ผู้ชายหลายอาชีพ. - ไปปูไม้ปาเก้.


โตนี่ - ฟาง. GotoKnow.

* บ้านของคนไทยสมัยก่อน  ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นไม้ ใครที่พอมีฐานะอย่างดีก็เป็นพื้นปูน ถ้าใครสามารถปูพื้นด้วยไม้ปาเก้ล่ะก็..แสดงว่าฐานะเขาคงต้องดีกว่าที่กล่าวมาแล้วเป็นแน่ ! ผมมิได้ดีใจกับความรวยหรือ ความจนของใครหรอกครับ  ที่ดีใจคือมีงานทำทันทีที่จบม.๖แล้ว..เพราะทำงานเพื่อรอเรียกตัวเข้าเรียนที่รร.ชุมพลทหารเรือ สัตหีบ.

 

 

 

๓.รับจ้างปูไม้ปาเก้.

 

ยุคต้นต้นคนไทยมีบ้าน..มักจะใช้พื้นปูนซิเมตรธรรมดาก่อน  ต่อมาจะเป็นแบบหินขัด..ปูพื้นยางบ้างแล้วจึงตามด้วยการปูด้วยไม้ปาเก้ตามสมัยนิยม.น่าจะขึ้นอยู่กับกำลังเงินด้วย. ปัจ จุบันนี้มีวัสดุต่างๆให้เจ้าของบ้านได้เลือกทั้งแบบธรรมดา  และมีลวดลายอีกต่างหาก  ตามบ้านจัดสรรขนาดที่มีระดับยังนิยมใช้ไม้ปาเก้เป็นวัสดุที่นำมาปูพื้นเกือบทุกโครงการณ์.

ไม้ปาเก้ : เป็นไม้ที่นิยมนำมาปูพื้นบ้านเพื่อความสวยงาม  ตัวไม้เป็นชิ้นชิ้นขนาดเล็ก ก่อนการปูพื้นจะต้องนำมาทากาว   แล้วอัดเรียงกันบนพื้น ราคาจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับเกรดของไม้ และจำนวนพื้นที่..ในห้องที่ลูกค้าตองการปู.

ขนาดและคุณภาพของไม้ปาเก้.  - ผู้จ้างสามารถเลือกได้.

ก่อนปูไม้ปาเก้..ต้องทำความสะอาดพื้นให้ดีเสียก่อน. ถ้าพื้นเดิมเป็นยางต้องรื้อออกและทำให้สะอาดให้ดีที่สุด  เพราะถ้ายังมีความชื้นอยู่ที่พื้นจะเป็นต้นเหตุหรือแหล่งสะสมปลวกหรือแมลงที่จะมากัดกินพื้นไม้.เรื่องราคานั้นผมไม่สามารถบอกผู้อ่านได้..เพราะตอนทำงานนั้นไปทำในฐานะคนปูพื้น ก็คนงานนั่นแหละ ! เรื่องเงินจึงเป็นเรื่องระหว่างผู้รับเหมากับเจ้าของงาน..ผู้เขียนต้องขออภัยจริงๆที่ไม่สามารถบอกราคาให้ทราบได้..ช่วงปี ๒๕๐๘ นั้น ผมเรียนจบมัธยมหกแล้ว  และได้ไปสอบเข้าเรียนสายอาชีพตามที่ต่างๆ   แต่ได้มาจบลงที่ รร.จ่าทหารเรือ

 

ต้องรื้อพื้นยางออกก่อน. จึงจะปูไม้ปาเก้ได้.

 ผมจึงมีเวลาว่างประมาณสามเดือนครับ ระหว่างรอเข้ารับการอบรม ที่รร.พลทหาร เกล็ดแก้ว สัตหีบ ชลบุรี.   เพื่อนที่เที่ยวด้วยกันในบ้านพักตำรวจ  มาชวนผมไปทำงานรับจ้าง ปูไม้ปาเก้. ผมจำได้ว่าเราไปทำงานกันแถวๆถนนสุขุมวิท น่าจะเป็นที่ตึกโชคชัย. ค่าตัวผมตอนนั้นวันละ ๑๗ บาท เกินห้าโมงเย็นเป็นโอทีครับ. งานที่ทำ ก็จะเป็นการตัดไม้ วัดพื้นที่ ทำความสะอาดพื้นผิว ทากาวแล้วนำไม้ปาเก้อัดลงไปตามที่กำหนด หมดห้องนี้ก็ย้ายไปห้องโน้น..เวลามีงานทำก็รู้สึกว่าเพลินครับ...เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกินมารู้อีกที ก็ตอนเฒ่าแก่มาถามว่า..จะทำโอทีไหม ?

 

จำไว้เสมอว่า.   - จะเอาเงินเขา..มันต้องทำให้เรียบร้อย.

มีข้าวเย็นเลี้ยงและมีรถส่งกลับถึงบ้านเมื่อเสร็จงาน..ใครจะปฏิเสธได้ลงคอล่ะครับ แม้สมัยนั้นจะยังไม่รู้จักคำว่า“ประกันสังคม” เอาไว้ก่อนครับเพราะอย่างน้อย..ก็เป็นความภูมิใจที่สามารถทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่ได้แล้ว..ผมทำทั้งกลางวันและทำโอทีด้วย..ประมาณสองเดือนครับ ได้เงินมาประมาณแปดร้อยบาทเศษๆ.  ผมนำมาให้แม่หมดเลยครับ ท่านต้องดีใจ สิครับ. น่าเสียดายที่ผมจำไม่ได้ว่า  สมัยนั้นราคาทองคำบาทละเท่าไร ? น่าเสียดายครับงานกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว  และเจ้าของงานก็ประมูลงานปูไม้ปาเก้ได้อีกหลายตึก..เสียดายจริงๆครับ..

 

ถ้าไม่ตั้งใจหรือทำงานชุ่ยๆ  - ต้องกลับมาซ่อมทำใหม่เสมอ.

ผมถูกเรียกเข้ารับการอบรม ในหลักสูตรนักเรียนจ่าทหารเรือ ต้องใช้เวลาอบรมจากพลเรือนให้เป็นทหารประมาณสามเดือนเศษๆที่รร.พลทหาร เกล็ดแก้ว ขณะที่เขียนเรื่องนี้ได้ขยายใหญ่โตขึ้นมาก  มีชื่อว่า ศูนย์ฝึกทหารใหม่. หลังการฝึกแล้วจึงย้ายเพื่อมาเรียนในชั้นปีที่หนึ่ง..ที่รร.ชุมพลทหารเรือ เกล็ดแก้ว.ประมาณ ๑ ปี แล้วมีการฝึกภาคทะเล พอสอบผ่านก็ต้องมาเรียนชั้นปีที่สองที่  รร.จ่านาวิกโยธิน  ที่ศูนย์ฝึกกรมนาวิกโยธิน สัตหีบ ชลบุรี. พอเรียนจบก็ได้รับการประดับยศเป็นจ่าโท..นรจ.นย.๑๑ รุ่นเดียวกับผู้เขียน.เริ่มรับราชการครั้งแรกด้วยเงินเดือนเดือนละ ๗๒๐ บาท ถ้าได้ไปราชการจะเบี้ยเลี้ยงเพิ่มอีก.วันละ ๑๖ บาท.

ประจำที่ พันร.๘ ผส.นย.สงขลา ปี ๒๕๒๘  - ขอลงภาพเก่าอีกครั้ง.

สรุปแล้วผมเริ่มรับราชการในกองทัพเรือ..ตั้งแต่ ๑๔ ก.ย. ๒๕๑๑ จนถึงวาระสุดท้าย..ที่ผมต้องลาออก จากกองทัพเรือ  ใน ๑ ม.ค. ๒๕๔๐  รวมเวลาประมาณยี่สิบเก้าปี  แต่ผมได้วันทวีคูณรวมอายุ  ที่รับราชการจริง เพียง๒๘ ปีเท่านั้น !  จึงออกมาเป็น เงินบำนาญ. หลายท่านคงสงสัยกันน๊ะครับสาเหตุเพราะตอนที่ผมจบออกมานั้นอายุน้อยครับ จึงเสียเปรียบเพราะยังไม่สามารถขึ้นทะเบียนทหารได้  เลยต้องใช้ทะเบียนอาสาไปพรางๆก่อน. ขาดทุนเรื่องอายุราชการสิครับ.  ผมจึงต้องมาทำงานให้หลวงไปแบบฟรีฟรีนั่นเอง ! เอาเถอะครับผมมิได้คิดมากแต่อย่างไร ? และไม่อยากคิดว่ากองทัพเรือให้อะไรผมบ้าง ?

ต้องวัดและตัดอย่างแม่นยำ  จะไม่เสียไม้ไปเปล่าเปล่า.

ถ้าใครอยากถามว่าผมให้อะไร ? กับกองทัพเรือบ้างล่ะก็.ไปหาเอาเองเถอะครับ.อย่างน้อยผมเคยสร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยมาแล้ว ตอนที่ผมไปศึกษาและดูงาน ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครั้งที่สอง. ทางจั๊สแมคมีหนังสือชมเชยมาจากสหรัฐฯว่า..ผมตั้งใจเรียน  และขยันขันแข็งในการปฏิบัติงานตลอดเวลาที่ศึกษา อยู่ที่แค๊มป์เพ็นเดิลตั้น แคลิฟอเนียร์.    USMC. Camp Pendleton , California.ข้าราชการนย.หลายนายบอกผม  เพราะเห็นหนังสือชมเชยฉบับนั้น..แปลกครับ..ผมเองที่เป็นผู้ทำชื่อเสียงแท้ๆ  แต่กลับยังไม่เคยเห็น  หนังสือฉบับดังกล่าวเลย.     

 

ปูเรียบร้อยแล้วต้องติดตั้งใบบัวที่พื้นผนังปาเก้.

ช่างเถอะครับ พอผมรู้ว่าเขาชมเชยมาผมก็พอใจแล้วครับ. เคยได้ยินบ้างไหม ? ที่เขามักจะพูดกันเสมอๆว่าการทำความดีคือการปิดทองหลังพระ..ผมอยากขอเชิญพระดำรัสของพ่อหลวงของเรา มาเขียน ณ ที่นี้ว่า.พระองค์เคยตรัสว่า.. “ ถ้าทุกคนรวมกันไปปิดทองด้านหน้าเพียงอย่างเดียว มองแล้วคงจะไม่สวยงามจึงต้อง มีคนมาปิดทองที่หลังพระกันบ้าง..จะได้ดูแล้วสวยงามทั้งองค์พระ    ปูไม้ปาเก้เสร็จว่าจะรีบไปปิดทองเสียหน่อย อ้าว ! สามทุ่มเศษๆ..ร้านทองปิดเสียแล้ว..คงต้องผลัดไปงวดหน้าเสียแล้วครับ.

สวัสดีครับ.

โตนี่ - ฟาง.

๒๐ มิ.ย. ๒๕๕๕

 

หมายเลขบันทึก: 491747เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 09:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 10:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท