การเลี้ยงลูกให้มีปัญญา

การฝังแก่นความคิดให้เด็ก นับเป็นการลงทุนที่ใช้ระยะเวลาสั้น แต่ได้ผลยาวนาน

การเลี้ยงลูกนั้น คงไม่มีผู้ใดสงสัยในความรักของพ่อแม่ ที่ได้พยายามทุ่มเทสิ่งที่ดีที่สุดที่คิดออก และทำได้  แต่สิ่งเหล่านี้อาจไม่สามารถการันตี ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกได้ ผู้เขียนในฐานะแม่คนหนึ่งที่เลี้ยงลูกมา 15 ปี ทำให้ต้องการแบ่งปันให้กับพ่อแม่อีกหลายคนที่ยังหาหนทางในการอบรม บ่มเพาะลูกของตัวเองอยู่

ดิฉันมีลูกที่มีอายุย่างเข้าปีที่ 15 นับว่ากำลังเข้าสู่วัยรุ่น แต่ลูกได้ทำให้ดิฉันมั่นใจในวิธีที่ได้ปลูกฝังมาตลอดระยะเวลา 15 ปี จนทำให้ต้องการแบ่งปันวิธีนี้กับพ่อแม่ที่คิดว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อลูกของตัวเอง เพราะการตั้งต้นได้เร็วมากเท่าไหร่นับว่าจะได้ผลดีมากขึ้น 

ลูกดิฉันเรียนได้เกรด 4.00 ได้เป็นที่ 1 ของระดับชั้นในโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค แต่สิ่งนี้กลับเป็นสิ่งปกติที่ลูกของคนจำนวนมากสามารถเป็นได้ แต่สิ่งที่ทำให้ดิฉันต้องการแบ่งปัน คือ การเป็นคนดีของลูกที่ทำให้ดิฉันรู้สึกอิ่มใจ และเป็นสุข เพราะดิฉันทราบว่าไม่ใช่โชค แต่เรื่องของการเลี้ยงดูที่ถูกวิธี 

ลองติดตามวิธีการเลี้ยงดูต่อไปนี้นะคะ 

1 คุยกับลูกเหมือนคุยกับผู้ใหญ่ 1 คน ตั้งแต่แรกเกิด 

2 ไม่เคยหลอกเพื่อให้เหตุการณ์ผ่านพ้นไปโดยเร็ว หรือเพื่อทำให้เด็กหยุดร้องไห้โดยเร็ว เช่น ตอนที่ลูกยังเป็นเบบี๋อยู่ และต้องการของเล่นและร้องไห้ไม่ยอมฟัง ดิฉันเดินหนี และแอบดู เพื่อไม่ให้การร้องไห้กลายเป็นเงื่อนไขของสิ่งที่ต้องการ แต่เมื่อหยุดร้อง ก็จะเข้าไปหา และบอกว่านี่เป็นวิธีการที่ไม่เหมาะสม เพราะกดดันพ่อแม่ คุณอย่าไปคิดว่าลูกจะฟังคุณไม่เข้าใจ เพราะเราคิดแทนลูกเองว่าเขาไม่เข้าใจ แต่อาจใช้วิธีถามเค้าว่าเข้าใจมั๊ย เข้าใจว่าอย่างไร เล่าให้แม่ฟังหน่อย เป็นต้น

3 คิดถึงสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อการกระทำของเราต่อคนอื่น เช่น ดิฉันไม่ยอมให้พ่อบ้านจอดรถรอน่าร้านขายของ เพียงความสะดวกของเรา เช่น หน้าร้าน 7 11  ต้องบอกเค้าว่า ถ้าเราจอดตรงนี้ ก็จะทำให้รถคันอื่นลำบาก แม้คนอื่นทำก็ไม่ใช่ตัวอย่างที่เราควรทำตาม

4 การให้คำถามย้อนกลับ เพื่อให้เค้าตระหนักได้ด้วยตนเอง เช่น ครั้งนึง ลูกถามว่า ทำไมเพื่อได้เล่นเกมในคอมพิวเตอร์ได้ 3  ชั่วโมง แต่ทำไม่เค้าเล่นได้แค่ 45 นาที ดิฉันบอกลูกว่า หนูเชื่อมั๊ยว่าถ้าคอมพิเตอร์มีแต่ข้อดี แม่จะให้หนูเล่น ทั้งวันเลย แต่ที่แม่ไม่ให้แบบนั้น หนูลองคิดซิว่า ทำไม แล้วลูกก็เข้าใจ 

5 พยายามให้เค้ามองเห็นภาพจากจินตนาการ เช่น ครั้งนึงเค้าไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อเอาแต่ดุเค้าเรื่องโน่นนี้นั้น  จนดิฉันดูว่าลูกกำลังสับสนไม่เข้าใจ แต่หากเราเพียงแต่บอกว่า พ่อรักลูกนะ ที่เค้าดุก็เพราะรัก ดิฉันเชื่อว่าเด็กทุกคนเข้าใจได้อยู่แล้ว แต่เราต้องทำให้มองเห็นเป็นรูปธรรม เช่นในกรณีดฉัน ดิฉันบอกลูกว่า หนูรู้มั๊ยหนูเป็นคนดี 90 เปอร์เซนต์แล้ว พ่อดุก็เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ แค่นัน้เอง หนูยอมรับได้มั๊ย แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือเค้าไม่เคยโกรธผู้ใหญ่เวลาที่ดุเค้าอีกเลย 

 นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ต้องการแบ่งปันให้กับพ่อแม่ที่มีหัวใจรักลูกเหลือเกิน และหวังว่าบทความนี้คงมีประโยชน์กับผู้อ่านบ้างพอสมควร  

ดร.แสงรุ้ง พูลสุวรรณ

[แม่น้ำ]

บอกเค้าทุกวันว่ารักเค้าด้วยค่ะ แล้วเค้าก็จะเข้าใจว่าที่เราทำทุกอย่างเพราะเรารักเค้า ขอบคุณประสบการณ์ดีดีค่ะ