ในวันนี้มีการบ้านที่จะมาตอบทั้งหมด3ข้อค่ะ
1 ความแตกต่างระหว่างวัคซีนกับเซรุ่ม
เซรุ่ม
เป็นการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปหรือที่เรียกกันเป็นภาษาหมอว่า
“อิมมูโกลบุลิน” ซึ่งเมื่อให้เข้าสู่ร่างกาย
ภูมิคุ้มกันนี้จะสามารถออกฤทธิ์ต่อต้านเชื้อโรคได้ทันที
เซรุ่มจะสกัดมาจากเลือดของสัตว์ เช่น เลือดม้า หรือเลือดกระต่าย
โดยการฉีดเชื้อโรค ที่ทำให้มีฤทธิ์อ่อนลงแล้ว ให้กับม้าหรือกระต่าย
เพื่อให้ม้า หรือกระต่ายสร้างภูมิคุ้มกันโรคขึ้นแล้ว จึง ดูดเลือดม้า
กระต่าย มาสกัดส่วนที่เป็นน้ำใสซึ่งเป็น
ภูมิคุ้มกันอยู่มาฉีดให้กับผู้ป่วย ตัวอย่างของเซรุ่มใน ปัจจุบัน เช่น
เซรุ่มป้องกันโรคคอตีบ เซรุ่มป้องกันโรค บาดทะยัก
เซรุ่มป้องกันโรคไอกรน เซรุ่มป้องกันโรค พิษสุนัขบ้า
และเซรุ่มแก้พิษงู การฉีดเซรุ่มมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ข้อดี คือ
ร่างกายสามารถนำเซรุ่มไปใช้ในการต้านทานโรคได้อย่างทันท่วงที ข้อเสีย
คือ ผู้ที่ได้รับเซรุ่มนั้นอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้
วัคซีนเป็นกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดี
วัคซีนจะทำหน้าที่กระตุ้น ให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน
ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเครื่องป้องกันของร่างกาย และทำหน้าที่
ต่อสู้กับเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย
การให้วัคซีนเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง
ที่มีความคุ้มค่ากว่าเมื่อต้องทำการรักษา
หลังจากติดเชื้อหรือเป็นโรคแล้ว
และต้องไม่ลืมว่าโรคบางโรคได้สูญหายไปจากโลก
ส่วนหนึ่งคงเนื่องจากการนำวัคซีนมาใช้ เช่น โรคฝีดาษ
และโรคบางโรคกำลังใกล้จะถูกกำจัดให้หมดไป ด้วยการใช้วัคซีนเช่นกัน
เช่น โรคโปลิโอ
แยกง่าย ๆ ก็คือ วัคซีนป้องกัน ยังไม่เป็น ไม่โดนกัด ก็ฉีดใด้ เช่นกันอหิวาห์ กันหัด กันบาดทะยักที่ฉีดให้เด็ก ส่วนเซรุ่มนั้น คือพิษแก้พิษ ต้องโดนแล้ว เช่นงูกัดแล้ว หมาบ้ากัดแล้ว ค่อยฉีดพิษไปแก้พิษจร้า
อื่ม อ่านแล้วเข้าใจดี แต่ถ้าเราฉีดเซรุ่มแก้พิษงูผิดชนิดล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น