายท่าน
การเล่าความประทับใจทั้งหมด คงทำให้บทความนี้ยาวเหยียด
จึงขอเลือก "ช็อตประทับใจ" มาตามความรู้สึก

อาจารย์จันทวรรณ :
ตอนที่อาจารย์จด "อาบน้ำอุ่น"
ที่คุณอ้อแนะนำเคล็ดลับลดไข้เด็ก ในสมุดจดงาน
เล่มเดียวกับที่อาจารย์จดเนื้อหาจากวิทยากรท่านอื่น ทุกท่าน
(แม้ใครๆ ก็บอกว่าท่านเป็น สุดยอดในยุทธจักร แล้วก็ตาม)
อีกตอนหนึ่ง ขณะลงลิฟท์ท่านสนทนากับนักวิชาการคอมพิวเตอร์
ส่วนข้าพเจ้ายืนฟังนิ่งๆ แต่มืออาจารย์ที่จับไหล่ข้าพเจ้าไว้ตลอด
ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนยืนกับพี่สาวคนหนึ่ง
ไม่ใช่อาจารย์ด็อกเตอร์ แบบบนเวทีในห้องประชุม

อาจารย์วัลลา :
ตอนที่อาจารย์กรุณาเลี้ยงอาหารเวียดนาม
เตือนพวกเราอย่างสุขุมในแบบอาจารย์
"โต๊ะพี่จะเสียงดังหน่อยนะ หลังงานให้เขาปลดปล่อยเต็มที่"
เมื่อถึงร้าน อาจารย์นั่งกับทีมงานเครือข่ายเบาหวาน
ส่วนข้าพเจ้า พี่ศิลา พี่ยุวนุช อ.จันทวรรณ และ ดร.ป๊อป นั่งโต๊ะติดกัน
สักพักพี่ศิลาก็เอ่ยอย่างจริงใจ "เสียงดังจริงๆ ด้วย ย้ายโต๊ะกันเถอะ"
มองไป ท่ามกลางบุคคลที่ต่างคนต่างส่งเสียงคุยหัวเราะ เต็มที่
ก็เห็นรอยยิ้มละไม นิ่งฟัง ของท่านอาจารย์วัลลา

อาจารย์ยุวนุช :
ความประณีตของอาจารย์ที่เราเห็นในการเขียนอย่างไร
ตัวตนในขณะพูดก็อย่างนั้น
อาจารย์ออกเสียงสระ พยัญชนะชัดเจน
ทุกครั้งที่กล่าวถึงคนใกล้ตัวของท่าน คืออาจารย์ตุลย์พิชัย
แววตาอาจารย์มีประกายความชื่นชมคนดีศรีอยุธยา "บุรีเทวี" อย่างยิ่ง
"สงสัยเป็นทหารเอกอยุธยากลับมาเกิด"

อาจารย์ศิลา :
ตัวจริงของอาจารย์ "เข้าถึงง่าย"
กว่าที่ข้าพเจ้าจินตนาการบุคลิกจากการอ่านบทความ
แรกๆ ข้าพเจ้าเกร็งเพราะเกรงอาจารย์จะอ่านออก
เห็น "เนื้อแท้" ของข้าพเจ้าซึ่งอาจน่าผิดหวัง
แต่เปลือกของข้าพเจ้าก็ถูกอาจารย์ศิลาปอกออกทีละชั้นๆ
โดยเฉพาะเมื่ออาจารย์กล่าวถึงประสบการณ์ "ห่างไกลเหลือเกิน"
..ข้าพเจ้าเผลอเถียง "ตอนนั้นยังไม่มี skype นี่คะ"
พร้อมกับการหลุดออกของเปลือกชั้นสุดท้าย

อาจารย์ศุภลักษณ์ และคุณแม่ประณอมศรี เข็มทอง :
อาจารย์ป๊อปพาคุณแม่มาด้วย
และยังกรุณาพาข้าพเจ้าไปส่งที่สนามบิน
ช่วงชั่วโมงครึ่งที่นั่งรถ จึงเป็นโอกาสดี ได้สนทนากับทั้งสองท่าน
ถึงได้ทราบว่า ดร.ป๊อป เป็นอาจารย์ที่อุดมด้วยทั้งจิตอาสาและวิชาการ
อาจารย์ป๊อปไปเยี่ยมบ้านคนป่วยเอง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
แต่ความเป็นนักวิชาการเข้มข้น ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงยากสักนิด
คุณแม่บอกท่านเป็น "editor" ขัดเกลาหนังสือและบล็อกให้
ขอกระซิบว่า คุณแม่เป็นนักประชาสัมพันธ์ด้วย
เพราะทำให้ข้าพเจ้าอยากอ่านหนังสือ "เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็น ดร." 
เอามากๆ หลังจากฟังตอนตัวอย่าง
"ระหว่างดีกับชั่ว ให้ไปคิดเลือกเอา"
อยากอ่านขึ้นมาบ้างใช่ไหมคะ ก็ต้องไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านกัน :)
..
ข้าพเจ้าถาม คุณแม่ไปไหนมาไหนกับ อ.ป๊อป ตลอดหรือเปล่า
ท่านก็ตอบเปล่า เพียงแต่ท่านชอบได้เพื่อนใหม่ๆ
มิตรของท่านมีทุกที่ ดังนั้นม่ว่าท่านหรือ ดร.ป๊อปไปที่ไหน
ก็มีแต่คนคอยช่วยเหลือเกื้อกูล
สิ่งนี้จุดประกาย ให้ข้าพเจ้าคิดว่า
มรดกประเภทหนึ่งที่พ่อแม่จะตกทอดถึงลูกหลานได้
ก็คือ "กัลยาณมิตร" เป็นหลักประกันทางสังคม


 

เขียนมาถึงตรงนี้
ตกลง พื้นที่ความสุขของข้าพเจ้าอยู่ที่ไหน ?
ความสุขของข้าพเจ้าขณะนี้ คงเป็นการเดินทาง
พบคนที่น่าสนใจ เรื่องราวที่น่าสนใจ
"ทำไร่ความสุข แบบเลื่อนลอย" :)

###

หมายเลขบันทึก: 499805เขียนเมื่อ 23 สิงหาคม 2012 20:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน 2012 10:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (40)

แวะเวียนทักทาย บันทึกที่น่าชื่นชมเช่นเคย กัลยาณมิตรมากมาย......มาพร้อมๆกันบน GotoKnow ไม่ต้องค้นหาให้เหนื่อย.........ครับ

เสร็จกัน ถูกปอกเปลือกหมดเลย 555

เป็นช่วงชีวิตแห่งการค้นหาคำตอบ "อะไรคือชีวาแห่งตน" โดยแท้

คำคม "ทำไร่ความสุขแบบเลื่อนลอย" 555ช่างคิดได้ สงสัยจะได้สมาชิกใหม่ "คนบ้า(น)เดียวกัน" อิอิ

"ทำไร่ความสุข แบบเลื่อนลอย" :)

เมื่อวานเห็นบันทึกท่านอาจารย์จันบอกว่าอยากเป็นชาวประมงก็อยากไปเป็นเพื่อนบ้าน วันนี้เห็นบันทึกนี้ก็อยากไปเป็นชาวไร่ด้วยคนค่ะ ;)

เอาน่ะ....โครงการหลวงไปถึง เลิกปลูกฝิ่น เดี๋ยวก็ลงหลักปักฐาน...มั่นคงเอง

เขียนดีมาก ๆ อ่านสนุก...หลายกองเชียวค่ะ อาจารย์หมอ ป.

สวัสดีค่ะคุณหมอBlank ป.   ขอให้คุณหมอมีความสุขกับการทำงานค่ะ

มาให้กำลังใจค่ะ  อย่าลืมแวะไปเยี่ยมครูทิพย์บ้างนะคะ

 

ขอบคุณคะอาจารย์
การเดินทางไปพบกัลยาณมิตร คุ้มค่าเสมอ

การเดินทางแต่ละครั้ง ย่อมมีความหมาย และปัญญามักปิ๊งแว๊บมาระหว่างทางเดินเสมอ ครับ

มรดกประเภทหนึ่งที่พ่อแม่จะตกทอดถึงลูกหลานได้
ก็คือ "กัลยาณมิตร" เป็นหลักประกันทางสังคม

  ขอบคุณ คุณหมอ ป. มากครับ...ผมขอยืมไปสร้างหลักประกันและเสริมเป็นภูมิคุ้มกันให้กับลูกชายด้วยนะครับ


"ทำไร่ความสุข แบบเลื่อนลอย"  อืม...เป็นความสุขไปเรื่อย ๆ แบบขั้นบันไดเพื่อปีนป่ายขึ้นไปให้ถึงจุดหมายสูงสุดแห่งชีวิต...ไหมหนอ... 

"ทำไร่ความสุข แบบเลื่อนลอย"...ชอบคำนี้จังครับคุณหมอ...ขอยืมไปใช้บ้างนะครับ...

          ขอบคุณบันทึกการเดินทางที่ส่งพลังแห่งความสุข...ปกคลุมไปทุกถ้วยคำ...อืมเพลงเพราะด้วยครับ...๕๕๕




ขอบคุณคะอาจารย์ was

แต่ที่นำมาเขียนใน gotoknow นี้เป็น "แก่น"นะคะ

ขอบคุณคะพี่หมอเจ๊ ทำให้ฉุกคิด "อะไรคือชีวาแห่งตน"
หากไปทำงานแบบมีเพียงชีวิต แต่ขาดชีวา
ก็คงต้องค้นหาต่อไป

สวัสดีค่ะ

ชอบบันทึกนี้ค่ะ ตรงๆง่ายๆและใส่ใจในผู้คนที่พบระหว่างการเดินทาง

ยิ่ง เดินทาง เราจะยิ่ง ค้นพบตัวเอง...

เกือบลืมบอกค่ะว่า...ชอบคอมเม้นท์ทุกคอมเม้นท์ในบันทึกนี้ด้วยค่ะ

:)

ยินดีคะ เป็นคนบ้านเดียวกัน อ.ป๊กแล (ผวนอีกทีนะคะ :)

ขอบคุณค่ะคุณปริม เป็นมิตรที่ดีเสมอมา

อาชีพอะไร หากมีใจรัก ก็เป็นสุข

สุขจึงรัก หรือรักแล้วสุข อืมม์ อันไหนเกิดก่อนกันหนอ

 

โอ..ชอบวิธีให้กำลังใจของคุณหมออ้อจังคะ

 โครงการหลวง จะมาช่วยพัฒนายกระดับจิตใจ :)

ขอบคุณคะคุณครูทิพย์ แล้วจะไปเยี่ยมคะ :)

  • แวะมาส่งดอกไม้ทักทายก่อนมาอีกรอบแบบสบาย ๆ ค่ะ
  • Large_redflowerspasak1

 

สวัสดีค่ะคุณหมอ ป. มาด้วยความคิดถึง อ่านแล้วชวนติดตามเหมือนได้นั่งใกล้ๆ เพลงถูกใจมาก ชอบๆๆ ค่ะ

มรดกประเภทหนึ่งที่พ่อแม่จะตกทอดถึงลูกหลานได้
ก็คือ "กัลยาณมิตร" เป็นหลักประกันทางสังคม

 

มาจด มาจดอีกแล้วค่ะ

มองว่าการเดินทาง เป็นการกระตุ้นเติบโตให้เติบโตทางจิตวิญญาณ เช่นกันคะ

เมื่อกี้เข้าไปอ่านมุมมองเศรษฐศาสตร์ความสุขของอาจารย์ มีความละเอียดลึกซึ้ง คงต้องเข้าไปทบทวนบ่อยๆ คะ

เชิญมาทำไร่ด้วยกันนะคะ :)

ชอบภาพดูอบอุ่นดีจังเลยคะ หากมีโอกาสอยากไปคารวะพี่ใหญ่สักครั้ง :)

ขอบคุณคะอาจารย์หยั่งรากฝากใบ

การเดินทาง พบผู้คน พบความคิดที่หลากหลาย

ไม่ว่าจะสร้างทุกข์หรือสุขให้ ก็เป็นกระจกให้เห็นความคิดภายในตัวเราไปด้วยคะ

 

ทำไร่ความสุข แบบเลื่อนลอย ...ได้รอยยิ้มจากผมไปเต็มๆ ชอบ..จริงๆ ครับ ส่วนที่อ่านมาทั้งหมดนั้น คุณหมอเป็นคนชั่งสังเกตและก็ระมัดระวังตนเอง ...นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดานะ น่าสนใจก็คือการนำสิ่งดีๆ หลายอย่างรอบตัวมาปรับใช้..นะครับ มีความสุขกับวันจันทร์นะครับ

ขอบคุณสำหรับดอกมิ๊กกี้เมาส์แสนสวยคะอาจารย์

ต้องขออนุญาตอาจารย์และบุคคลทุกท่านที่กล่าวถึง

หากข้อความในบทความ มีส่วนใดอ่านแล้ว เป็นการไม่เคารพ
ก็ขออภัยและยินดีแก้ไขคะ

ขอบคุณคะพี่ครูตูม ดีใจที่ชอบเพลงนี้เหมือนกันคะ

ขอบคุณคะ
พอดีได้อ่านความคิดของพี่หมอเล็กผ่านบทความของ ท่านอาจารย์ชยพร

ความเป็นห่วงของคนเป็นแม่ เป็นสิ่งยิ่งใหญ่มากคะ ที่เราจะรักใครยิ่งกว่ารักตัวเอง

ขอคุณความดีที่พี่หมอเล็กทำไว้ สร้างเครือข่าย กัลยาณมิตร เป็นมรดกอันมีค่าคะ

ขอบคุณคะคุณเพชร หลังจากทำไร่มาหลายที่ ตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนเป็นยึดพื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์แทนนะคะ

เพลงไพเราะ บันทึกมีชีวิต มีบทเรียนให้ทบทวนความคิดที่ดีมากครับ

  • เห็นสมาชิกพบกันแล้วมีความสุข
  • เสียดายไม่ได้พบคุณหมอ
  • แต่คิดว่าคงมีโอกาส
  • ในภาพพบทุกๆๆท่าน อาจารย์ทุกท่านเป็นแบบที่คุณหมอกล่าว
  • ขอให้คุณหมอมีความสุขกับการทำงานครับ
  • การเดินทางเป็นการแสวงหาความหมายใหม่ในชีวิตอยู่เสมอค่ะ ได้ทั้งความรู้ ความรัก มิตรภาพระหวางการเดินทาง  อ่านไปก็มีความสุขไปกับการทำไร่เลื่อนลอยของ อาจารย์ หมอ ป. ค่ะ
  • อาจารย์ หมอ ป. เป็นนักคิด นักนิยามความหมายใหม่ ๆ ในเรื่องที่เรียนรู้และยังถอดบทเรียนในสิ่งที่ได้พบเห็นอีก นับว่าเป็นแบบอย่างของนักใฝ่เรียนใฝ่รู้ได้เป็นอย่างดีค่ะ
  • Happy Ba พาเพลินจริง ๆ ค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะ ได้บันทึกน่ารัก ๆ เป็นตัวอย่างอีกแล้ว

ขอบคุณคะ อาจารย์ป๊อป เป็นโชคดีที่ได้พูดคุยกันคะ

ขอบคุณคะอาจารย์ขจิต เป็นบุคคลอัศจรรย์อีกท่านหนึ่งที่อยากพบคะ  อาจารย์เดินสายบ่อยแบบนี้ ไม่แน่อาจมีโอกาสดีได้เชิญมาเชียงใหม่คะ

ขอบคุณคะ พี่ศิลา (ต่อไปจะขอทักว่า Happy Ba คะ พี่ศิลานะคะ :)

"การเดินทางเป็นการแสวงหาความหมายใหม่"

การเดินทางครั้งล่าสุดนี้ ทำให้ค้นพบปม กับการบ้านที่ต้องกลับมาคลี่คลายคะ

เพิ่งได้มาแวะเยี่ยมนะคะ... ^_____^ ดีใจที่ได้พบกัน เวลาน้อยไปหน่อย คงมีโอกาสพบกันแบบได้คุยกันยาวๆ

คุณหมอป.เป็นคนช่างสังเกต เก็บรายละเอียดสิ่งที่เห็นได้ถี่ถ้วนมาก

ที่ว่าทำไร่แบบเลื่อนลอย แต่ที่จริงคำว่าเลื่อนลอยนั้นคือคนอื่นมองนะคะ ชาวเขาเขามีวิธีคิด วิธีการที่เป็นระบบ แต่มันคนละระบบกับพวกพื้นราบ ดังนั้นพี่จึงคิดว่าคุณหมอ ทำไร่ความสุขแบบเลื่อนลอยนั้น มีระบบ วิธีการที่น่าสนใจมากเลยค่ะ การแบ่งปัน บอกเล่าจึงเป็นการสร้างพื้นที่ความสุขร่วมกัน Happy Ba ค่ะ

ขอบคุณคะ หวังว่าจะได้ไปเยือนอยุธยาบุรีเทวี (ก่อนฤดูน้ำหลาก)

เพื่อเรียนรู้ซึมซับ อัตลักษณ์อันลึกซึ้งของ Happy Ba คะ

เป็นเพลงเดียวกันเลยครับ.... คงเป็นเพราะคุ้นๆ หู...จากบันทึกอาจารย์หมอนี้เองครับ ดีใจครับที่ใจตรงกันครับ... เดินทางไปกับใจครับ..... ขอให้อาจารย์มีความสุขในการเดินทางครับ ทั้งราบรื่น และมีอุปสรรคนะครับ

ครบเซ็ต เลย หน้าตาอิ่มสุข ทุกคน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท