กรรมอันเกิดจาก การฆ่าสัตว์
คุณ พ่อผมเป็นเด็กผู้ชายที่ค่อนข้างซนมาก โกงมาก ชอบเอาชนะ อีโก้สูง ทำอะไรต้องทำให้ได้บ้านท่านอยู่ติดม่น้ำ สะแกกรังช่วง อ.สว่างอารมย์ ติดเขาหลวง พื้นที่ป่าห่างจากถนนลาดยาง เส้นสว่างอารมย์-ลาดยาว เข้าไป ๔ กม.กว่า
แน่นอนครับชีวิตลูกทุ่งของแท้ดั่งเดิม ยิงนก ตก ปลา ฆ่าสัตว์ เป็นอาหารมันเป็นเรื่องที่ต้องทำ ไม่เหมือนผมเองที่เกิดมาก็ หมู ไก่ ปลา มานอนตายให้กินอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่นั้นก็ยังไม่เท่ากรรมที่ท่านทำกับนก
เมื่อพ่อผมโตก็มาบวชกับ หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว อ.พยุหะคีรี แล้วก็ไปต่อ...โรงเรียน ม. ผมจำไม่ได้ จบแล้ว ท่านก็สอบเข้า ปวช.โรงเรียนเพาะช่างได้ หลักสูตรอะไรเรียกไม่ถูกครับ แปลได้ว่า เขียนเบื้องต้น หรือวิชาชีพเขียน อะไรทำนองนี้
เรื่องมันเมื่อ ๕๐ ปีที่แล้วจำบ่ได้ เอาเป็นว่าพ่อผมเรียนทัน ชายเมืองสิงห์ และกันครับ พ่อบอกว่า ชายเมืองสิงห์เรียนเพาะช่าง แต่ดังซะก่อนเลยลาออกไปร้องเพลง ต่อมาท่านก็ขึ้น ปวส. นั้นไงว่าแล้วคนพันธุ์ R อาชีวะอยู่ในสายเลือดนี่เองแกก็จบเพาะช่าง ปัจจุบันเขาเปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาเขตเพาะช่าง แล้วหรือไงนี่หละครับ พอจบ ปวส.พ่อผมก็ได้บรรจุเป็นอาจารย์เลย อาจารย์ศิลปะ สอนได้พักหนึง
ท่านก็ลาศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยศรี นครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เมื่อก่อนไม่ได้ช้ชื่อนี้ แกจบ ปม.เขียน ประโยควิชาชีพครูมัธยม หรือไงนีหละครับ
นี่หละเพราะความเก่งของแกในเรื่องของงานศิลปะ ทำให้พ่อได้มีโอกาส สร้างวัด แกะสลักพระพุทธรูป ลงรักปิดทองพระพุทธรูป หน้าบรรณโบสถ์ ฯลฯ นี่หละครับ บาปและบุญของพ่อ มาอย่างละเท่าๆกัน
บาปก็มาก บุญก็เยอะ แต่มันลบกันไม่ได้
น้ำที่มีเชื้อโรคเย็นชื่นใจ กลืนลงไปก็ดับกระหายได้ อิ่มได้ แต่เชื้อโรคในน้ำแก้วนั้นก็ยังคงให้ผลท้องร่วง เจ็บป่วยอยู่ดี
เมื่อพ่อผมมาบรรจุเป็นครูที่ โรงเรียนอุทัยทวีเวทย์(อทว.) แกก็เริ่มสตาร์ทฟันเฟืองของนักดื่มตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เหล้า บุหรี่ กีฬาบัตร ครบเครื่องลูกผู้ชายสมัยนั้นครับ ประมาณปี ๒๕๐๕
แต่แกสอนผมตลอดว่า พ่อกินเหล้า เมายา ตอนที่มีเงินเดือนกินแล้วนะ เข้าใจครับอารมย์ศิลปิน จะให้เงินแกมากเท่าไหร่ เร่งแกให้ทำ ส่งๆไปให้เสร็จแกไม่ทำครับ เดินหนีเลย
ทีนี้คนหนุ่มกินเหล้าอย่างเดียวได้ไหมครับ ต้องมีกับแก้ม สมัยนั้นตกเย็นสอนเสร็จ ก็แบกปืนเรมิงตั่นคู่ใจ ไปกับเพือนครูด้วยกันคนหนึ่ง และบางทีก็มีหลาน หรือลูกศิษย์ไปด้วย(หน่วยเก็บศพ...นก)ยิงเสร็จก็แก้มเหล้า
นกนานาชนิดผ่านหน้าพ่อผมเป็นยิง ชะตาขาดทุกตัว เพือนครูแกก็ใช่น้อย ยิงด้วยกันกินด้วยกัน แกเป็นครูพละครับ หุ่นดีสูงใหญ่พ่อผมตัวนิดเดียว ที่ยิงนกของแกคนอุทัยธานี รู้จักกันดี ในนาม "หนองผีเผา"
แค่ชื่อผมก็ร้องแล้วครับ ตั้งไปได้ หนองผีเผา พ่อเล่าว่าเมื่อก่อนเขายิงนักโทษกันแถวๆนั้น แล้วก็ข้ามฝั่งไปเผาบริเวณนั้น เขาเลยเรียกกันว่าหนองผีเผา ปัจจุบัน อบต.เขาทำเป็นสวนสาธารณะออกกำลังกาย
แต่ไปคนเดียวไม่ดีแน่ครับ บรรยกาศที่นั้น ป๋องก็ป๋องครับ อยู่ไม่ไหวเหมือนกัน อากาศเย็น เงียบ ชื้น เสียงแมลง นกร้องดังน่าขนลุก ผมไม่ได้ถามว่าพ่อยิงนกอยู่กี่ปี แต่คิดว่าตั้งแต่เป็นครู อทว.จนมาเจอแม่ผมนี่หละ ช่วงโสด ผมว่าหลายร้อยตัวครับที่แกยิง และแล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ
วันหนึงพ่อผมและเพื่อนครูคนนั้นก็ไปยิงนกกันอีก มีเด็กนักเรียนไปด้วย ก็ยิงได้นกก็ดิ้นรนเข้าหนองน้ำไป เด็ก หรือผมเรียกว่าหน่วยเก็บศพ ก็กระโจนลงไปเอานกตัวนั้น ขี้เลน และอินทรียวัตถุ ที่ทับถมกันเป็นฝาบนผิวน้ำ ชายๆตะลิ่ง ชาวบ้านเขาเรียกว่า ขี้หลุด ในหนังเรียกว่าโคลนดูด
เด็กก็ลงไปแล้วติดจะจมน้ำ เพื่อนครูของพ่อก็ลงไปช่วยครูพละสมัยนั้นตัวเล็กๆที่ไหนครับ ว่ายน้ำ มวยไทย แกเก่งครับ เรื่องช่วยเด็กตกน้ำไม่น่ายาก แต่ความที่มันไม่ใช่สระน้ำในสวนสยามครับ
โคลนที่ดูด เศษอินทรียวัตถุ น้ำในหนองที่เย็นเจี๊ยบ เวลาเย็น ประกอบกับเด็กหนุ่มรุ่นๆที่กำลังไขว่ขว้าหาที่ยึด เพื่อหนีมือของพญามัจจุราชให้ได้ ยากครับ
ครูลงไปถึงเด็กคนนั้น พ่อผมวิ่งตามคนมาช่วย เพราะแกช่วยไม่ได้ พ่อผมแค่ไหล่ครูคนนั้นเอง กลับมาชาวบ้านก็นำทั้งสองขึ้นมาจากน้ำ ทั้งคู่กอดกันแน่น และเสียชีวิตใต้หนองน้ำนั้นเอง
เหตุการนี้เองที่ทำให้พ่อผม เลิกยิงนก และไม่ไปที่หนองน้ำนั้นอีก ติดตาครับ ถ้าแกลงไปอีกคน ก็ ๓ ศพ ครับ ชัวร์เลย เห็นไหมครับ ศีล ๕ ข้อแรก
หนักนะครับอย่าดูเบา
นี้ยังไม่เข้าครึ่งเรื่องของทั้งหมดเลยครับ มีอีก พระเอกของเรื่องยังไม่ได้แต่งงาน อิอิ อิอิ ผมผู้พิมพ์ ผิดๆถูกให้ท่านอ่าน ยังไม่เกิด ยังไม่ได้รับสถานะความเป็น มนุษย์
พ่อแต่งงาน ปี ๒๕๑๘ พี่คนโต เกิด ๒๕๑๙ กลาง ๒๕๒๓ ผมเอง ๒๕๒๔ พ่อมีผมตอนอายุ ๔๑ แล้ว
แก่นะ จะเตะฟุตบอลกับพ่อ พ่อก็ ๕๐ ไปแล้ว แต่ดีครับทันแทงสนุกเกอร์ ด้วยกันครับ เชื่อไหมครับผม ๒๐ พ่อ ๖๐ ผมไม่เคยได้แกสักเฟรมเลย รู้ทีหลังเมื่อตอนหนุ่มๆ แกเป็นแชมป์ สโมสรข้าราชการ แก่แล้วยังเก่งอ่ะ เมายังไงก็แม่น รีบส่งฝนมาเขียวเลยครับ
พอกันทียาสูบ
พ่อ พูดกับผมบ่อยๆว่า เหล้า ยา พ่อจะเลิกตอนปลดเกษียญอายุราชการ ป่ะแล้วกันสั่งได้หรือของงี้ เมื่อก่อนแกดูด สามิต ๑๔ เดียวนี้ไม่มีแล้วมั้งครับ เหล้าก็ แม่โขง หงษ์ทอง แสงทิพย์ สิงห์ ช้าง ลีโอสุดท้าย น่าจะตามซี ตามเงินเดือนแกนะ
เมื่อปี ๒๕๓๖ พ่อไอมากหมอตรวจเจอจุดดำๆในปอด หมอถามว่าเลิกได้ไหม พ่อถามว่ามันเป็นยังไงหรือหมอ ก็ที่เราๆทราบครับว่า จุดดำในปอดนั้นคือ อาการเบื้องต้นของคนที่จะเป็น มะเร็งปอด หมอถามว่าลูกอายุเท่าไร่ พ่อนึกถึงผมแล้วบอกว่า ๑๐ ขวบ
หมอบอกว่าสูบต่อ ไม่ได้เห็นลูกคนนี้รับปริญญาแน่
แกเป็นคนใจเด็ดอยู่แล้วครับ กลับ มาจาก รพ.แกเลิกบุหรี่เลย สนิทครับ เหมือนตัดสวิทย์ไฟยังไง ยังงั้นครับ ไม่มีเลยทิ้งไม่สูบอีก
แกวาดรูปไปก็ดูดดินสอไป ดูดปากกาไป
และการเลิกบุหรี่ของแกก็คือจุดเริ่มต้นของ โรคใหม่ เบาหวานนัยเวลาต่อมา
แกเคี้ยวหมากฝรั่งครอเร็ท ชิกเคร็ททุกวัน วันละหลายกล่อง ฮอร์น โอเล่ เอาหมดติดลูกอมเลย ผมได้อานิสงด้วยเลย มีขนมลูกอมกินโดยไม่ต้องซื้อ แต่ เหล้าเหมือนเดิมครับ งานนี้ จากเหล้าเป็นเบียร์แทน วันหนึ่ง 8 ขวด เป็นอย่างน้อยเที่ยง๑ถึง๒ขวด กลับบ้าน ๖ เป็นอย่างน้อย
ไม่โม้ครับ คนขายเหล้าให้พ่อผม
ส่งลูกเรียนหมอได้ครับ เป็นอาจารย์หมอด้วย
พยาบาล คน กำไรครับน้ำเมา
อาชีพ ๕ อย่าง ที่พระพุทธเจ้าห้ามทำคือ ค้าอาวุธ ค้ายาพิษ ค้ามนุษย์ ค้าชีวิต ค้าน้ำเมา
แกกินเยอะจริงๆ เมื่อเข้าอายุ ๕๕ แกก็เป็นเก๊าท์ ปวดในข้อเท้า เดินไม่ได้ หักขานกไว้มาก ยัง มันยังไม่จบง่ายๆครับ
กรรม เวรกรรมให้ผลเรานานครับมีรถขันแรก ซื้อต่อญาติกันมา เป็นรถเฟียร์ ๑๘๐๐ ซีซี ซื้อมา ๓ เดือนเมาแล้วขับครับ ผมอยู่ ป.๕ ขึ้นรถรับส่งไปโรงเรียนทุกวัน วันนั้นพ่อมารับที่ โรงเรียน อยู่บนรถรับส่งแล้วนะครับ เห็นพ่อมารับดีใจกระโดดลงรถ ไปหาพ่อ
แม่พูดกับผมทุกวัน ถ้าพ่อเมาอย่านั่งรถกับพ่อ แม่บอกพ่อด้วย ถ้าเมาอย่าไปรับลูก พูดทุกวัน วันนั้นเห็นพ่ออุตส่าห์มารับ...จะร้องไห้ ก็ขึ้นรถมากับพ่อ ออกจากโรงเรียนผม เข้าวงเวียนพระนารายณ์ แกกะจะเอารั่ววงเวียนแล้วครับแกรู้ตัวหักออกวงเวียนได้ จากวงเวียน เสาไฟเกาะกลาง ต้นที่ ๔ ชนิด ส่อง ๒ ทาง ๒ เรนถนน
ช่วงวินาทีมันเร็วมาก ยำยำช้างน้อย ยังคาปากผมอยู่เลย เหมือนภาพมันสั่นๆ แผ่นดินมันไหว แป๊ปเดียวครับ จุกหายจัยไม่ออก งง มึนเหมือนคนตื่นนอนใหม่ๆ มองดูพ่อแว่นแกก็หลุด ที่ข้อมือขวาแกใส่เลทนามสกุลอยู่ ก็บาดแขนแกข้อมือ
บริเวณ หลังมือเป็นแผลใหญ่ เห็นเนื้อ ไขมัน กระดูกอย่างชัดเจน ผมเองเอามือคล่ำหัวตัวเองแบบ งงๆ เลือดเต็มมือเลยครับ แดงอาบปกคอเสื้อนักเรียนเลย เหม็นคาวมาก เลือดผม เลือดพ่อไหลแข่งกันเลย
กระจกหน้ารถไม่มี พวงมาลัยรถกับเสาไฟฟ้าจูบกันแนบชิด หน้ารถยุบมาถึงคนขับ คนมาช่วย ร้องบอกกันว่า
ตายไหม ตายไหม
น้าที่รู้จักผ่านมาพอดี นำพ่อไปโรงพยาบาล ครูที่โรงเรียนผมท่านขับรถส่งเด็กด้วย ผ่านมาพอดีก็นำผมส่งโรงพยาบาล พอเย็บหัวเสร็จ แม่ก็มาถึง โรงพยาบาลผมโผกอดแม่แล้วร้องไห้บอกว่า "แม่อย่าตีหนูนะ หนูจะไม่ขึ้นรถพ่ออีกแล้ว"
พ่อเองอยู่ในห้องฉุกเฉิน เมามากหมอมัดไว้กับเตียง แต่วินาทีที่ชนเสาไฟฟ้า พ่อหันหน้ามาหาผมแล้วพูดว่า "หนูไม่เป็นไรใช่ไหม" ผมพยักหน้า พ่อก็ประงึกหน้า แล้วด้วยภาษาเด็กก็ร้องไห้กลัวพ่อจะตาย
ผลคือเอ็นมือขวาพ่อขาดหมด จากแผลเลทบาด ชนตอน ๑๖.๔๕ น.
ต้องผ่าตัดต่อเอ็น ๕ ทุ่ม รอปริมาณแอลกอฮอร์ในเลือดลดลง
หมอเก่งครับ ชมเลย
เข้าเฝือกอยู่หลายเดือนในท่ารำไทย ผ่าเฝือกออกก็ทำกายภาพบำบัดอีก หลายเดือน ผมเรียกว่าหม้อก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ พ่อจะเอาแขนจุ่มลงในหม้อน้ำอุ่น ที่มีอะไรสักอย่างเหมือนแป้ง จับอยู่ที่แขนพ่อดูเหมือนเส้นใหญ่ไม่ได้หั่น
นี่ก็เกิดจากการฆ่าสัตว์ครับ เศษนะครับเศษกรรม
ยัง มีอีกตราบใดไม่เลิกเหล้าต้องมีภาคต่อครับ แล้วก็อีกหลายๆครั้งครับ อุบัติเหตุทั้งนั้นครับ เป็น ๑๐ เลือดตกยางออกทั้งสิ้น ครอบครัวเป็นยังไงครับ ลูก ๓ คนกำลังเรียน รถก็ส่ง บ้านก็ส่ง
แม่ผมนี่ยอดมนุษย์อุลตร้าแมนเรียกพี่ครับ แกอึดมาก ไม่หย่าเพื่อลูก ไม่มีกิ๊กใหม่ เก็บเงิน คอนโทรนเรื่องในบ้านเป็นอย่างดี ถ้าเป็นสมัยนี้นะครับ
ผู้หญิงคงหนีพ่อตั้งแต่ปั่นจักรยานตกแพ ลงแม่น้ำสะแกกังไปแล้วครับ
เมาอีกนั้นหละเรื่องนี้ดังทั้งจังหวัดนัยสมัยนั้น ครูหนุ่มขี่จักรยานฮัมเบอร์ใหม่เอี่ยม คันเดียวนัยโรงเรียนแกว่างั้นครับ เกิดไม่ทัน ปั่นยังไงตกแพหน้า วัดโบสถ์ ริมแม่น้ำสะแกกรัง เรื่องทำประการังเทียมเขาได้ไกท์รายมาจากพ่อผมเองครับ ฮัมเบอร์ทำปะการังเทียม งมไม่เจอด้วยครับ น้ำคงแรง
ในยามที่ชีวิตแกลำบากมาก จะตายไม่ตาย ก็เหมือนบุญมาหนุนช่วยแกไว้ครับ เห็นได้ชัดครับ บาปก็ให้ผลของมันไป
บุญก็มาช่วยหนุนชีวิตให้ดีขึ้น ความที่ พ่อเป็นครูที่จบเพาะช่าง คนเดียวในจังหวัดสมัยนั้น
ทำให้แกเนื้อหอมมากทำป้ายร้าน ขึ้นป้ายโฆษณา รับไม่ไหว ที่อุทัยธานี มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธฺ์องค์หนึ่งคู่บ้านคู่เมืองอุทัยเลยก็ว่าได้ อยู่ที่วัดสังกัจฯ เชิงเขาสะแกกรัง วิหารหลวงพ่อพระพุทธมงคลบพิตร เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองชองชาวอุทัยธานี
พ่อแกออกแบบตัวหนังสือ นั่งร้านขึ้นไปเขียนชื่อวิหาร แล้วจึงให้ช่างปูนมาปันปูนใส่ แล้วแกก็ลงรักปิดทองอีกที วิหารหลังเก่าปัจจุบันเขาทำใหม่ใหญ่โตกว่าเก่าเยอะครับ แล้วก็โบสถ์หลังเก่าของวัดสังกัจฯแกก็ทำแต่ผมไม่รู้คุณค่าเลยไม่ด้ถามแก่ว่า แกทำอะไรตรงไหน แต่แม่เล่าว่าที่โบสถ์วัดสังกัจฯนี้แรงมาก
พ่อทำเสร็จก็ร่วงจากนั่งร้านลงมาแล้วก็เพ้อ เหมือนคนขวัญหายครับ ญาติทางพ่อ พี่สาวต้องไปจุดธูปเทียน ขอขมาอโหสิกรรมแทนพ่อที่ไม่ได้สติ ปรากฏว่าหายครับ
เสียดายแกไม่อยู่ให้ถามแล้วครับ คุณพ่อผมเสีย อายุ ๗๒ ย่าง ไครบอกว่าอายุยังน้อยอยู่เลย น่าอยู่ได้มากกว่านี้
ผมเถียงใจขาดครับ
ในวงเดียวกันไม่ทันเกษียญตายไปเยอะครับ รุ่นเดียวกัน เพียวๆน้ำเย็นตบตูดแบบนี้แกตายหลังเขาเลย
แต่ดูเอาครับ เมามาทั้งชีวิต อุบัติเหตุนับไม่ถ้วนแกไม่ตายด้วยอุบัติเหตุครับ เลือดตกยางออกมันเป็นน้ำจิ้ม
นี่หละครับยิง นกฆ่าสัตว์อย่างเดียวเลย แล้วไม่ได้ทำตลอดชีวิตด้วยครับ แค่วัยหนุ่มโสดแล้วก็เลิก
แต่หลายชีวิตครับ กว่าเขาจะขาดจัยตายด้วยมือเรามันนานแค่ไหน ถ้าเราถูกหักแขนขาหมกป่า ไปไหนไม่ได้ กว่าเราจะอดตาย หรือกว่าแพลจะติดเชื้อขาดใจตาย มันทรมานขนาดไหนครับ ปลาที่ทุบหัวแล้วดิ้นรน จนกว่าจะตายท่านคิดว่าเขาปวดหัวมากไหม เป็นเราเราจะสาบแช่งคนที่ทำกับเราอย่างนี้ยังไง จิตเราอาฆาตเขาไหม
เพ่งโทษเขาไหม อยากเอาคืนไหมเหมือนกันครับ
ให้กำลังใจ อนุโมทนาบุญ
กับเจ้าของบันทึกได้ที่