ตอนที่ ๘


พ่อดี : ลึก ๆ แล้วเชื่อกันว่าความต้องการให้ชาวยิวไปอยู่ที่นั่น ก็เพื่อเป็นเสมือนกันชนไม่ให้ชาวอาหรับลุกฮือ ซึ่งก็เข้าทางผลประโยชน์ของหมู่บ้านอินทรี และหมู่บ้านสิงโต และที่สำคัญยังเป็นการเอาชาวยิวออกจากหมู่บ้านของตนเองด้วย เนื่องจากมีปัญหาเหมือนกันทุกหมู่บ้านที่มีชาวยิวอยู่ แต่สิ่งที่อยุติธรรมที่สุด คือ ไม่มีการถามชาวอาหรับเลย

ลูกชาย : จึงมีปัญหาตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

พ่อดี : ใช่ลูก ขบวนการไซออนนิสม์มีบทบาทสูงมากหลังจากการสถาปนาหมู่บ้านยิวขึ้นมา และก็มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจแทบจะทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นวงการธนาคาร ตลาดหุ้น อุตสาหกรรม การเมือง สื่อมวลชน และรวมถึงวงการบันเทิง จึงทำให้ข่าวสารส่วนใหญ่ทั้งทางตรงและทางอ้อมออกมาในเชิงบวกแก่ชาวยิวและหมู่บ้านอินทรี ทำให้ชาวอาหรับเป็นผู้ร้ายตลอดกาล (โดยมีคนกล่าวไว้ว่า ถ้าหากดูภาพยนตร์จากฮอลลีวูดจะเห็นได้ว่า ชาวอาหรับจะถูกจัดฉากให้เป็นผู้ก่อการร้ายเสมอ) ซึ่งเป็นการสร้างความชอบธรรมด้านสื่อโฆษณาอย่างแยบยลที่สุด

ลูกชาย : เปรียบเสมือนกับเป็นความชอบธรรมที่ไม่ชอบธรรมที่พ่อเคยบอกไว้หรือเปล่าครับ

พ่อดี : ใช่แล้วลูก

ลูกชาย : แล้วชาวยิวที่มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ มีใครบ้างครับพ่อ

พ่อดี : ชาวยิวที่มีบทบาทบนเวทีของนานาหมู่บ้านภาพลักษณ์แต่ละคนล้วนดูดีทั้งนั้น เช่น

            อลัน  กรีนสแปน อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งหมู่บ้านอินทรี (ถือได้ว่าเป็นสาวกของสำนักคลาสสิก) ซึ่งเคยครองตำแหน่งสำคัญทางด้านการเงินและยังมีอิทธิพลในการกำหนดและวางเมนูนโยบายทางเศรษฐกิจของหมู่บ้านอินทรี รวมถึงนานาหมู่บ้าน ถึงกับมีการพูดในวงการตลาดเงินและตลาดทุนของนานาหมู่บ้านว่า แม้แต่กรีนสแปนจามก็ยังต้องฟัง

             พอล ครุกแมน  เป็นนักเศรษฐศาสตร์หนุ่มที่เด่นมาก โดยเฉพาะผลงานชิ้นโบว์แดงในการทำนายวิกฤติเศรษฐกิจของหมู่บ้านภูมิภาคเอเชียเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ จนได้รับสมญานามจากสื่อมวลชนว่า นอสตราดามุสแห่งโลกเศรษฐศาสตร์ เป็นเจ้าของรางวัล John Clark Medal ซึ่งถือได้ว่าเป็นรางวัลสำหรับนักเศรษฐศาสตร์ของหมู่บ้านอินทรี ที่ทรงคุณค่าที่สุด (ผู้ที่ได้ต้องมีอายุต่ำกว่า ๔๐ ปี)

             จอร์จ  โซรอส เจ้าของฉายา พ่อมดทางการเงิน เป็นคนฮังการีเชื้อสายยิว เกิดที่ฮังการีเมื่อปี ๒๔๗๓ จากนั้นในปี ๒๔๙๐ ย้ายไปเรียนที่หมู่บ้านสิงโตในด้านวิชาเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน สคูล ออฟ อีโคโนมิกส์  เป็นเจ้าของเฮดส์ฟัน (Hedge Funde) ที่แสวงหาผลกำไรในตลาดการเงินและตลาดทุนจากนานาหมู่บ้าน ผลงานชิ้นโบว์แดงคือ การโจมตีค่าเงินของหมู่บ้านสิงโตและที่หมู่บ้านเราคุ้นชื่อมากขึ้นคือการโจมตีค่าเงินบาทของหมู่บ้านช้างของเราในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ นั่นเอง

            ไมเคิล ไอสเนอร์ เจ้าของกิจาการวอลท์ ดิสนีย์ (โดยซื้อกิจการมาจากนายวอลท์ ดิสนีย์ ซึ่งเป็นชาวหมู่บ้านอินทรี ที่เกลียดยิวเข้ากระดูกดำ ภาพยนต์ที่สมัยนายวอลท์ ดิสนีย์บริหาร มีแต่การ์ตูนดี ๆ ที่สร้างจินตนาการให้เยาวชนอย่างเช่น สโนไวท์กับเจ้าหนูมิกกี้) นอกจากนี้ยังกิจการอีกหลายอย่างรวมถึงเป็นเจ้าของเคเบิลทีวีที่มีสมาชิกอีกกว่า 14 ล้านคน เน้นการขยายกิจการไปสู่ความบันเทิงและเรื่องของความรุนแรง ภาพยนต์ฮอลลีวูด ที่อำนวยการสร้างโดยชาวยิว แสดงโดยชาวยิว (ที่เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม เพื่อใช้ในการแสดง) นอกจากโกยรายได้เข้ากระเป๋าแล้ว ยังได้ปฏิบัติการแยบยลอย่างที่พ่อบอกไว้ ให้ภาพพจน์ของหมู่บ้านอินทรีดูดี และดูหมิ่นดูแคลนมนุษย์เผ่าพันธุ์อื่น ๆ คือ พันธ์เอเชีย พันธ์แอฟริกา โดยเฉพาะชาวอาหรับจะถูกโฆษณาชวนเชื่อสร้างให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายเสมอ

            สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงของฮอลลีวูด เติบโดมากับบรรยากาศที่คนในครอบครัวชอบพูดถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวเสมอ จะเลือกสร้างภาพยนตร์ที่ให้คนนานาหมู่บ้านเห็นใจยิว ดารานักแสดงส่วนใหญ่ก็เป็นชาวยิวแทบทั้งสิ้น  อย่างภาพยนตร์เรื่อง Schindler’s list ที่ได้รับรางวัลเยอะแยะ เป็นหนังที่ใครดูแล้วต้องสงสารชาวยิวที่ถูกพวกนาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสมัยสงครามมหาหมู่บ้านครั้งที่ ๒ อาจจะกล่าวได้ว่ามนุษย์หลายพันล้านตกอยู่ใต้อาณานิคมทางวัฒนธรรมของฮอลลีวูด ซึ่งวัฒนธรรมฮอลลีวูด ก็คือ วัฒนธรรมของหมู่บ้านอินทรี นั่นเอง

            เจอรัลด์ เลวิน เจ้าของกลุ่ม ไทม์ วอร์เนอร์ (สืบทอดต่อจาก สตีเฟน รอสส์ ซึ่งเป็นบุคคลที่รวมวอร์เนอร์ บราเวอร์ กับ ไทม์ นี่ก็เป็นชาวยิวเหมือนกัน) ผลงานชิ้นโบว์แดงคือ ทำให้เบอร์หนึ่งของซีเอ็นเอ็นอย่าง เทด เทอร์เนอร์  ยอมรวมกิจการกับ ไทม์ วอร์เนอร์ และยอมเป็นเบอร์สองรองจาก เจอรัลด์ เลวิน เท่ากับอิทธิของอำนาจสื่อก็ตกอยู่ใต้อาณัติของชาวยิว

           คาร์ล มาร์กซ์  ผู้นำแห่งลัทธิมาร์กซ์  เกิดในครอบครัวชาวยิวหัวก้าวหน้าในเมืองเทรียร์แคว้นปรัสเซีย (ซึ่งปัจจุบันอยู่ในหมู่บ้านเบียร์) พ่อของเขา เฮอร์เชล ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลที่เป็นราไบ ทำอาชีพทนาย ชื่อสกุลเดิมของมาร์กซคือ "มาร์กซ์ เลวี" ซึ่งแปลงมาจากชื่อสกุลยิวเก่าว่า มาร์โดไค ในปี ค.ศ. ๑๘๑๗ พ่อของมาร์กซ์ได้เปลี่ยนศาสนาเป็นศาสนาคริสต์นิกายลูเธอร์ซึ่งเป็นศาสนาประจำรัฐปรัสเซีย เพื่อรักษาอาชีพทนายเอาไว้ ครอบครัวมาร์กซเป็นครอบครัวเสรีนิยม และได้รับรองแขกที่เป็นนักวิชาการและศิลปินหลายคนในสมัยที่มาร์กซยังเป็นเด็ก มาร์กซนั้นมีชีวิตอยู่ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม และเห็นผู้คนที่ได้รับผลกระทบทางด้านลบของการเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลเนื่องมาจากการเฟื่องฟูของของนายทุนการค้า ทำให้กรรมกรถูกขูดรีดแรงงานอย่างหนักและอยู่ในสภาพยากจนเช่นเดียวกับชาวนาที่สูญเสียที่ทำกินก็กลายมาเป็นกรรมกรที่ถูกขูดรีดจากนายทุน โดยเขามองว่าในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้คนงานต้องสูญเสียศักดิ์ศรีและเสรีภาพ ซึ่งมาร์กซได้อธิบายความตกต่ำของมนุษย์จากวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์ในแบบของรุสโซ แต่อธิบายได้ชัดเจนกว่าโดยมีนัยสำคัญคือ มนุษย์แต่เดิมนั้นอาศัยอยู่ในสังคมของชุมชนหรือคอมมิวนิสต์แบบดั้งเดิม ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันไม่มีชนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจ มีทรัพย์สินที่เป็นของส่วนรวมและมีการแบ่งปันกันใช้ ความขัดแย้งระหว่างชนชั้นไม่มี มนุษย์จึงอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมากกว่า (ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม) แต่มนุษย์ไม่สามารถขัดขืนโอกาสในการแสวงหาความรู้ทางเทคนิค มีผลทำให้เศรษฐกิจขยายตัวและมีการจัดระเบียบสังคมขึ้นมาใหม่ และเมื่อมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็เกิดส่วนเกินทางเศรษฐกิจ (Economic Surplus) การที่มีผลผลิตส่วนเกินเกินความจำเป็นที่มีอยู่ ทำให้เกิดความขัดแย้งจากการกระจายผลผลิต (distribution) และการควบคุม (control) ผลผลิตส่วนเกิน สร้างความแตกแยกอย่างรุนแรงในหมู่มนุษย์ด้วยกันเอง จนกลายเป็นการต่อสู้ทางชนชั้น (class struggle) เป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของมนุษย์หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นการตกต่ำของมนุษย์ (the full of man) ซึ่งมีผลทำให้เกิดวิวัฒนาการมาเป็นสังคมทาสและสังคมศักดินา และพัฒนามาสู่ทุนนิยมในที่สุด การที่มีกฎทางเศรษฐกิจในประวัติศาสตร์ดังกล่าว (economic laws of history) ทำให้มนุษย์เกิดความแปลกแยกจากธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์เอง และสร้างความเจ็บปวดให้แก่มนุษย์ในที่สุด

          ซิกมันด์ ฟรอยด์   เกิดเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๑๘๕๖ ฟรอยด์ชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เขาฉลาดและสอบได้ที่ 1 ทุกครั้ง และเมื่ออายุ ๑๗ ปี ได้เข้าศึกษาต่อวิชาแพทย์ศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งกรุงเวียนนา ที่สำคัญได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งจิตวิทยา ฟรอยด์เป็นทั้งแพทย์และนักจิตวิทยา เป็นผู้บุกเบิกการศึกษาทางด้านจิตวิทยา ทฤษฎีต่าง ๆ ของเขาที่ค้นพบยังคงนำมาใช้รักษาโรคทางจิตอยู่ทุกวันนี้ เช่น ทฤษฎีบุคลิกภาพแบบจิตวิเคราะห์ ซึ่งกล่าวว่า พลังจิตใต้สำนึกมีผลต่อพฤติกรรมของแต่ละบุคคล และจำแนกบุคคลให้แตกต่างกัน ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์เชื่อว่าจิตประกอบไปด้วยพลังจิต ๓ ส่วนคือ

               - อิด (Id) เป็นแรงขับให้เกิดความต้องการ เช่น ความหิว ความรัก เป็นต้น

               - อีโก้ (Ego) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ตัดสินใจ

               - ซูเปอร์อีโก้ (Super Ego) เป็นส่วนที่ได้รับการอบรมแล้ว รู้จักควบคุมอารมณ์และความรู้สึก

         โดยแนวคิดของฟรอยด์นั้นมุ่งประเด็นไปที่ศึกษาการทำงานของสภาพจิตมนุษย์เป็นสำคัญ โดยในทุกกรณีเขายอมรับว่าข้อจำกัดของอารยธรรมว่าเป็นสิ่งที่กำหนดให้  เป็นกติกาเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ในสังคมไม่ให้เกิดสภาพความขัดแย้งอย่างรุนแรง ดังนั้นปัญหาทางด้านจิตใจจึงจำเป็นต้องปรับเข้ากับความเป็นจริงที่ยากจะปฏิเสธในทางสังคม อย่างไรก็ตามจะต้องตระหนักว่าในแต่ละสังคมประกอบด้วยอารยธรรมที่ต่างกันในการจัดการกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ บางสังคมประสบความสำเร็จมากกว่า นั่นก็คือทำให้เกิดความสงบสุขในสังคมได้มากกว่า ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาในสังคม แทนที่ปัจเจกชนจะต้องยอมรับเงื่อนไขทางสังคมที่บีบคั้นโดยดุษณีภาพตลอดเวลา ถ้าหากกฎเกณฑ์เหล่านั้นเป็นกฎเกณฑ์ที่ไม่ดีพอโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมที่มีกฎกติกาที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล ควรที่จะมีการตรวจสอบกติกาเหล่านั้นและปรับเปลี่ยนเสียใหม่ ทั้งนี้เนื่องจากหลายกฎกติกานี้สร้างขึ้นมาจาก ความละอาย จิตสำนึก และสำนึกใฝ่ดี ผลก็คือ ทำให้จำเป็นจะต้องมีต้นทุนในรูปของการสูญเสียความสุขไปอย่างมหาศาลในการสร้างความเจริญก้าวหน้าของอารยธรรมในสังคม และฟรอยด์ยังให้เหตุผลตามหลักจิตวิทยาที่เป็นวิทยาศาสตร์ในเรื่องของพลังทางเพศไว้คือ “ความรักนั้น มีเป้าหมายที่สำคัญและเป็นหน้าที่หลักตามธรรมชาติ นั่นก็คือการคงอยู่ของเผ่าพันธุ์” ในการสืบทอดเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ให้คงอยู่ ฟรอยด์กล่าวว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์แต่ละคน ที่ความรักจากเพศสัมพันธ์จะให้ประสบการณ์ของความพึงพอใจสูงสุด และเป็นตัวแบบของความสุขอื่น ๆ ที่จะพึงหามาได้ เป็นความจำเป็นที่ทุกคนจะแสวงหาความพึงพอใจจากความสุขในชีวิตที่ได้จากการมีเพศสัมพันธ์ และควรที่จะทำให้ความตื่นเต้นที่ได้รับทางเพศเป็นศูนย์กลางในชีวิต     

         อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เกิดเมื่อ ๑๔ มีนาคม ๑๘๗๙ บิดาของไอน์สไตน์เป็นชาวยิว มีการกล่าวกันว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้ไอน์สไตน์สนใจวิทยาศาสตร์อย่างมากคือเข็มทิศ ในขณะนั้นเขามีอายุได้ ๕ ปี และกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง บิดาได้นำเข็มทิศมาให้เล่น เขาใส่ใจและสนใจอยากรู้ว่าทำไมเข็มทิศจึงชี้ไปที่ทิศเหนือ และตั้งแต่นั้นมาเขาก็เริ่มสนใจทางด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ และถือได้ว่าเป็นนักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เจ้าของทฤษฎีที่มีชื่อเสียงคือ ทฤษฎีสัมพัทธภาพ (Theory of Relativity) พร้อมทั้งได้วางรากฐานวิชากลศาสตร์ควอนตัม (Quantum Mechanics) ในศตวรรษที่ ๒๐ ด้วย โดยชี้ให้เห็นว่ากฎธรรมชาติสามารถค้นพบได้โดยความคิดในทางคณิตศาสตร์ที่ง่าย เนื่องจากหลักความคิดในการสร้างสรรค์มีอยู่แล้วในวิชาคณิตศาสตร์ หลังจากนั้นการศึกษาปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงจะนำมาประเมินประโยชน์ทางกายภาพที่สร้างขึ้นด้วยความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์

           นอสตราดามุส เป็นชาวหมู่บ้านไก่เชื้อสายยิว เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๑๕๐๓ นอสตราดามุสเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ เพราะสนิทกับคุณปู่และคุณตาที่เป็นถึงแพทย์หลวง เขาจึงมีความรอบรู้ในหลักวิชาหลายแขนง เช่น วรรณคดีคลาสสิก ประวัติศาสตร์ การแพทย์ สมุนไพร เป็นต้น เขาเป็นแพทย์ปริญญา เภสัชกร นักสมุนไพร นักโภชนาการ นักคิดนักปฏิรูป นักดาราศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์ โดยนอสตราดามุส จบแพทย์จากมหาวิทยาลัยมองต์เปลิเยต์ แต่ผู้คนจะรู้จักนอสตราดามุสในฐานะนักพยากรณ์เอกของนานาหมู่บ้านมากกว่า โดยคำพยากรณ์ของนอสตราดามุสที่ถูกต้องและเป็นที่เลื่องลือชื่อมากคือ เขาเห็นบาทหลวงฟรานซิส ที่พบกันโดยบังเอิญ และพยากรณ์ว่าบาทหลวงผู้นี้จะเป็นองค์สันตปาปาในอนาคต ซึ่งตอนนั้นคนอื่น ๆ ต่างหัวเราะ เนื่องจากบาทหลวงผู้นี้ไม่โดดเด่นเลย พื้นเพยังเป็นคนต่ำต้อยอีกด้วย นอกจากนี้คำพยากรณ์ที่ว่าพระเจ้าอังรีที่ ๒ จะสวรรคตด้วยการประมือกับคนหนุ่ม ก็เป็นจริง ภายหลังพระเจ้าอังรีที่ ๒ สวรรคตระหว่างการประลองยุทธ์กับนักรบหนุ่มในกองทหารสก๊อตรักษาพระองค์ ส่วนเหตุการณ์ยุคหลัง ๆ ที่ตรงได้แก่ การลอบสังหารประธานาธิบดีเคเนดี้ และโรเบิร์ต เคเนดี้ การระเบิดของยานอวกาศชาเลนเจอร์ สงครามอ่าวเปอร์เซีย เป็นต้น ซึ่งเขาทำนายไว้ถึงปี ๒๐๐๐   

             นอกจากนี้ชาวยิวคนอื่น ๆ ก็มี เฮนรี่ คิสซิงเจอร์, แมดาลีน อัลไบรท์, มาลิรีน มอนโร, ดัสติน ฮอฟฟ์แมน, พอล นิวแมน, เคิร์ก ดักลาส, แฮริสันฟอร์ด, บรูซ วิลลิส, ริ-ชาร์ด เกียร์ และอีกมากมาย

ลูกชาย : ชาวยิวเข้าไปมีบทบาทครอบคลุมทุกวงการเลยนะครับพ่อ แต่ผมว่าถึงอย่างไรในช่วงระหว่างสงครามมหาหมู่บ้านครั้งที่ ๒ ถ้าไม่มีชาวยิวที่ชื่อ ไอน์สไตน์ ผมว่าลัทธิฟาสซิสต์ของ ฮิตเลอร์ อาจจะทำสงครามเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ไปอีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

 

********************************************************************************************************************

 

คำสำคัญ (Tags): #พ่อ#ลูกชาย
หมายเลขบันทึก: 498586เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2012 12:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม 2012 19:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะคุณพ่อ..แสนดี

..บทสนทนาพ่อ-ลูก ทำให้ไ้ด้ร่วมรับฟังเรื่องราวของอภิมหาหมู่บ้านต่างๆ ขอบคุณค่ะ :-)) บุคลที่มีชือเสียงในหลายวงการ ทั้งในหมู่บ้านอินทรี ไก่ เบียร์ หรือ เวียนนา ที่พ่อยกตัวอย่าง ที่เราได้อ่านไ้ด้เรียนรู้กันมา โดยส่วนตัว บังเอิญตกเป็นเหยื่อของวัฒนธรรมหมู่บ้านอินทรีด้วยซิค่ะ จากการดูหนังฮอลลีวูด เรื่อง Schindler’s list ผู้กำกับสายเืลือดยิว ..สตีเวน สปีลเบิร์ก. อืมม์...ถึงแม้จะหนักแต่ชอบและดูหลายครั้งเสียด้วยซิ... น่าเห็นใจชาวยิว... ความสงสารเกิดขึ้นมากมาย. จากสงครามมหาหมู่บ้านครั้งที่ 2

หมู่บ้านสิงโต ก็ได้มีภาพลักษณ์ของชาวยิวผ่านทางวรรณกรรม...นักเขียน กวีเอก "เชคสเปียร์" เขียนไว้ในเรื่องThe Merchant of Venice ตัวละครเด่น พ่อค้าชาวยิวในเมืองเวนิส " ไซล๊อค" ก็ดูจะเป็นภาพของ พ่อค้าหน้าเลือด ต้องเชือดเนื้อชำระหนี้..(ดอกเบี้ย). . สะท้อน..ความเป็นพ่อค้า อดออม & ตระหนี่..เป็นนิสัยของชาวยิวทีรู้จักกันไม่น้อยเลยทีเดียว :-))

ขอบคุณมากครับ อาจารย์ kwancha ที่แวะมาให้กำลังใจและให้ความคิดเห็นที่มีคุณค่าและเปี่ยมประโยชน์อยู่เสมอครับ

                       ขอบคุณมากครับ

การหล่อหลอมในช่วงวัยเด็กมีความสำคัญมากนะคะ เป็นเหตุ เป็นปัจจัยของการมีบุคคลชื่อเสียงในด้านต่าง ๆ และทั้งสร้างคุณูปการแก่โลก สังคม หรือไม่ก็ทำลายได้เช่นกัน

 

สรุปเนื้อหาและให้ที่มาที่ไปร้อยเรียงกันได้เชื่อมโยงเป็นอย่างดี ขอบคุณมากเลยค่ะ งานเขียนลักษณะนี้ไม่ง่ายเลยค่ะ

ขอบพระคุณ อาจารย์ Sila Phu - Chaya มากครับ ที่แวะเข้ามาให้กำลังใจอยู่เสมอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท