ทำยังไงให้ชีวิตพัง - How to Ruin Your Life
...
วันหยุดที่ผ่านมาได้ไปจ่ายค่าภาษีและประกันภัยรถยนต์ที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน พอดีได้คิวแรกเลยใช้เวลาไม่นาน เสร็จธุระก็เลยแวะทำธุระอื่นต่อและจบด้วยการไปห้องสมุดประชาชนในอาคารเดียวกัน ได้ยืมหนังสือมาสี่เล่ม หนึ่งในนั้นคือ How to Ruin Your Life โดย Ben Stein เป็นพ็อกเก็ตบุ้คเก่าๆ เล่มเล็กๆ ที่มีชื่อหนังสือชวนให้ติดตามตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น
หนังสือพ็อกเก็ตบุ้คเล่มเล็กๆ คนเขียนบางคนบอกว่าเขียนได้ยากกว่าหนังสือเล่มใหญ่ๆ ยาวๆ สำหรับคนอ่านฉันคิดว่ามันเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้คนรักการอ่านมากขึ้นเพราะใช้เวลาไม่นาน การอ่านหนังสือจบหนึ่งเล่มสำหรับคนบางคนคือความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ และหากทำได้บ่อยๆ จะกลายเป็นนิสัยแห่งการเรียนรู้อย่างไม่มีวันจบสิ้น
Ben Stein ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้บอกว่าเขาได้ข้อสรุปว่าจะทำอย่างไรให้ชีวิตพังจากการสังเกตผู้คนที่เขาได้พบปะและร่วมงานด้วยในหลากหลายประสบการณ์จากการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์, ผู้เขียนคำสุนทรพจน์ประจำทำเนียบรัฐบาล, คอลัมนิสต์, ทนายฝึกหัด, อาจารย์สอนกฎหมาย, คนเขียนบทโทรทัศน์ ฯ บางครั้งการได้อ่านหนังสือที่กลั่นกรองมาจากประสบการณ์หลายสิบปีของคนคนหนึ่งในเวลาชั่วโมงกว่าๆ ของชีวิตเราถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ว่าไหมคะ?
เราจะทำยังไงให้ชีวิตพัง?
1. อย่าเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ในชีวิต
2. อย่ามีวินัยในตนเอง
3. บอกตัวเองทุกๆ วันว่าเราเป็นศูย์กลางของจักรวาล
4. อย่ายอมรับผิดในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
5. วิพากษ์วิจารย์บ่อยๆ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
6. ไม่จำเป็นต้องกล่าวคำว่าขอบคุณ เพราะมันควรเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
7. บอกตัวเองว่าตัวเราคือบ่อเกิดแห่งปัญญาทั้งหลาย
8. อิจฉาในทุกๆ อย่างที่คนอื่นมี อะไรที่เรามีไม่ดีไปเสียหมด
9. เป็นคนสมบูรณ์แบบจากหัวจรดเท้า
10. คิดทำแต่สิ่งใหญ่ๆ สิ่งเล็กๆ ไม่ต้องไปเสียเวลา
11. อย่าไปยินดีกับความเรียบง่ายในชีวิต
12. กล่าวติเตือนทุกๆ คนในทุกๆ เวลา
13. ตอบแทนคนที่ทำดีกับเราด้วยการเฉยเมย
14. เอาใจคนที่ทำไม่ดีกับเรา
15. คบคนไม่ดีเป็นสมาคม
16. ทำให้คนรอบข้างรู้สึกว่าเขาไม่สลักสำคัญใด
17. จำฝังใจว่าใครทำไม่ดีกับเราบ้าง อย่าลืมเชียว
18. ใช้สิ่งเสพติดเป็นประจำ
19. อย่าเก็บหอมรอมริบ เรายังมีรายได้เสมอ
20. ไม่ต้องไปสนใจกับคนในครอบครัว
21. อะไรที่ถูกต้องตามธรรมเนียมเป็นสิ่งไร้สาระ
22. ความจริงเป็นเพียงญาติห่างๆ ไม่ต้องรู้จักใส่ใจก็ได้
23. ไม่มีใครสำคัญไปกว่าตัวเราในโลกใบนี้
24. จำว่าเราไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณใคร
25. ลองการพนันดู
26. สัตว์เลี้ยงมีไว้ให้คนอ่อนแอเท่านั้น
27. งานเสร็จคือเสร็จ ทำตามหน้าที่เท่านั้น หน้าที่ใครหน้าที่มัน
28. อายุหรือประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งที่ควรใส่ใจ
29. บอกกับใครใครว่าฉันคือผู้วิเศษสุดแล้ว
30. สู้ให้ยิบตาไม่ว่าจะเรื่องอะไร ฉันต้องชนะเสมอ
31. ทำทุกอย่างตามใจฉัน
32. คนอื่นนะหรือไม่เคยทำอะไรได้ดีหรอก
33. ทำตัวให้โอ่อ่ามากกว่าที่เป็นเสมอๆ
34. ฉัน - ฉลาดสุด
35. ทุกๆ ครั้งที่เห็นคนอื่นล้ม บอกเขาว่า "ฉันเตือนเธอแล้ว"
คนเราเรียนรู้จากความล้มเหลวทั้งของตนเองและผู้อื่น บางคนเห็นความล้มเหลวของคนอื่นแล้วทำในสิ่งตรงข้าม บางคนต้องการประสบการณ์จริงเพราะหากไม่รู้จักความล้มเหลวรสชาดของความสำเร็จอาจจืดชืดกว่าที่มันควรจะเป็น
Tolstoy กล่าวเอาไว้ว่า If you can avoid the ways and means that losers take to wreck their lives, you may not necessarily get to be a hugh success, but you certainly avoid failures - หากคุณหลีกเลี่ยงหนทางที่คนขี้แพ้ทั้งหลายทำกับชีวิตของเขา คุณอาจไม่ประสบความสำเร็จใหญ่โตมากมายแต่คุณก็จะไม่ล้มเหลว
ทุกข้อในหนังสือเล่มนี้เป็นสิ่งเหล่านี้เราอาจรู้และได้ยินมาหมดแล้วไม่ใช่สิ่งใหม่ใด แต่สิ่งใหม่ที่อาจเกิดขึ้นและช่วยสร้างความต่างให้ชีวิตคือความตระหนักรู้ (awareness) ว่าในทุกย่างก้าวของชีวิตเรากำลังทำในสิ่งที่เรารู้แล้วอยู่ทั้งหมดหรือไม่
เรียบเรียงจากหนังสือ How to Ruin Your Life เขียนโดย Ben Stein
สุขสันต์วันพุธต้อนรับเดือนใหม่ค่ะ
ด้วยความนอบน้อม,
ปริม ทัดบุปผา
๑ สิงหาคม ๒๕๕๕
Tong Hua - Jason Chen and JRice
http://www.youtube.com/watch?v=BZTKGxA3PKU&feature=related
ความเห็น (27)
เราจะทำยังไงให้ชีวิตพัง? มีเยอะเหมือนกันนะคะ
ชอบคำลงท้ายคุณปริมจังค่ะ
ด้วยความนอบน้อม^^
อาจารย์ปริม ... ผมจะนำข้อสรุปของอาจารย์ไปทำ PPT สอนนักศึกษานะครับ ;)...
ว้าว ว้าว ว้าว
หลายคนชอบทำสิ่งที่ตรงข้ามกับความดีงาม ;)...
...พัง....กับ....พลัง.....ต่างกันแค่ตัวเดียว
แต่ความหมายต่างกันลิบลับเลยเนาะเจ้า...
อ่านแล้วทำให้นึกถึงหัวข้อใน มหกรรม R2R "เขียน abstract อย่างไรไม่ให้ได้รางวัล" เห็นแล้วสะดุดใจกึก นี่ถ้าเขียน "เขียนอย่างไรให้ได้รางวัล" คงเฉยๆ คนเราก็แปลก ไม่รู้ทำไมเป็นแบบนี้นะค่ะ
สวัสดีค่ะคุณชาดา,
หากเราไม่หยุดคิดพิจารณา สิ่งที่ไม่ควรทำ มีมากมายพอพอกับสิ่งที่ควรทำ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เวลาในชีวิตของเราทำอะไรดีค่ะ
ขอบคุณมากค่ะที่กรุณามาทักมายกันเป็นคนแรกเลยค่ะ
ฝันดีนะคะคืนนี้
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ Wasawat Deemarn,
ด้วยความยินดีค่ะหากมันจะมีประโยชน์บ้างค่ะ งานนี้ยืมเขามาอีกทีไม่มีหวงค่ะ
ในแต่ละข้อผู้เขียนแทรกตัวอย่างที่เขาพบเจอมา อ่านแล้วฮามากค่ะ
ขอบคุณมากค่ะอาจารย์
ฝันดีนนะคะ
สวัสดีค่ะคุณ krugui,
ภาษาไทยเรามีสีสัน ข้อคิดในตัวที่น่าทึ่งนะคะคุณครู
เรียนรู้จากสิ่งที่คนอื่นทำให้ชีวิตพัง เติมพลังใจในหนทางใหม่ที่ก้าวเดิน ขอบคุณค่ะคุณครู
ราตรีสวัสดิ์เจ้าคุณครู
สวัสดีค่ะคุณหมอ. ป.
คงคล้ายๆ reverse psychology อย่างหนึ่งนะคะ หากบอกว่าอย่าทำ...มันเหมือนมีความท้าทายซ่อนอยู่ให้เราค้นหา หากบอกให้ทำให้ล้มเหลว เราคงอยากมีความเอาชนะอยู่เลยทำให้สำเร็จ
การเรียนรู้จากสิ่งที่ก่อให้เกิดความล้มเหลวจากคนอื่นหรือตัวเอง ต่างจาก self-sabotage อย่างมากมายนะคะ อันแรกเป็นแนวบวกเพราะเกิดประสบการณ์ขึ้น อันหลังเป็นแนวลบสุดขั้วมีแต่การทำลายตัวเองในทุกๆ ทาง
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะคุณหมอ
ฝันดีนะคะ
ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่เข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ หัวข้อบันทึกอาจดูผิดแนวปริมไปบ้างแต่ก็พกพาความหวังดีมาฝากเหมือนที่เคยนะคะ
ขอให้ทุกท่านมีสิ่งดีดีเกิดขึ้นในชีวิตในทุกโมงยามค่ะ
ฝันดีต้อนรับวันมงคลนะคะ
อรุณสวัสดิ์วันอาสาฬหบูชาค่ะ
ขอบคุณข้อคิดดีๆนี้ค่ะ..
เจียมตัว เจียมใจ ใฝ่คุณธรรม นำตนสงบร่มเย็น
อ่านแล้วอยากปฏิบัติให้ตรงข้ามมากๆเลย
อ่านแล้ว....อยากนำไปฝากลูกศิษย์บางคนค่ะที่กำลังทำร้ายตนเองด้วยการทำเป็นแก้วน้ำคว่ำกลางสนามท่ามกลางสายฝนเย็นฉ่ำ ....อ่านด้วยความนอบน้อมเช่นกันค่ะคุณปริม
ตายแล้วน้องปริม ใน ๓๕ ข้อนี่คุณพี่ ก็มีหลายข้ออยู่นะคะ สงสัยต้องปรับเปลี่ยนชีวิตซะแล้ว (เพลงเพราะ)
มีข้อมูลดีๆๆทั้งนั้นเลย ขอบคุณมากครับ
สวัสดียามค่ำวันอาสาฬหบูชาค่ะคุณพี่ใหญ่,
ขอบพระคุณมากนะคะ
ขอให้พี่ใหญ่มีความสุข สงบในค่ำวันดีวันนี้ค่ะ
:)
สวัสดียามค่ำค่ะท่านอาจารย์ชยันต์
ปริมเชื่อว่าท่านอาจารย์อยู่ฝั่งตรงข้ามกับทุกข้อที่เขียนในบันทึกนี้อยู่แล้วค่ะ
ขอบพระคุณมากนะคะ :)
สวัสดียามค่ำค่ะครูนก
หากมันจะมีประโยชน์บ้างกับน้องๆ เชิญตามอัธยาศัยนะคะ
Reverse Psychology อาจใช้ได้กับเด็กๆ ที่อยากเอาชนะตัวเองนะคะ
ดีใจกับน้องๆ จังค่ะมีคุณครูคอยคิดถึงแบบนี้ค่ะ
ขอบคุณมากคะ
สวัสดียามค่ำค่ะคุณพี่ kunrapee,
แหม...ไม่เยอะไปกว่าปริมหรอกค่ะ เหตุผลหนึ่งที่นำมมาฝากเพราะจี้ใจดำคนเขียนด้วยน่ะค่ะ
มาให้กำลังใจกันและกันนะคะ...
เพลงนี้เป็นเพลงที่ทำให้ปริมอยากเรียนนภาษาจีนขึ้นมาค่ะ มีความทรงจำที่ดีกับเพลงนี้เลยเอามาฝากค่ะ ;)
สวัสดียามค่ำค่ะท่านอาจารย์ขจิต
ขอบคุณท่านอาจารย์ที่กรุณามาอ่านบันทึกนี้นะคะ
สุข สงบ ค่ำวันดีวันนี้ค่ะ :)
เรียกชื่อดอกไม้ไม่ถูกครับ แต่เพราะมีสีขาว และชูช่อได้ไม่เกิน 1 วัน ก็จะเฉาตาย คงเหมาะสมกับวันนี้ที่เป็นวันพระ ให้พวกเราได้ระลึกถึงอนิจจังของสังขาร
ขอบคุณนะคะคุณปริม ... หากเป็นเช่นนี้ ไม่ต้องครบทุกข้อ ก็แย่แล้วนะคะ :))
สวัสดีค่ะคุณคณิน
ดอกสวยมากนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
สุขสงบในวันเข้าพรรษาค่ะ :)
สวัสดีค่ะคุณหนูรี
ค่อยๆ ทำค่ะ ปริมเตือนตัวเองเช่นนี้เสมอ บางวันก็ทำได้ บางวันก็เผลอค่ะ
สุขสันต์วันเข้าพรรษานะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่ คุณปริม มีมาแบ่งปันนะครับ
ได้ข้อคิดสะกิดใจดีมากครับ บางครั้งคนเรามัวมองแต่ด้านบวกเพื่อพัฒนาแต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วเพียงแค่เรา "สกัดเอาด้านลบ (ไม่ดี) ที่มีในตัวเราออกไป" คำตอบที่ได้ก็ไปบรรจบที่จุดมุ่งหมายปลายทางเหมือนกัน
"ไม่มีใครวางแผนให้ตัวเองล้มเหลว... แต่คน (ส่วนใหญ่) ที่ล้มเหลวคือคนที่ไม่ได้วางแผน"
ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่มีมาฝากมากครับ
สวัสดีค่ะคุณจัตุเศรษฐธรรม,
ขอบคุณค่ะที่มาอ่านและให้ข้อคิดไว้ในบันทึกนี้ค่ะ
เคยอ่านผ่านตาว่าคนบางคนใช้เวลาวางแผนการไปเที่ยวพักร้อนมากกว่าการใช้เวลาวางแผนชีวิตทั้งชีวิต - เห็นจะจริงนะคะ ตามที่คุณบอกไว้ข้างบน
ตอนนี้เลยใช้เวลามานั่งพิจารณาวางแผนชีวิตที่เหลืออีกครึ่งชีวิต (ถ้าได้อยู่จนถึงสองหมื่นกว่าวันตามสถิติ) ว่าจะทำอะไร อย่างไร เพื่ออะไรดี
ขอบคุณมากค่ะ
ชอบมากค่ะอยากให้คนทั้งโลกได้อ่านบันทึกนี้จัง
สวัสดีค่ะคุณสเร็นเหลา,
ต้องขอบคุณ Ben Stein ที่กลั่นกรองประสบการณ์ชีวิตและการงานที่เขาพบปะมาเล่าในหนังสือเล่มนี้ค่ะ เราจึงได้อ่านอย่างชื่นชม
ขอบคุณมากค่ะที่มาอ่านและฝากข้อความทักทาย
สุขสันต์บ่ายวันพุธค่ะ ;)