เมื่อการเดินทางเริ่มต้น
เด็กน้อยหนึ่งคนออกเดินทางพร้อมไฟฝัน
อยากจะทำโน่นนู้นนี่ สารพัน
อยากปลูกฝันต้นน้อย ๆ ด้วยสองมือ
เขาเฝ้าหมั่นเพียรพยายามสร้างความฝัน
ให้เป็นชิ้นเป็นอัน ให้ยึดถือ
ชวนคนนั้น คนนี้มาลงมือ
หวังสร้างชื่อ สร้างผลงานให้องค์กร
ความฝันที่เขาสร้างใช่ของเขา
หวังให้เป็นของเรา เป็นอนุสรณ์
เป็นแนวทางที่ดีขององค์กร
เป็นวงจรอันสวยงามตามครรลอง
เขาหวังปลูกเมล็ดพันธ์ุให้เติบใหญ่
เป็นเมล็ดพันธ์ุดีต่อไป ไม่เป็นสอง
หวังให้เกิดต้นแบบดีไม่เป็นรอง
หวังให้เป็นของขวัญคนรุ่นต่อไป
อนิจจาเด็กน้อยคนช่างฝัน
เจ้ารู้จักแต่คืนวันอันสดใส
เจ้าไม่รู้เลยว่าโลกเป็นอย่างไร
แท้จริงแล้วความสดใสคือทุกข์ตรม
ภายใต้ความงามนั้นแฝงยาพิษ
ภายใต้คำพูดหวานสนิทนั้นกลับขม
ภายใต้รอยยิ้มนั้นช่างโสมม
ภายใต้ความเกลียวกลมนั้นบอบบาง
ความพยายามสรรสร้างไร้ความหมาย
ตราบเท่าที่เนื้อร้ายยังกีดขวาง
หนทางเดียวที่จะหยุดก่อนหมดทาง
คือต้องช่วยกันขัดขวางการเติบโต
แต่อนิจจานักรบต่างซ่อนดาบ
ไม่อยากปราบ ไร้พลัง ไร้จุดหมาย
ดำรงตนอยู่เงียบๆ รอวันตาย
รอวันล่มสลายเข้ามาเยือน
เด็กน้อยเห็นแล้วรู้สึกเศร้าใจนัก
เรียกพลพรรค รวมกำลังหวังต่อสู้
แม้พลังของพวกเขายังมีอยู่
แต่ก็ไม่อาจสู้ศึกหลายทาง
จนวันหนึ่งพลพรรคเริ่มอ่อนล้า
เริ่มโรยรา หมดแรง หมดความหวัง
เริ่มทบทวน ขบคิด อย่างจริงจัง
นี่พวกเรากำลังทำอะไร
ทำดีใยไม่ได้สิ่งดีตอบ
ทำดีแล้วใยต้องชอบด้วยครหา
ทำดีแล้วใยต้องมีคนนินทา
งั้นอยู่สบายดีกว่า ไม่ต้องทำ
เด็กน้อยบัดนี้เริ่มโรยแรง
แม้เด็กน้อยยังเห็นแสงแห่งความหวัง
แต่ไม่ง่ายเลยเมื่อเทียบกับพลัง
ที่คอยโถม ประเดประดัง แทบล้มเซ
ทางที่เดินตอนนี้ยังอีกไกล
ไม่รู้ว่านานเท่าใดจะไปถึง
แรงเริ่มหมด คนเริ่มล้า ใจหวั่นสะพรึง
กลัวว่าจะไปไม่ถึงซึ่งที่ฝัน
ตลอดเส้นทางเดินของเด็กน้อย
เขาเรียนรู้ความท้อถอยที่ห้ำหั่น
เขาหวังใจจะเข้มแข็งขึ้นทุกวัน
เขาหวังใจว่าสักวันฝันจะเป็นจริง
เด็กน้อยยังคงเดินต่อไป
ตราบที่ยังมีหัวใจให้คิดถึง
ตราบทีมีความงดงามให้คำนึง
เขาจะพยายามไปให้ถึง...ซึ่งปลายทาง