จากเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครอบครัวเข้มแข็งที่ค่ายลูกเสือพัทลุง เมื่อวันที่ 7 - 8 กันยายนที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้พบผู้ทรงภูมิปัญญาตัวจริงเสียงจริงท่านหนึ่ง ได้ยินชื่อเสียงมานานไม่เคยเจอกัน ในเวทีมีโอกาสได้นั่งใกล้ก็คุยกันถึงได้รู้ว่า ท่านคือหมอหวานบ้านหลาแม็ง ศูนย์ถ่ายทอดภูมิปัญญาบ้านหลาแม็ง ของอำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง หรือคุณหร่อหวาน วัชรจิรโสภณ มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้สมุนไพรพื้นบ้าน ภูมิปัญญาการเกษตรและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตัวยง
คนมันถูกคอกัน คุยสักพัก ว่างเว้นจากเวทีมานั่งคุยสบายๆ คุยไปคุยมาไปออกเรื่องแตแรก(อดีต) ท่านเล่าว่าคนในสมัยก่อนเขาฝากนม ส่งนมกันมันถึงรักกันไม่ทะเลาะกันช่วยเหลือ ผมงงใหญ่เลย ...!! บอกให้ท่านช่วยขยายความหน่อย
ส่งนมก็คือเวลาแม่ไปทำนาหรือไร่จะพักเที่ยงขึ้นจากนามาให้ลูกกินนมและทานอาหารเที่ยงเสร็จ บ่ายๆก็ไปทำนาต่อ
ฝากนมก็คือแม่จะนำลูกไปฝากเพื่อนบ้านที่มีลูกกำลังกินนมอยู่ ให้เลี้ยงดูกินนม ป้อนน้ำป้อนข้าวยามที่แม่ต้องไปทำนาตั้งแต่เช้า เสร็จนาตอนเย็นก็มารับลูกกลับ ถ้าเป็นบ้านป่าบ้านไร่ แม่ก็ต้องไป น่ำข้าวในไร่ (วิธีปลูกข้าวใช้ปลูกในที่สูงบริเวณควนบริเวณลาดเขา) ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าไว้ว่า กลัวลิงนาคบุตรลงมาลักลูก ก็เลยเอาลูกไปฝากเลี้ยงฝากนม เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แบ่งปันความอบอุ่น สานสายใยความสัมพันธ์ในหมู่บ้านชุมชนอย่างแนบแน่น สองบ้านสามบ้านหรือทั้งหมู่บ้านช่วยกันดูแลอย่างเอื้ออาทร ความสุขโดยรวมก็เกิดขึ้น หากมีเรื่องขัดแย้งกันบ้างก็จัดการได้ง่ายเพราะต่างก็กินนมมาจากอกแม่คนเดียวกัน
หมอหวานเล่าต่อว่า เดี๋ยวนี้เขาก็ยังส่งเหมือนก่อน แต่ส่งกับรถมอเตอร์ไซด์ ส่งกับรถกระบะ ส่งกับรถสิบล้อห้องเย็น.......ส่งอะไร.....? ส่งนมวัว เด็กปัจจุบันเลยดื้อเหมือนวัว สอนไม่จำ ชอบมอเตอร์ไซด์ ชอบรถกระบะ ชอบรถสิบล้อ ฯ ฮา