ผมเขียนเรื่องราวของ Well-being ของพนักงานไป ก็มีผู้อ่านเขียนอีเมล์เข้ามาสอบถามกันว่า แล้วเป็นหน้าที่ของใครที่จะต้องสร้างและทำให้พนักงานรู้สึกถึงความผาสุกในการทำงานกับองค์กร เป็นหน้าที่ของผู้บริหาร ฝ่ายบุคคล หรือหัวหน้างาน หรือแม้แต่พนักงานเอง
ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมากมายครับ ไม่แตกต่างกับประเด็นอื่นๆ ในการบริหารทรัพยากรบุคคลเลย พอองค์กรเริ่มเอาแนวคิดเรื่องของการทำให้พนักงานรู้สึกมีความเป็นอยู่ที่ดี และเกิดความผาสุขในการทำงาน ก็เริ่มมีเสียงสอบถามกันมามากกว่า แล้วสิ่งเหล่านี้ เป็นหน้าที่ของใครกันแน่ ต่างฝ่ายต่างก็โยนกันไปมา ว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่หน้าที่ของตนเอง เราลองมานั่งนึก นั่งคิดกันดีๆ สิครับ ว่าถ้าเราอยากให้พนักงาน (ซึ่งก็คือตัวเราเองด้วย) มีความสุขในการทำงาน มีความรู้สึกที่ดีในการทำงานกับองค์กร สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของใครกันแน่
แล้วตกลงคำตอบไหนน่าจะดีที่สุดครับ???ลองมานั่งวิเคราะห์กันใหม่ ในประเด็นของ well-being ซึ่งมีอยู่ 5 ด้านใหญ่ๆ ก็คือ
การที่จะสร้างทั้ง 5 ด้านให้เกิดขึ้นกับพนักงานทุกคนในองค์กร มันไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งแล้วครับ สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ทุกระดับ และรวมถึงพนักงานทุกด้วย กล่าวคือ ถ้าเราอยากให้พนักงานมีความสุขในการทำงานกับองค์กรจริงๆ สิ่งแรกที่จะต้องเริ่มก็คือ ผู้บริหารระดับสูงจะต้องกำหนดนโยบายนี้ให้ชัดเจน และฝ่ายบุคคลก็ต้องนำนโยบายนี้ไปสร้างระบบการทำงานขึ้นมา และจากนั้น ผู้บริหารและหัวหน้างานทุกระดับ จะต้องปฏิบัติตนตามระบบที่ได้วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้พนักงานเกิดความรู้สึกที่ดีในการทำงานนั่นเอง
ลองดูตัวแรกก็ได้นะครับ การที่เราจะสร้างอารมณ์เชิงบวกในการทำงาน จริงๆ แล้วเราสามารถสร้างได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว แต่ถ้าทุกๆ วัน พนักงานเข้ามาเจอกับหัวหน้างานที่มีแต่อารมณ์เชิงลบ ดุด่าว่ากล่าวอย่างรุนแรง ใช้คำพูดที่ไม่ไว้หน้าพนักงานเลย ถ้าหัวหน้าหรือผู้จัดการส่วนใหญ่ในองค์กรเป็นแบบนี้ ถึงเราจะมีนโยบายจากฝ่ายบุคคลที่ดีเลิศสักแค่ไหน พนักงานก็ไม่มีความสุข และไม่มีอารมณ์เชิงบวกในการทำงานได้อย่างแน่นอนครับ
ผมมองว่าถ้าอยากจะให้เกิดความสุขในการทำงาน พนักงานทุกคนจะต้องมีความสุข หัวหน้าจะต้องสร้างความสุขในตัวเองให้ได้ จากนั้นก็ส่งต่อความสุขนั้นไปยังพนักงานในทุกระดับ เมื่อพนักงานมีความสุข ก็จะส่งความสุขนั้นกลับมายังหัวหน้า ก็จะส่งไปส่งมาแบบนี้ well-being ก็จะเกิดขึ้นได้จริงครับ
สิ่งเหล่านี้อยู่ที่จิตสำนึกของพนักงานทุกคนจริงๆ นะครับ อย่าไปลงทุนลงแรงทำระบบอะไรที่มันเลิศมาก แต่ไม่ลงทุนกับการสร้างคนที่จะใช้ระบบเลยนะครับ บางองค์กรมีพร้อมหมดเลยนะครับ เช่น ฟิตเนส อาหารฟรี มีที่พักผ่อนหย่อนใจ เพราะผู้บริหารเชื่อในสิ่งที่จับต้องได้ ก็เลยสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา แต่กลับไม่ได้สร้างจิตใจของพนักงานให้ดีขึ้น สุดท้ายก็ไปติดที่เรื่องของการปฏิบัติต่อกันด้วยความไม่ให้เกียรติกันมากกว่า พนักงานเองก็บ่นอุบเลยว่าทำงานไม่เห็นจะมีความสุขเลย ทั้งๆ ที่สภาพแวดล้อมที่สร้างมานั้นคนนอกมองเข้ามาแล้วต่างก็พากันอิจฉาด้วยซ้ำไป ก็ขอให้อย่าเป็นการสร้าง Well-being ในแบบนี้เลยนะครับ
ไม่มีความเห็น