เราพยาบาลส่วนใหญ่ จะให้คำแนะนำ แนะนำ แนะนำ ไปเรื่อยๆจนบางครั้งลืมว่า "การให้ที่มีประโยชน์และมีคุณค่า ผู้รับต้องอยากรับด้วย"
เจอแบบนี้อึ้งจริงๆ
ใจเขาใจเราเนอะ...
ก็แล้วแต่คนป่วยน่ะครับ สำหรับผมอยากได้ความรู้เยอะๆ ครับ
บางกรณี..กลายเป็นเรื่อง.."หวังดี..ผลออกมาร้าย"...
เปิดโอกาสให้เขาเล่า..อย่างที่อยากเล่า..มากกว่าซักไซร้มากเกินไปดีไหมคะ??
อยากให้นักศึกษาแพทย์มาอ่านบทความนี้ค่ะ.. คุณโจ้ ช่างจับจุดมาเล่าได้จับใจดีแท้ การแนะนำ โดยคนฟังไม่อยากรู้ ก็เหมือนการให้ยา ในคนที่ไม่มี recepter นะค่ะ
บางครั้งมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะการซักคนไข้มากเกินไปซ้ำยังใช้ศัพท์แสงที่
ยากต่อการเข้าใจของคนไข้ แต่เป็นความคุ้นชินของหมอ มักทำให้คนไข้ขยาด
อย่างบันทึกนี้ สงสัยต้องมีการปรับอีกนิดหน่อยนะคะ
This may also tell us why people go to 'traditional healers' (magic) rather than 'westernized doctors' (scientific).
In magical worlds all our (silent) wishes will be granted. But in scientific ways, only explicit needs can be satisfied and satisfied 'exactly'. People are fuzzy - and we are all not 'exact' (copies of what we want to be). ;-)
ในงานพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลนั้น การให้ความรู้ผู้ป่วยในเรื่องการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง การใช้ยา ที่ถูกต้องนั้น จะต้องมีการประเมินว่าเขามีความเข้าใจตามนั้นจริงหรือเปล่า บางครั้งบางงานต้องให้ผู้ป่วยท่องให้ได้ ตามที่ระบุไว้ บางงานต้องให้ผู้ป่วย ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ตนเขียนไว้ 1 2 3 4.... ตอบสลับข้อต้องให้ตอบใหม่ ประมาณนี้ซึ่งการประเมินแบบนี้มันคงทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอึดอัด เมื่อตอบไม่ได้อาจโดนต่อว่า ทำให้รู้สึกไม่ดี ซึ่งตรงนี้อาจอยู่ที่เทคนิคผู้สอนแต่ละคนด้วย คงไปเจอคนที่เขาเข้มงวดเข้าน่ะ ถึงทำให้รู้สึกได้ขนาดนี้
อย่างที่บอกล่ะค่ะ "ด้วยความหวังดี" แต่ มันกลับหวังดีแบบล้ำเส้นไปนิดตรงนี้ ในส่วนของแผนกผู้ป่วยนอกนั้นชลัญได้แจ้งหัวหน้าแล้ว หัวหน้ารับทราบปัญหา และพร้อมแก้ไข แต่ในส่วนของจุดบริการอื่นนี่ต้องฝากแพทย์ประสานค่ะ