กรณีเอาชื่อย่อจังหวัดผม (น.ม.) ไปละเลงวาดภาพกลางจอแก้วนั้น ทำให้มีการถกกันมากว่าศิลปะคืออะไร ....ก็ว่ากันไป
ผมขอยกตัวอย่าง ภาพ ๔ ภาพ มีความเหมือนกันทุกประการ ไม่ผิดเพี้ยน
-ภาพที่ ๑ เขียนด้วยมือธรรมดา
-ภาพที่ ๒ เขียนด้วยตีน (อาจเพราะมือด้วนสองข้างแต่กำเนิด)
-ภาพที่ ๓ เขียนด้วยเต้า (ทั้งที่มือตีนดีอยู่)
-ภาพที่ ๔ เขียนด้วยพู่กันที่หนีบไว้ด้วยช่องคลอด (ทั้งที่มือตีนดีอยู่)
ถามว่า ภาพไหนเป็นศิลปะมากกว่ากัน
คนเราจะชื่นชมกับผลงานแห่งศิลปะในขั้นสุดท้าย หรือว่า เราจะชื่นชมกับ “วิธีการ” ในการสร้างศิลปะ
คำตอบคงไม่มี ..เพราะถ้ามี ก็คงไม่ใช่ศิลปะไปได้หรอก เพราะศิลปะเป็นเรื่องของกิเลส จริต ตัณหา ...ใครมีจริตอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น
ผมว่า พพจ. ทรงเป็นศิลปินอย่างยิ่ง ที่ทรงสอนว่า "จงมองดูดาวที่เราชี้ ...จงอย่ามองนิ้วของเราที่ชี้"
...คนถางทาง (๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๕)
ปล..สำหรับผมวันนี้ Thailand got lament
"จงมองดูดาวที่เราชี้ ...จงอย่ามองนิ้วของเราที่ชี้"
ชอบค่ะ ทำให้นึกถึง บันทึกของชลัญ ที่เคยบันทึกไว้ เรื่อง "ร่องรอยโรคเรื้อน"ที่เพื่อนของชลัญไม่กล้ากินข้าวต้มมัดที่คนไข้โรคเรื้อนที่รักษาหายนานแล้วทำให้ชลัญมา เพราะเขามองที่ นิ้วของเราที่ชี้ นี่เอง
ทุกอย่างคงจะเป็นศิลปะ แม้แต่ใครก็ตามที่แก้ผ้าถ่ายภาพ ยังออกมาร้อง ให้เรามองเป็นศิลปะ ค่ะ ^__^
We may have overlook one crucial point -- why did she do it?
The answer is "for money".
There is no art, no culture, no inspiration in that. But it is about money and another way to earn money using media.
The producer of that program has learned well from an ex-prime minister.
สนใจ..เพราะเป็นหญิงไทยค่ะ
๕๕ ท่าน sr คงลืมไปว่า การหางเิงินเป็นศิลปอย่างหนึ่ง (The art of money making)
แม้แต่การกินเหล้าก็เป็นศิลป เช่น มีหนังสือออกมาชื่อ "ศิลปแห่งการดื่มไวน์"
Exactly! "Thailand got lament."