เมื่อแก้ว พงษ์ประยูร ได้เหรียญเงินโอลิมปิกกลับมาจากการชกมวยโอลิปิก ที่ลอนดอนประเทศอังกฤษ มีชายคนหนึ่งหอบเงินสดๆ มาให้ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงสิบล้าน เป็นการตอบแทนที่แก้วให้ความสุขกับคนไทย ทำให้ธงไทยไปขึ้นยอดเสาโอลิมปิกได้ ให้เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีแก่ประเทศ แม้อีกมุมจะเป็นการเชื่อมโยงไปยังสินค้า ที่ใช้วิธีการให้คนจำได้ ก็ไม่เป็นไร นักการเมือง เศรษฐีใหญ่ ๆ ก็ทำอย่างนี้ไม่ได้ก็แล้วกัน
เป็นการให้ที่ได้กันทุกฝ่าย ยังสร้างแรงบันดาลใจ จูงใจให้นักกีฬาในอนาคตได้อีกมาก หากรักชอบกีฬา ฝึกซ้อมให้ดี มีวินัย ก็สามารถเลี้ยงตัวเลี้ยงตนได้ จากเงินรางวัลของการกีฬาแห่งประเทศไทย และเศรษฐีใหญ่ที่มองไกลมอบเงินรางวัลให้อีก ในฐานะคนไทยก็ต้องขอบคุณ ตัน ภาสกรณที หรือ อดีตเจ้าของชาเขียวกรีนที โออิชิ และปัจจุบันเป็นเจ้าของ ชาเขียว กรีนที อิชิตัน ที่มีประวัติชีวิตนักธุรกิจที่ต้องศึกษา จึงนำมาย้ำในความเป็นบุคคลตัวอย่าง
จากเว็บไซต์ข้างบนนี้ได้บอกเรื่องราวของตันอย่างน่าสนใจว่า
หลังขายหุ้น “โออิชิ” เกือบทั้งหมดให้กับ “ไทยเบฟเวอเรจ” และแยกตัวออกมาสร้างแบรนด์ “อิชิตัน” ของตัวเองใหม่อีกครั้ง แต่ก็พังจนได้กับมหาอุทกภัย โรงงานแห่งใหม่ที่จะผลิตชาเขียว อิชิตัน มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ถูกน้ำท่วมจนเละ ชนิดต้องซื้อเครื่องจักรใหม่ลูกเดียว
ทำไมเขายังมีธนาคารให้กู้ คิดเอาง่าย ๆ ว่าถ้าไม่ให้กู้ ธนาคารทั้งหลายที่เป็นเจ้าหนี้ 3500 ล้าน ก็จะไม่ได้อะไรกลับไปสักบาท และอีกอย่าง ธนาคารเขาเชื่อในสมองของชายคนนี้ เขาจึงยังให้กู้ต่อ นี่ผมลองคิดมองทางเอาเองนะครับ
ตัน วัย 52 จึงได้เดินเครื่อง ผลิตชาเขียว อิชิตันให้เราได้ซื้อมาดื่มกันได้แล้ว
ชื่อตัน แต่ทะลุปรุโปร่ง ไม่ได้ทำน้ำดื่มชาเขียวอย่างเดียว ทำอีกสะป๊ะอย่าง สะป๊ะเป็นภาษาเหนือแปลว่ามากหลากหลายอย่าง พูดแล้วได้อารมณ์ดี ตามที่เว็บไซต์ข้างต้นเขาบอกไว้ ธุรกิจส่วนใหญ่จะเป็นอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 4 ยี่ห้อ ได้แก่ ช็อกโกแลต Melt Me ,บะหมี่ราเม็งทีวีแชมเปี้ยน ,ภัตตาคารบุฟเฟ่ต์ อิชิตัน อิซาคาย่า และร้านสเต๊กโตคิยะ โดยได้โอนธุรกิจส่วนตัวเข้ามาอยู่ในบริษัทอิชิตัน กรุ๊ป
ธุรกิจอาหารของตัน เน้นสินค้านำเข้าที่มียี่ห้อดังจากต่างประเทศโดยร่วมทุนกับต่างประเทศ มีลูกค้าระดับบน หรือพวกที่กระเป๋าหนัก ซึ่งปัจจุบันคงจะเบาเพราะบัตรเครดิต เป็นกลุ่มเป้าหมาย
ตันบอกว่า
“ธุรกิจอาหารผมก็ยังขยายต่อเนื่อง แต่ผมจะไม่ให้มีสัดส่วนรายได้เกินกว่า 20% เพราะเราคงไม่มีเวลาพอที่จะไปติดตามได้ทั้งหมด จะขอเน้นไปที่ธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งเราจะทำเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ผลิตจำนวนมากไปเลย ซึ่งจะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 80% ของกลุ่ม”
นักธุรกิจอย่างตัน เป็นบุคคลไอดอลคนหนึ่งที่คิดว่าหลายคนฝันอยากเป็น ทุกคนมีสิทธิ์ฝันได้ แม่ไม่ได้ทั้งก็ให้นำแนวคิดของเขาไปดัดแปลงใช้ คิดได้เพิ่มเติมอีก สักวันก็อาจจะถึงฝัน ฝันไปได้สักส่วนแล้วพาลูกฝัน สักวันลูกหลานต่อยอดอีกก็จะสำเร็จ แม้ตัวตายก็ฝากลายไว้ให้แผ่นดินตามแนวคิดของตัน
“ตอนนี้ผมและภรรยาถือหุ้นในบริษัท 50% ที่เหลือผมจะกันไว้ให้กับพันธมิตรที่จะเข้ามาช่วยเราทำงานในอนาคตรวมถึง พนักงานทุกคนจะได้รับหุ้นของบริษัทด้วยเพื่อที่จะให้พวกเขารู้สึกถึงความ เป็นเจ้าของบริษัทจะได้ทำงานอย่างเต็มที่และผูกพันกับบริษัทจนกว่าจะไปถึง เป้าหมายซึ่งตัวเขาเองก็ได้ผลตอบแทนคืนกลับมาด้วย”
ความยั่งยืนของธุรกิจแนวใหม่ ข้างบนนี้ น่าจะเป็นที่สนใจ เพราะเป็นแนวคิดที่เข้าใจคน
ที่ผ่านมาคนที่ทำงานเป็นลูกจ้างบริษัท จะเปลี่ยนงานบ่อย เพราะเปลี่ยนทีเงินเดือนขึ้นที อย่างนี้เจ้าของกิจการก็ปวดหัว
ถ้าเจ้าของกิจการทำอย่างที่ตันคิดให้ลูกจ้างมาถือหุ้นด้วย ก็จะช่วยให้เกิดความเป็นเจ้าของที่ร่วมกันประคับประคองให้ธุรกิจยั่งยื่นได้ทางหนึ่ง
”หน้าที่ของผมตอนนี้คือการสร้างผู้บริหารรุ่นใหม่เพื่อที่จะสืบทอดตำแหน่ง”
เมื่อบริษัทมีกำไรแล้ว ตันบอกว่าจะนำเงินปันผลครึ่งหนึ่งส่งให้กับมูลนิธิตันปันและเมื่อวางมือแล้วก็จะนำ เงินปันผล 90% เข้ามูลนิธิ รวมถึงพนักงานทุกคนต้องเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิ หลังจากวางมือทางธุรกิจก็จะไปเป็นจิตอาสาเต็มตัว
น่ายกย่องสรรเสริญแนวคิดอย่างนี้ของตันไมหละละครับ รวยเต็มที่แล้วลงท้ายด้วยจิตอาสานี่ผมถือว่ายอดคน ยอดมนุษย์เลยเชียว
สนใจอีกโปรดอ่านฉบับเต็ม ๆ ในเว็บไซต์ข้างล่างนี้ ที่ผมนำมาขยายผลต่อนะครับ
คุณตัน...คิดฉลาดมากนะคะ...ให้ผู้ถิอหุ้น....เกิดความเป็นเจ้าของที่ร่วมกัน....ประคับประคอง....ให้ธุรกิจยั่งยื่นได้ทางหนึ่ง..เยี่ยมจริงๆๆนะคะ
ขอบคุฯมากค่ะ
ยกย่องและชมเชย .. นักธุรกิจที่ฉลาดและมีคุณธรรม ตัน