มันสำปะหลังเป็นพืชไร่ที่ได้รับความนิยมเสมอมาในแถบพื้นที่เชิงเขาโดยเฉพาะในเขตสระบุรี ลพบุรี โคราช และอีกหลายๆจังหวัดที่มีพื้นที่ราบลุ่มติดชายเขา เพราะเนื่องจากห่างไกลระบบการชลประทานที่ไม่สามารถส่งน้ำไปตามห้วย หนอง คลอง บึงได้ จึงมีความเหมาะสมมากที่สุดที่จะเพาะปลูกพืชไร่ ทั้ง อ้อย ข้าวโพด ข้าวฟ่าง และมันสำปะหลัง ที่สามารถอาศัยแต่เพียงน้ำฝนเป็นปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวได้ไม่เหมือนกับพืชผักชนิดอื่นๆ ถึงแม้ว่าบางครั้งจะมีราคาที่ตกต่ำจนเกิดม็อบเกิดการประท้วงเกือบเป็นประจำทุกปี แต่ก็ด้วยเป็นพืชเดียวที่เกษตรกรส่วนใหญ่ในแถบนี้มีความเชี่ยวชาญชำนาญมากที่สุดจึงยังไม่กล้าที่จะเปลี่ยนไปปลูกชนิดอื่นๆมากนัก
ดังนั้นเมื่อถึงฤดูฝนเกษตรกรในแถบพื้นที่ดังกล่าวก็จะรีบทำการไถคราดพรวนดินเตรียมเพาะกล้าหว่านเมล็ดหรือใช้กิ่งพันธุ์เพาะปลูกเพื่อให้สอดคล้องสัมพันธ์กับธรรมชาติที่ไม่เคยรอคอย แต่เนื่องด้วยดินที่ผ่านการเพาะปลูกมาเป็นเวลานานจึงทำให้ขาดสารอาหารและแหล่งอินทรียวัตถุที่เป็นแหล่งพึ่งพิงของจุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่ค่อยช่วยปรับปรุงบำรุงดินด้วยกระบวนการย่อยสลายเศษซากอินทรีย์ตามธรรมชาติทำให้ดินมีโครงสร้างดินที่ดี มีสภาพโปร่งร่วนซุย และหนำซ้ำบางครั้งอาจจะถูกซ้ำเติมด้วยกรดจากปุ๋ยเคมีที่ผ่านการใส่มาอย่างยาวนานทำให้ดินเป็นกรด แน่นแข็ง ราดขัดสมาธิ ไม่สามารถที่จะแทงทะลุส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของหัวมันสำปะหลังให้มีขนาดที่ใหญ่ได้ตามต้องการ
การใช้สารละลายดินดาน ALS29 (แอมโมเนียม ลอเรธ เซอร์เฟท) ในอัตรา 30 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร หมั่นราดรดหรือฉีดพ่นหลังฝนตกใหม่ๆ คือหลังจากที่ดินผ่านการอุ้มน้ำจนอิ่มตัวเปียกแฉะอย่างเต็มที่แล้วจะช่วยทำให้การทำงานของสารละลายดินดานมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สามารถที่จะนำพาให้สารละลายดินดาน ALS29 ไหลซึมลงลึกได้มากยิ่งขึ้น หมั่นราดรดเป็นประจำทุกเดือนจะช่วยทำให้หัวมันสำปะหลังนั้นสามารถที่จะแทรกแทงทะลุลงไปในดินได้มากยิ่งขึ้น หาอาหารได้เพิ่มขึ้น สะสมอาหารได้ดีขึ้น หัวก็จะใหญ่ขึ้นส่งผลทำให้สามารถที่จะเพิ่มผลผลิตได้อย่างสอดคล้องกับปริมาณและสารอาหารจากทางดินและที่เกษตรกรได้ใส่เพิ่มเข้าไป
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
ขอบคุณ ที่ทำการส่งเสริมเกษตรปลอดภัย นะคะ