ไม่มีข่าวคือข่าวดี


เมื่อกี้ผมเกิดความรู้สึกว่าอยากรู้ข่าวสารบ้านเมืองไทย นิ้วมือก็กำลังจะกดเปิดเว็บข่าวขึ้นมาอ่าน แต่สติวิ่งเข้ามากระตุกนิ้วไว้ทันว่า "no news is good news" (ไม่มีข่าวคือข่าวดี) ซึ่งเป็นสุภาษิตสากลที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง ควรค่าแก่การปฎิบัติตาม

(แต่บริบทของสุภาษิตนี้ที่แท้จริงไม่ตรงกับที่ผมสื่อในบันทึกนี้ ที่ถูกต้องเป็นตามที่ อ.คนถางทางเขียนความเห็นไว้ด้านล่างนี้ครับ)

จริงๆ ข่าวในบ้านเมืองเราก็มีอยู่แน่นอนอยู่แล้ว แต่ "การไม่รู้ข่าวจะดีกว่าการรู้ข่าวที่รบกวนความสุขสงบของเรามากกว่า"

ผมเลิกอ่านข่าวของไทยมาได้นานแล้ว ปรากฎว่าความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นหลายเปอร์เซนต์ สำหรับข่าวต่างประเทศนั้นผมก็จะเลือกอ่านข่าวที่นำเสนอเรื่องราวที่มีความสุข ข่าวจากสื่อต่างประเทศนั้นมีให้เลือก นั่นเป็นข้อดีที่อินเทอร์เน็ตมีให้ผมได้

นานมาแล้วผมเคยพยายามทำ "เว็บข่าวดี" ของไทย (happynews.in.th) แต่ก็ไปได้ไม่ถึงไหน ได้แต่แอบอยู่ใน healthy.in.th (ซึ่งก็ไปไม่ถึงไหนอีกเช่นกัน) ปัญหาก็คือผมมีความรู้ด้านสื่อสารมวลชน และการบริหารจัดการคนไทยด้านสื่อสารมวลชนไม่เพียงพอที่จะทำได้ ดังนั้นผมรออ่านข่าวจากคนอื่นก็แล้วกัน

เมื่อไหร่ประเทศไทยมี "สื่อมวลชนข่าวดี" ที่เป็นตัวจริงที่ไม่แอบขายข่าวร้าย ถึงเวลานั้นผมค่อยอ่านข่าวไทยครับ

หมายเลขบันทึก: 499745เขียนเมื่อ 23 สิงหาคม 2012 11:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม 2012 14:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

เห็นด้วยครับ วันก่อนผมก็เปิดอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง หัวสีเขียว เปิดหน้าแรกเจอแต่ข่าวอุบัติเหตุ ฆ่ากันตาย ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นตัวชี้วัดได้อย่างดีของสภาพจิตใจของคนไทยในปัจจุบันว่าทำไมข่าวประเภทนี้ จึงขึ้นหน้า 1 ได้ทุกวัน แสดงว่าสุขภาพจิตของคนไทยเราเริ่มเสื่อมลงเรื่อย ๆ ไม่มีข่าวอะไรที่ประเทืองสมอง และเราก็มี choice ให้เลือกในการเสพข่าวน้อยมาก

ไม่มีข่าวคือ...ข่าวดี...เพราะ...การไม่รู้ข่าว....จะดีกว่าการรู้ข่าวที่รบกวนความสุขสงบของเรามากกว่า".... ถ้ามีข่าวไม่ดี...พลอยทุกข์ + วิตกกังวลไปด้วยนะคะ

 

เห็นด้วยอย่างมากค่ะ  ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ เช้าๆบางที่เสพข่าวมากๆก็พลอยให้ขุ่นข้องไปทั้งวัน ไปกินข้าวกลางวันเห็นหนังสือพิมพ์ลงแต่ข่าวสยดสยองจนกินข้าวแทบไม่ลง ปิดหู ปิดตาเสียบ้าง ก็ดีค่ะ

เห็นด้วยครับ ไม่มีข่าว คือ ข่าวดี แต่จะให้ดี "อย่า ตก ข่าว" ครับ

no news is good new ของฝรั่งนั้นอยู่ในบริบทที่ว่า เขากำลังรอฟังข่าวร้ายอยู่ พอไม่มีข่าว(ร้าย) มัีนก็เลยกลายเป็นข่าวดีโดยปริยาย

แต่สำหรับเมืองไทย คงต้องปรับว่า No reading news is good for your mental health. เพราะข่าวมันคุณภาพต่ำจริงๆ แม้ในสื่อระัดับดีๆ เช่น มติชน ก็เน่าพอกัน ผมเองก็แทนไม่อ่านเลย ยกเว้นอ่านเพื่อวิเคราะห์ทิศทางสังคม และวิเคราะห์ไอ้สื่อจอมงั่งพวกนี้

ที่สื่อมันงั่งเพราะอจ.มหาลัยที่สอนไอ้พวกทำสื่อมันก็งั่ง (อ้าว...ขว้างงูไม่พ้นคอ)

  • ผมเลือกอ่านครับ
  • แต่ข่าวไทยน่ากลัวมากกว่าประเทืองปัญญาครับ
  • เรื่องนี้น่าสนใจนะครับ
  • "เว็บข่าวดี" ของไทย (happynews.in.th)

จริงด้วยครับ ผมแปลบริบท no news is good news ผิดครับ ต้องเป็นอย่างที่ อ.คนถางทางว่า "no reading news is good for mental health" ครับ

ถ้าเราจะทำ happynews.in.th กันใหม่ คราวนี้ไม่ใช้วิธีจ้างนักข่าวเขียนแต่ช่วยกันเขียนไม่ทราบว่าสมาชิกสนใจไหมครับ

  • เคยคิดเหมือนอาจารย์นะครับ
  • แต่ตอนนี้ ผมใช้การเปิดข่าวไทยอ่าน เป็นการทดสอบสติตนเอง ว่า วันนี้จะจี๊ด จะฟู หรือเปล่า
  • ดีออก มีแบบฝึกหัดให้ทำทุกวัน จนถึงทุกวันนี้ยังสอบตกอยู่เลยครับ

 

  • สนใจเรื่อง happynews.in.th นะครับ
  • แต่ถึงกับต้องเขียนเองเลย คงไม่ไหว
  • ถ้าเป็น เห็นข่าวไหนดี ช่วยกัน link ไป อย่างที่ทำกันในอนุทิน ก็พอไหวนะครับ

 

ทำอย่าง อ.หมอเต็ม บอกไว้ ถ้าจะง่ายกว่านะคะ เพราะหาคนเขียนข่าวเป็นก็ยากเอาการอยู่

  • สนใจเรื่อง "เว็บข่าวดี" ของไทย (happynews.in.th)
  • ลองทำกันไหมครับ
  • เลือกข่าวดีๆก็ได้
  • เขียนเองก็ได้
  • ตอนนี้หมอเต็ม early เริ่มว่างงาน
  • เย้ๆๆๆ

อ่านแล้ว นึกถึง ข่าว เช้านี้

ได้เห็นคลิป "เขากลับมาแฉ" อีกแล้ว ค่ะ อาจารย์  อิอิ....^__^

เห็นด้วยกับเว็บข่าวดีค่ะ เราเขียนแบบของเรากันเองได้ไหมคะ ไม่ต้องแบบวิชาการสื่อสารมวลชน หรือไม่ก็ช่วยกันลิงค์เรื่องดีๆ แบบที่อ.หมอเต็มเสนอ มีเรื่องดีๆเยอะแยะที่น่าเล่ารอบๆตัวเรา เบื่อข่าวทดสอบสติ ทดสอบใจเต็มทีแล้วเหมือนกันค่ะ สอบตกตลอดเหมือนกัน แต่ก็ทนสอบทุกวันเพื่อหาทางคิดว่าจะทำยังไงดี...ในบริบทของเรา

มีสมาชิกสนใจหลายท่านอย่างนี้ เดี๋ยวพอ อ.จัน กลับมาจาก UKM พวกผมจะวางแผนพัฒนากันเลยนะครับ

เขียนแบบเราเขียนกันเองหรือทำเป็นลิงก์ก็ได้อยู่แล้วครับ ผมว่าเริ่มต้นในแนวคิดที่ว่าเราทำกันเองไว้ให้อ่านกันเอง โดยยินดีเปิดกว้างให้คนอื่นที่ผ่านมาอ่านด้วย ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องมีฟอร์มของสื่อมวลชนครับ

Aint wearing coloured glasses a kind of denial?

The world can look more beautiful when we filter out the unpleasant. (Like in London during the Olymics, the moved all "homeless" out to holliday in small rural hamlets, away from visitors' eyes.)

But would the world be any better? Only in our blided eyes?

I do think this is not really anything different from "building a mansion with high wall to close out the slums around" "when we step out of the enclosure, we will always see the truth".

Would it not be better to spend time and efforts in improving the world outside, so that we do not have to live in ivory tower but anywhere in the our world? Too difficult? Yes, it is! But the more difficult, the more challenging is it not?

I am a learner. As a learner I want the truth no matter how ugly it is. ;-)

เมื่อกี้ผมลองเปิดอ่านเว็บข่าวไทยดู (หลังจากไม่ได้อ่านมานาน) หมดเวลาไปพักใหญ่ แล้วก็จบลงด้วยจิตใจที่ขุ่นมัวไม่เป็นสุขครับ

กำลังค้นหาข่าวดีๆอ่านบ้าง เจอหัวข้อ  "ไม่มีข่าวคือข่าวดี" คลิกเข้ามาโดยไม่คิดเลยครับ และก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท