การหยิบพระเครื่อง ต่างจากการไปซื้อโทรศัพท์มือถืออย่างไร


คนไม่จริงใจ ไม่มีความรู้ ขายแต่ของเก๊ ย่อมอยู่ยาก และคงเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น

การหยิบพระเครื่องแทบไม่ต่างจากการไปซื้อโทรศัพท์มือถือ

มีอะไรคล้ายกันหลายอย่าง

 

คนขายทั้งสองแบบ จะมีทั้งของจริง และของเก๊วางเต็มร้าน

ให้ดูว่าในร้านมีของขายมาก น่าเข้าร้าน

(ทั้งๆที่ของขายจริงๆ มีอยู่ไม่กี่ชิ้น)

 

แต่มีจุดต่างนิดหนึ่ง ที่

 

คนขายมือถือ มักจะบอกตรงๆว่า

  • มือถือเครื่องไหนดีไม่ดีอย่างไรใช้ทำอะไรได้บ้าง ทดลองให้ดูพร้อมแนะนำวิธีใช้
    • เท่าที่ความรู้เขามี
    • ถูกบ้างผิดบ้าง ตามความสามารถของเขาจริงๆ
    • มักไม่ปิดบังความรู้ เพราะยิ่งรู้มาก บอกมาก ลูกค้ายิ่งชอบ
  • ให้ทดลองใช้ก่อนซื้อ
  • ลองจนพอใจจึงจ่ายเงิน
  • ถ้าใช้ไม่ได้ตามที่บอก ไม่เหมาะสม เปลี่ยนได้ทันที
  • หรือมาเปลี่ยนวันหลังก็ยังได้ ขอให้ทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิม ไม่มีรอยขีดข่วน

และ

ถ้าร้านไหนขายของไม่ดีให้ลูกค้าบ่อยๆ คนจะรู้กันทั่ว

และจะไม่มีใครเข้าร้านนั้นต่อไป

นอกจากขาจรเล็กๆน้อยๆ

แล้วธุรกิจเขาก็จะเจ๊ง อยู่ไม่ได้

 

และคนขายมือถือจะไม่ยอมขายของเก๊ประดับร้านเป็นอันขาด แม้เราจะขอซื้อก็ตาม

 

ที่ต่างจากร้านขายพระ

  • ที่จะพยายามบอกว่าของไม่ดีคือของดี
  • ของดีจริงๆ ใช้ได้จริงๆจะซ่อนไว้
    • ถ้าไม่ขอดู จะไม่ให้ดู
  • มีความรู้อะไร จะไม่บอกลูกค้าจะมาเรียน หรือถาม จากคนขายไม่ได้
    • ต้องเรียนเอง รู้เอง
  • ใครอยากซื้อของดี ใช้ได้จริงๆต้องฝึกหัดดูเอาเอง
  • ซื้อของเก๊ไปเองก็ช่วยไม่ได้ ตัวใครตัวมัน
  • ไม่ให้ลองใช้
  • ซื้อแล้วซื้อเลย
  • อยากลองใช้ก็ไปลองเอาเอง
  • และจะพยายามขาย "พระเก๊" ประดับร้าน ก่อนการขายพระแท้ด้วยซ้ำ

ฉะนั้น เชิงอุปมาข้างต้น เราต้องรู้เขารู้เรา

  • อย่าไปหยิบของประดับร้านของเขา
  • ปล่อยให้เขาเก็บไว้ประดับร้านสวยๆบ้างครับ
  • หยิบแต่พระแท้ๆ ที่ใช้ได้จริงก็พอ
  • ร้านไหนไม่มีพระแท้ ก็ไม่ต้องเข้าร้านนั้น
  • พอเขาขายไม่ได้เขาก็เลิกกิจการไปเอง
    • ไม่ต้องไปสงสารเขา
    • ไม่มีใครไม่ยอมอดตายหรอก
    • เขาคงทำอย่างอื่นได้ดีกว่าการมานั่งหลอกขายพระเก๊

ดังนั้น ผมว่านะครับ

พวกเรากันเองนี่แหละ ไปสนับสนุนให้คนขายพระเก๊ ร่ำรวย ได้ใจ

  • ขายพระเก๊รวยแล้ว ก็ไม่ต้องไปหาพระแท้มาขายให้เสียเวลา
  • พระเก๊หาที่ไหนก็ได้ มีมาก สั่งได้ไม่จำกัด
  • เขาจึงยิ่งหาพระเก๊มาขายมากขึ้นไปอีก ทุกรุ่น ทุกฝีมือ
  • คนทำพระเก๊ขายก็ร่ำรวยเป็นหมื่นล้านต่อปี
  • ทั้งช่าง ทั้งเจ้าของกิจการ
  • แล้วพวกเราก็มาบ่นว่า "รู้สึกท้อแท้ หาพระแท้ไม่ได้"

ก็.....

พฤติกรรมของพวกเรากันเอง     นี่แหละ

  • ที่ไม่ยอมเรียนรู้
  • ที่ทำให้ปริมาณพระเก๊ เพิ่มจำนวนมากมายเป็นร้อยเท่า พันเท่าของพระแท้
  • เลยบดบังพระแท้ ที่มีจำนวนน้อย ทำให้ดูยาก หามากขึ้นไปอีก

 

ดังนั้น ขอเพียงพวกเรา กลับตัวกลับใจ

 

  • มาคิดใหม่ทำใหม่
  • อย่าเลียนแบบนักการเมือง ที่คิดใหม่ ทำเหมือนเดิม ที่ไม่มีอนาคต

 

ธุรกิจการผลิต การจำหน่ายพระเก๊คงจะน้อยลงกว่าในปัจจุบัน

 

โลกของเราคงสดใสมากขึ้นครับ

 

แค่....

เพียงเรา ผู้ซื้อที่มีอำนาจการซื้ออยู่ในมือ ใช้วิธีการไปซื้อพระแบบเดียวหรือแบบใกล้เคียงกับการซื้อมือถือ

และปฏิบัติกับร้านขายพระเก๊แบบเดียวกับร้านขายมือถือที่ไม่ดี ไม่มีจรรยาบรรณ

 

ทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นเอง

 

คนไม่จริงใจ ไม่มีความรู้ ขายแต่ของเก๊ ย่อมอยู่ยาก และคงเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น

 

อย่างแน่นอน

 

ผมฝันอย่างนี้ และมั่นใจอย่างนี้

แม้จะรู้ว่าเป็นการฝันแบบลมๆแล้งๆก็ตามครับ

 

คำสำคัญ (Tags): #พระเก๊#ระบบตลาด
หมายเลขบันทึก: 496362เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2012 10:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 กรกฎาคม 2012 14:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
ถูกต้องอย่างที่อาจารย์ว่า ...ผมเอาเหรียญหลวงพ่อกิตติศักดิ์ รุ่น 1 ไป ให้เขาดูทั้งๆที่รู้ว่าแท้ แน่นอน ผมได้มาตอนผมเป็นพระ

พระกฏว่าเซ๊ยนตีเก๊ แต่ผมไม่หดหู่เพราะผมรู้อยู่แก่ใจ ....

 แต่ช่วงจังหวะนั้นผมเหลือบไปเห็นพระสมเด็จองค์นึง อะไรก็ไม่รู้ทำให้ผมมองอยากหยิบเหลือเกิน ผมก็หยิบปรากฏว่าใช่เลย!! พระอาจารย์กิตติศักดิ์ กิตติสาโร วัดป่าบ้านหนองหลุบ รุ่นแรกๆเลย ผมก็ทำเป็นส่องเล่นๆ ส่องนู้นส่องนี้ แต่ใจจริงเล็งองค์นี้ไว้ ผมกลัวจะราคาแพงมาก ผมเลยใช้เล่ห์เหลี่ยมนิดหน่อย ถามเขาว่าพี่ครับองค์นี้ของใครเหรอเขาบอกว่าไม่รู้ แต่เป้นพระแท้นะน้อง ผมก็อืมมเหรอครับผมดูไม่เป็น ขายเท่าไหร่ครับ เขาบอก 300 ผมต่อเหลือ 150 แล้วทำเป็น งงๆ ว่าพระอะไร ก็เลยตัดสินใจจ่ายไป 150 ทั้งๆที่พระองค์นี้หายากมากๆ คิดในใจ เสร็จตูแล้ว ...

..... แต่เป็นอย่างว่าที่อาจารย์บอกอยากได้พระอะไร ให้อาราธนาเอาแล้วท่านจะมาเอง อันนี้มาเองจริงๆๆครับ เพราะตอนนั้นมีคนเอามาปล่อยให้ผม 1 หมื่น ผมแทบช๊อค ไม่เล่นพระขนาดนั้น ผมเล่นพระที่ว่าเซียนตาไม่ถึงอะ .. อิอิ สมเด็จที่หลังเขียนว่า เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา

 พระสมเด็จ พระรอด นางพญา เหมือนกันครับ ผมเช่าบูชามา ไม่ถึงร้อยซักองค์ มีคนเอามาให้ ตอนผมบวชเป็นพระ ... ถ้าว่างๆ เดี๋ยวผมจะส่งรูปไปให้อาจารย์ดูให้ครับว่าผ่านมั้ย เพราะหลังจากศึกษาแล้ว คล้ายๆหลักการที่อาจารย์เขียนไว้ครับ

................ ถ้าผมอยู่ ขอนแก่น ผมไปเรียนกับอาจารย์แล้วครับ เพราะหลักการเดียวกับอาจารย์ ศึกษาเนื้อตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ผมก็ไม่เก่งครับ อ่านตำราหลายๆๆอย่าง งง บ้าง อะไร บ้าง ...............

................. แต่ตอนนี้ผมมาทำงานที่กรุงเทพหน่ะสิครับ พระเก๊ หาง่ายกว่าพระแท้อีก หลับตาหยิบก็เจอ ...............

ด้วยความยินดีครับ ส่งรูปมาที่ [email protected] ได้เลยครับ

แจ้งเบอร์โทรมาทางเมล์ ผมจะโทรแจ้งครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท