๕ สมุนไพรที่ช่วยขับประจำเดือน มีอะไรบ้าง
๑. เจลมูลเพลิงขาว
ลักษณะ
- เป็นไม้พุ่ม ลำต้นตั้งตรงหรือพาดพันบนต้นไม้อื่นๆ
- ใบเดี่ยวสลับกัน รูปไข่แกมขนานหรือรูปขอบขนาน กว้าง 2-5 เซนติเมตร ยาว 3-9 เซนติเมตร สีเขียวแกมเหลือง
- ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยหลายดอก กลีบดอกสีขาว เกสรตัวผู้สีม่วงน้ำเงิน กลีบเลี้ยงมีต่อมน้ำหวานติดมือ
- ผลแห้ง รูปขอบขนาน แตกได้เป็น 5 ปาก มีร่องตามยาว
ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาและสรรพคุณ
- ลำต้น, ราก : มีรสร้อน ใช้แทนรากเจตมูลเพลิงแดงได้ มีสรรพคุณขับประจำเดือน ขับลมในกระเพาะ และลำไส้ ขับประจำเดือน แก้ริดสีดวงทวาร เข้ายาบำรุงธาติ บำรุงโลหิต สารสกัดจากรากมีฤทธิ์บีบมดลูก และมีฤทธิ์ต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และเชื้อรา สาร plumbagin ที่แยกได้จากรากมีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็ง ลดไขมันในเลือด และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
๒. เจตมูลเพลิงแดง
ลักษณะ
- ไม้พุ่ม สูง 0.8-1.5 เมตร ลำต้นกลมเรียบ มีสีแดงบริเวณข้อ
- ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่แกมวงรี กว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 6-10 เซนติเมตร
- ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงมีต่อม ซึ่งเมื่อจับจะรู้สึกเหนียว กลีบดอกสีแดง
- ผลแห้ง แตกได้
ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาและสรรพคุณ
- รากแห้ง : ใช้ขับประจำเดือน กระจายลม บำรุงธาตุ รักษาโรคริดสีดวงทวาร พบว่ามีสาร plumbagin ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของมดลูก และลำไส้ ช่วยให้มีการหลั่งน้ำย่อยเพิ่มขึ้น เพิ่มความอยากอาหาร แต่ควรระวังในการใช้ เนื่องจาก plumbagin ระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร และอาจเป็นพิษได้
๓. กระบือเจ็ดตัว
ลักษณะ
- ไม้พุ่ม สูง 0.5-1.5 เมตร
- ใบเดี่ยว เรียงสลับเวียนรอบกิ่ง รูปใบหอก หรือรูปใบหอกแกมรูปไข่ กว้าง 2-4.5 เซนติเมตร ยาว 4-13 เซนติเมตร หลังใบสีเขียว ท้องใบสีแดง
- ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่ง แยกเพศ ช่อดอกตัวผู้มีดอกย่อยจำนวนมาก ช่อดอกตัวเมีย มีเพียง 2-3 ดอก
- ผลแห้ง แตกได้ มี 3 พู
ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาและสรรพคุณ
- ใบ : ใช้ใบตำกับเหล้าคั้นน้ำ กินเป็นยาขับเลือด และน้ำคาวปลาหลังคลอด การทดลองในสัตว์ พบว่า สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์มีฤทธิ์บีบมดลูก
๔. ยอ
ลักษณะ
- ไม้พุ่ม สูง 2-6 เมตร
- ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปวงรี กว้าง 8-15 เซนติเมตร ยาว 10-20 เซนติเมตร หูใบอยู่ระหว่างโคนก้านใบ
- ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ ฐานดอกอัดกันแน่น เป็นรูปทรงกลม กลีบดอกสีขาว
- ผลเป็นผลสด เชื่อมติดกันเป็นผลรวม ผิวเป็นตุ่มพอง
ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาและสรรพคุณ
- ผล : ตำรายาของเวียดนาม ระบุว่า ผลเป็นยาขับเลือดต่าง ๆ ขับประจำเดือนด้วย ยาไทยใช้ผลสดดิบหรือห่าม ฝานเป็นชิ้นบาง นำไปย่างหรือคั่วไฟอ่อน ๆ ให้เหลือง แล้วต้มหรือชงกับน้ำดื่ม แก้คลื่นไส้อาเจียน สารที่ออกฤทธิ์คือ asperuloside
๕. ว่านชักมดลูก
ลักษณะ
- ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 1 เมตร หัวใต้ดินขนาดใหญ่ อาจยาวถึง 10 เซนติเมตร เนื้อสีส้มถึงสีส้มแดง
- ใบเดี่ยว เรียงสลับ ออกเป็นกระจุกเหนือดิน รูปวงรีหรือรูปวงรีแกมใบหอก กว้าง 15-20 เซนติเมตร ยาว 40-90 เซนติเมตร มีแถบสีม่วงกว้างได้ถึง 10 เซนติเมตร บริเวณกลางใบ
- ดอกช่อเชิงลด ออกที่บริเวณกาบใบ ก้านดอกยาว 15-20 เซนติเมตร กลีบดอกสีแดงอ่อน ใบประดับสีม่วง เกสรตัวผู้ที่เป็นหมัน แปรรูปคล้ายกลีบดอกสีเหลือง
- ผลแห้ง แตกได้
ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาและสรรพคุณ
- เหง้า : ใช้เหง้ารักษาอาการประจำเดือนมาผิดปกติ ช่วยย่อยอาหาร
สมุนไพรไทย มีคุณค่าเสมอนะคะ
ขอบคุณ บทความดีดีนี้นะคะ