คห.ก่อนหน้า ผิดในสาระสำคัญครับ เลยเปลี่ยนใหม่ดังนี้...(ลบ คห.แรกให้ด้วยนะครับ)
ผมตอบได้ไม่ชัดนักครับ หากแต่ผมเข้าใจว่าหากคนพี่บรรลุนิติภาวะแล้วก็เลื่อนคนที่ 3 ขึ้นมา เนื่องจากเป็นคู่แฝด ก็เลยได้เลื่อนทั้ง 2 คน (ไม่มั่นใจนัก)
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ครับ หากเบิกจากสวัสดิการข้าราชการไม่ได้ นั่นหมายถึงว่าเด็กมีสิทธิบัตรทองครับ แถมเคยได้ขึ้นทะเบียนทำบัตรไว้แล้วด้วย แม้ว่าในระบบฐานข้อมูลจะแจ้งว่าไม่มีแล้ว (ซึ่งผิดก็ได้) หากพิสูจน์ได้ว่าเด็กไม่มีสิทธิข้าราชการ ก็ย่อมมีสิทธิบัตรทองเหมือนเดิม นั่นหมายถึงสามารถนำใบเสร็จไปขอรับเงินคืนจากหน่วยบริการที่ออกใบเสร็จให้ได้ครับ
สิทธิไม่ได้อยู่ที่ตัวบัตรครับ สิทธิอยู่ที่ตัวเด็ก และการเรียงลำดับสิทธินั้น หากพบว่ามีสิทธิอื่น (ข้าราชการ และประกันสังคม) จะไม่สามารถเข้าสู่สิทธิบัตรทองได้ หากว่าไม่มีสิทธิอื่น คนไทยผู้นั้นมีสิทธิบัตรทองเสมอครับ ส่วนการที่จะใช้สิทธิที่นั้นก็เพียงไปขอขึ้นทะเบียนฯ โดยสามารถขึ้นทะเบียนได้ทันทีในครั้งแรกที่ไปขอใช้บริการก็ได้ หรือไปขึ้นทะเบียนไว้ก่อนเมื่อมีสิทธิก็ดีเป็นการเตรียมตัวที่ดี รักษาสิทธิตัวเอง
และหากมองในแนวคิดหลักประกันสุขภาพ การไปขึ้นทะเบียนเสียตั้งแต่มีสิทธิโดยไม่ต้องรอป่วยครั้งแรกนั้น เป็นการเข้าร่วมการแชร์ความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยกับคนในกองทุน (จังหวัด) เดียวกันกับเราครับ
หวัดดี อัสสาลามูอาลัยกุม เพื่อนเก่าพบกันใหม่ ช่วยลบให้แล้วน่ะ คห.ที่....เออ...ชายขอบคิดพ้องกันกับผมที่ว่า พอคนพี่หลุดวงจร บุตรคนที่4 ก็จะขึ้นมาแทนที่(แต่ก็ไม่ชัดเหมือนกัน)ไว้ตอนนี้ผมให้ลูกพี่ผมช่วยประสานหาข้อสรุปที่แจ่มชัดอีกที ไอ้เราก็กลัวว่า ผู้ที่ตรวจสอบดูแค่ผ่านๆว่า เป็นบุตรคนที่4 ก็สรุปว่าเบิกไม่ได้ แกไมทราบว่า บุตรคนที่1ของผมนั้นบรรลุนิติภาวะแล้วก็เป็นได้ จริงแมะ..(เขียนเอาใจตัวเองหน่อย เผื่อว่าจะจริง)
เรียนผู้อ่านทุกท่าน
ตามความเข้าใจเดิมที่ผมคิดว่า เมื่อคนพี่บรรลุนิติภาวะแล้ว คนที่4 ก็ขึ้นมาแทนที่ สรุปแล้ว มันไม่ได้เป็นไปตามที่เข้าใจกัน
กฎเกณฑ์ที่ถูกต้องคือ บุตรจะมีสิทธิเบิกแค่สามคนเท่านั้น เมื่อคนแรกบรรลุฯก็ตัดไปเลย ไม่มีการทดแทนแต่ประการใด ตกลงผมก็ต้องส่งคืนเงินในที่สุด และขอบคุณในความกระจ่างอันนี้