บทความของอาจารย์วิจารณ์ พานิช


คุณธรรมจริยธรรม ส่วนที่สำคัญอยู่ตรงรอยต่อระหว่างสิ่งที่ผิด กับสิ่งที่ถูกต้อง แต่ในชีวิตจริงมีสีเทาเต็มไปหมด

สรพ. ปรับปรุงระเบียบว่าด้วยจริยธรรมและแนวปฏิบัติที่ดีของคณะกรรมการและผู้ปฏิบัติงาน ของสถาบัน ส่งมาให้ผมลงนาม   ทำให้เกิดแนวความคิดว่า มีระเบียบยังไม่เพียงพอ ต้องมีการจัดการเพื่อเอาระเบียบนั้นไปใช้ประโยชน์ด้วย   ถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความเสี่ยงด้านชื่อเสียงของสถาบัน   หรือจัดการความเสี่ยงด้านคุณธรรมจริยธรรม

 

          เรื่องคุณธรรมจริยธรรมนั้น สังคมไทยมักหลีกเลี่ยง ไม่หยิบยกมาพูดทำความเข้าใจกันอย่างเปิดเผย   คล้ายๆ กับว่าการหยิบยกขึ้นมาสะท้อนความไม่ไว้วางใจกัน   แนวคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้อง   เป็นการทำงานแบบตั้งอยู่ในความประมาท   หรือมีความเชื่อผิดๆ ว่า เรื่องคุณธรรมจริยธรรมเป็นเรื่องความรู้ผิดชอบชั่วดีภายในแต่ละคน

 

          ความคิดเช่นนั้นเป็นความประมาท  รวมทั้งไม่เข้าใจความซับซ้อนของสังคมปัจจุบัน และความซับซ้อนของแต่ละกิจการงานที่หน่วยงานนั้นรับผิดชอบ

 

          เรื่องคุณธรรมจริยธรรม ส่วนที่สำคัญอยู่ตรงรอยต่อระหว่างสิ่งที่ผิดชัดๆ (ดำ)  กับสิ่งที่ถูกต้องดีงาม (ขาว)   แต่ในชีวิตจริง มีสีเทาเต็มไปหมด   แล้วแต่ใครจะตีความว่าเป็นสีเทาแก่ (ตีเข้ากลุ่มดำ)  หรือเป็นสีเทาอ่อน (ตีเข้ากลุ่มขาว)

 

          ผมจึงขอเสนอว่า บอร์ด (คณะกรรมการกำกับดูแล) ขององค์กร ต้องไม่ใช่แต่ออกข้อบังคับหรือระเบียบว่าด้วยจริยธรรมและแนวปฏิบัติที่ดีเท่านั้น   ต้องกำหนดให้ฝ่ายบริหารเอาข้อบังคับไปหารือกับผู้ปฏิบัติงาน   ว่าในทางปฏิบัติมีประเด็นใดบ้างที่ล่อแหลมหรือเป็นสีเทาแก่    ที่จะต้องระมัดระวังในทางปฏิบัติ   แล้วนำมาเสนอ บอร์ด ในเชิงวาระการปฏิบัติตามนโยบายด้านจริยธรรม อย่างน้อยปีละครั้ง    ถือว่าเป็นการดำเนินการจัดการความเสี่ยง ด้านความน่าเชื่อถือ หรือด้านชื่อเสียง (reputation risk management) รวมทั้งเป็นการสร้างความเข้มแข็งด้านการกำกับดูแลด้วย

 

          ฝ่ายบริหาร อาจดำเนินการจัดการเรียนรู้ (ด้านจริยธรรม) โดยการหยิบยกประเด็นที่ล่อแหลม ในลักษณะ Case-Based Learning session   ให้ผู้ปฏิบัติงานนำเสนอกรณีศึกษา    ตามด้วยการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกัน   โดยร่วมกันทำความเข้าใจว่า เมื่อไร หรือมีปัจจัยอะไร ที่เป็นตัวเตือนว่าสีเทามันแก่มาก ควรจะจัดเข้ากลุ่มสีดำได้แล้ว

 

 

 

วิจารณ์ พานิช

๒๕ ก.ค. ๕๕

หมายเลขบันทึก: 498942เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2012 08:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม 2012 10:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่านจบแล้วคงต้องออกตามหาจริยธรรมที่แท้จริง..ผมเคยทำงานบริษัทมาก่อนและเข้าใจเว่าถ้าบริทไหนมีจริยธรรม คุณธรรมมาก พนักงานมักจะเหลิง ไม่มีระเบียบวินัยเท่าที่ควร พอเขาเข้มงวดพนักงานก็อยู่ไม่ได้เพราะหลายคนไม่สามารถปฏิบัติตามกฏระเบียบได้..บริษัทที่มีแต่จริยธรรมมักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจเท่าที่ควร..

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

ขอบคุณ คุณ โตนี ฟาง ที่กรุณาแสดงความคิดเห็น ผมเห็นด้วยกับความเห็นของคุณ ฟาง ในประโยคสุดท้าย ที่ว่า "บริษัทที่มีแต่จริยธรรมมักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจเท่าที่ควร" บริษัทจะประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจ ผู้บริหารต้องเป็นมืออาชีพ มีการบริหารจัดการที่ดี และหนึ่งในนั้นคือผู้บริหารต้องมีจริยธรรม จึงจะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจอย่างยั่งยืน ส่วนข้อความตอนต้น ผมเห็นว่าเป็นคนละส่วน "บริษัทที่คำนึงถึงเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมมาก ทำให้พนักงานเหลิง ไม่มีระเบียบวินัยเท่าที่ควร  พอเข้มงวดพนักงานก็อยู่ไม่ได้ " ที่เกิดขึ้นนี้เป็นส่วนของการบริหารจัดการ การที่บริษัทมีคุณธรรมและจริยธรรมมาก ไม่ได้แปลว่าการบริหารงานต้องอ่อนแอ ไม่เข้มงวด จนทำให้พนักงานขาดระเบียบวินัย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท