เมื่อโลกเป็นหนี้บุญคุณชายรักร่วมเพศ


หลายวันที่ผ่านมาผมได้แลกเปลี่ยนความเห็นอย่างสนุกสนานเกี่ยวกับกรณี Lady Gaga ในบันทึก นักเรียน ป.6 กับ Lady Gaga ครับ

เรื่องนี้กระตุกต่อมคิด ทำให้ผมเองมานั่งนึกว่าทำไมตัวเองมีอคติกับ Lady Gaga นัก คิดไปคิดมาก็ได้คำตอบที่น่าสนใจที่น่าจะแลกเปลี่ยนครับ

Lady Gaga มีแฟนเพลงเป็นกลุ่มรักร่วมเพศเป็นกลุ่มหลัก โดยการแสดงของเธอพยายามสื่อสารถึงการแสดงออกแบบสุดขั้วของกลุ่มรักร่วมเพศ หรือกลุ่ม Gay, Lesbian, Bisexual, and Transgender (GLBT)

ผมคิดว่าการพยายามเป็นตัวแทนของการแสดงออกแบบสุดขั้วของกลุ่มรักร่วมเพศนั้นเป็นการตอกย้ำภาพพจน์ในด้านลบของคนในกลุ่มนี้ให้แก่สังคม ยิ่งกว่านั้นกลุ่มเยาวชนที่อยู่ในกลุ่มนี้ที่มอง Lady Gaga เป็นต้นแบบแล้วทำตัวตามนั้นยิ่งเป็นการยอมรับถึงภาพด้านลบและแสดงให้ชัดเจนรุนแรงมากขึ้นเข้าไปอีก

ผมเองกลับมองว่าการแสดงออกแบบสุดขั้ว หรือที่อาจจะเรียกด้วยภาษาไทยที่ไม่สุภาพว่า “แรด” นั้น ไม่ใช่ภาพที่ถูกต้องของกลุ่มรักร่วมเพศ สังคมที่มองว่ากลุ่มรักร่วมเพศต้อง “บ้าผู้ชาย” (หรือ “บ้าผู้หญิง” ในกรณีหญิงรักหญิง) หรือต้องแสดงตัวแปลกๆ ทั้งคำพูดและการกระทำผิดจากการเป็นสุภาพชนนั้นเป็นสังคมที่มองเห็นเพียงมุมเดียวของคนกลุ่มนี้ ทำให้เกิดทัศนคติมองว่าคนกลุ่มนี้น่ารังเกียจ ป่วย เป็นปัญหา และต้องกำจัดออกจากสังคม ซึ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่โตซับซ้อนทั้งๆ ที่ไม่ใช่เป็นเรื่องอะไรเลย

ผมเชื่อว่า ความชอบทางเพศ (sexual orientation) ของคนแต่ละคนนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการที่คนนั้นจะเป็นคนดีหรือคนเลว เพราะความชอบทางเพศเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างยิ่งของแต่ละบุคคล ยกเว้นเสียแต่ว่าความชอบนั้นจะเป็นรูปแบบที่เป็นปัญหากระทบต่อคนอื่นจริงๆ อาทิเช่น ชอบร่วมเพศกับเด็ก เป็นต้น

ผมเองมีความเห็นใจกลุ่มรักร่วมเพศอย่างยิ่ง เพราะผมมีบุคคลที่ผมรู้จักที่อยู่ในกลุ่มรักร่วมเพศหลายท่าน รวมทั้งเพื่อนฝูงที่เป็นคนดีและน่านับถือมาก คนที่ผมรู้จักล้วนเป็นกำลังที่สำคัญให้แก่สังคมทั้งสิ้น ไม่ได้มีพฤติกรรมแปลกๆ หรือทำตัวอย่างที่สังคม “ติดป้าย” (label) ว่าบุคคลเช่นนี้ต้องทำเช่นนั้นเลย

ยิ่งกว่านั้นในบางประเทศมีบุคคลสำคัญที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองและเป็นบุคคลที่ผู้คนเคารพอย่างมาก แต่ผู้คนก็ยังไปสงสัยในเรื่องส่วนตัวของท่าน ผมเองเวลาเห็นการโจมตีทางการเมืองโดยพาดพิงถึงเรื่อง sexual orientation แล้วไม่จะชอบ และผมจะไม่เชื่อคนที่โจมตีเช่นนั้นทันทีครับ

มีอีกเรื่องที่ผมไม่ชอบเวลาคนโจมตีกันทางการเมือง คือเอาเรื่องลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้ามาเล่นให้กลายเป็นประเด็น (อย่างที่เราเห็นการสาดโคลนกันในการเมืองไทย) การกระทำเช่นนี้น่าประนามเป็นอย่างยิ่งเพราะไม่ได้มีความเคารพต่อสถาบันครอบครัวเลย

ในเรื่องบุคคลรักร่วมเพศนั้น สิ่งที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบคือโลกนี้เป็นหนี้บุญคุณของชายรักร่วมเพศอย่างมหาศาล ผมจะเล่าถึงคนคนหนึ่งที่ตัวเขาเองกลับถูกสังคมกระทำอย่างทารุณจนต้องฆ่าตัวตายไปในที่สุด

คนที่จะเล่าเรื่องนี้ได้ต้องเป็นนักวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Scientist) อย่างผม เพราะไม่มีนักวิทยาการคอมพิวเตอร์คนไหนไม่รู้จัก Alan Turing ครับ

Alan Turing กล่าวได้ว่าเป็น “บิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์” เพราะสิ่งแรกที่นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ต้องเรียน (ในระดับบัณฑิตศึกษา) คือ Turing machine ซึ่งเป็น mathematical model ในการอธิบายการทำงานของหน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ กล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์ที่เราใช้ทุกเครื่อง ตั้งแต่เครื่องเล็กๆ ในฝ่ามือเพื่อประมวลผลงานนิดๆ หน่อยๆ จนถึงเครื่องใหญ่ๆ เพื่อประมวลผลงานสำคัญล้วนแล้วแต่เป็น Turing machine ทั้งสิ้น

แม้ว่าเขาจะเป็นนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของอังกฤษ แต่หลังจากถูกพบว่าเขาเป็นชายรักร่วมเพศ Alan Turing ถูก “รักษา” ด้วยวิธีการต่างๆ จนในที่สุดเขาก็จบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตาย

ในปี 2009 ที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษยินยอมที่จะขอโทษอย่างเป็นทางการถึงการกระทำที่ไม่เป็นธรรมแก่เขาครับ ผมจำได้ว่าเป็นช่วงที่นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ดีใจกันมาก เพราะการขอโทษเกิดขึ้นเพราะการรณรงค์ของเหล่านักวิทยาการคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครับ

Alan Turing เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่ได้เป็นปัญหาสังคมในเชิงพฤติกรรมอย่างไรเลย สะท้อนให้เห็นว่าโลกนี้มีภาพด้านลบต่อบุคคลรักร่วมเพศมาแต่โบราณ ในประเทศที่เรียกตัวเองว่าเจริญแล้วเรื่องความเท่าเทียมทางสังคมอย่างอังกฤษก็ไม่ได้มีประวัติศาสตร์ในด้านนี้ที่น่ายกย่องอะไรเลย

ที่จริงแล้วประเทศอังกฤษยังมีบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่ง เธอคือ Sophie Wilson (เดิมชื่อ Roger Wilson) ผู้ออกแบบ ARM architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมของไมโครโปรเซสเซอร์ที่อยู่ในอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือทั้งที่เป็น Android และ iOS (iPhone, iPad) รวมถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

เรื่องนี้เป็นเรื่องตบมือสองข้าง คือจากตัวบุคคลรักร่วมเพศเอง กับตัวสังคมภายนอก ถ้าภาพพจน์ด้านลบของบุคคลรักร่วมเพศยังถูกประชาสัมพันธ์และใช้เป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์ทางธุรกิจกันเช่นนี้ต่อไป โอกาสที่รักร่วมเพศเป็นเรื่องปกติของสังคมก็เป็นได้ยาก

ทดลองสักตัวอย่างครับ

ผมทราบมาว่ามีพระรูปหนึ่งก่อนบวชเป็นชายรักร่วมเพศ

อ่านประโยคข้างต้นนี้แล้วคิดอย่างไรครับ คิดก่อนนะครับ อย่างพึ่งอ่านต่อ

ผมเชื่อว่าคนทั่วไปต้องคิดถึงด้านลบก่อนแน่นอน “ศาสนาเสื่อม” น่าจะเป็นคำแรกๆ ที่ได้ยิน พระรูปนี้คงสร้างปัญหามากมายให้แก่วัดที่บวช เป็นปัญหาของสังคมอีกแล้ว

ผิดครับ พระรูปนี้เป็นพระที่สังคมให้การเคารพมาก เป็นพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง

ทำให้ผมได้คิดว่า ชายรักร่วมเพศกลุ่ม transgender นั้น “มีบุญที่กรรมบัง” เพราะเขามีโอกาส “แปลงเพศ” โดยถ้าแปลงไปหาทุกข์คือแปลงเพศไปเป็นผู้หญิง แต่ถ้าแปลงไปหาสุขคือแปลงเพศไปเป็น “เพศบรรพชิต” ซึ่งคือบุญที่เขามีเหนือกว่าการได้เกิดมาเป็นผู้หญิงเสียอีก เพราะในศาสนาพุทธนิกายเถรวาทของไทยนั้น ผู้หญิงบวชเป็นพระไม่ได้

แล้วพระในเพศบรรพชิตที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบนั้น ไม่มีใครถามว่าก่อนบวชมาก่อน sexual orientation เป็นอย่างไร เพราะถ้าเราจะยึดติดกับสิ่งที่พระทำก่อนบวช โลกนี้คงไม่มีพระดีสักรูป และพระองคุลีมาลคงยังต้องเป็นโจรอยู่ตลอดชีวิต

แต่ก็เช่นเดียวกับพระองคุลีมาลที่โดยปาก้อนหินเมื่อออกบิณฑบาต ชายรักร่วมเพศที่ดำเนินชีวิตดีน่ายกย่องก็ยังถูกมองในแง่ลบด้วยภาพของพฤติกรรมด้านลบของชายรักร่วมเพศที่สื่อมวลชนและองค์กรธุรกิจใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้

ตัวอย่างเช่น ผมอ่านบทสัมภาษณ์ของ Lady Gaga ว่าเธอต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มหลายคน เพราะเธอมักพาชายอื่นหรือหญิงอื่นมา “threesome” (มีเพศสัมพันธ์กันสามคน) จนแฟนหนุ่มเหล่านั้นทนไม่ได้ (เสียดายหาลิงก์ไม่เจอเสียแล้ว และขี้เกียจหาใหม่)

ผมไม่รู้ว่าบทสัมภาษณ์นี้เป็น “สคริปต์” จากค่ายเพลงหรือเป็นจริงมาจากตัวเธอเอง (ดารานักร้องหลายคนหลังจากไม่ดังแล้วและได้กลับมาเป็นตัวตนของตัวเองจริงๆ ปรากฎว่าไม่ได้เป็นตาม “สคริปต์” ที่มีสมัยโด่งดัง)

แต่ไม่ว่าจะเป็นสคริปต์หรือความจริงก็ตาม การใช้ภาพด้านลบมาเป็นเครื่องมือหารายได้เช่นนี้ คนได้ประโยชน์คือดาราและบริษัท ส่วนสังคมก็ต้องรับภาระในพฤติกรรมด้านลบที่ถูกชี้นำให้กลายเป็นเครื่องมือในการประพฤติตามเพื่อบริโภคสื่อของดารานักร้องคนนั้น

ผมจะชื่นชมบริษัทที่ใช้ด้านบวกของสังคมมาเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ และรู้สึกรังเกียจองค์กรที่ใช้ด้านลบของสังคมมาเป็นเครื่องมือในการทำกำไร

แน่นอนครับ เรื่องนี้ subjective อย่างยิ่ง เพราะสิ่งดีของคนคนหนึ่งอาจจะเป็นสิ่งไม่ดีของคนอีกคน และสำหรับผม “สินค้า” ที่เรียกว่า Lady Gaga นั้นไม่ดีอย่างยิ่ง และผมไม่อยากเห็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้าชิ้นนี้บริโภคสินค้าชิ้นนี้

ผมมีแนวร่วมไม่น้อยเพราะการต่อต้านรูปแบบการทำการค้าเช่นนี้ โดยเฉพาะ Lady Gaga นั้นเกิดขึ้นทั่วโลกทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันผมก็มีคนที่ไม่เห็นด้วยเยอะมากเหมือนกัน ไม่งั้นสินค้าชิ้นนี้จะโด่งดังทั่วโลกได้อย่างไร

แต่การถกเถียงเรื่องนี้ถ้าอยู่ในเหตุและผลและหักล้างด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์นั้นผมชนะแน่นอน เพราะนั่นคือการกระตุกความคิดของสังคมที่มีต่อการบริโภคสินค้าทางวัฒนธรรมขึ้นแล้ว แทนที่การบริโภคไปเพื่อความบันเทิงโดยไม่ได้คิดอะไรเลย ดังนั้นจะเห็นด้วยกับผมหรือไม่ก็ตาม ลองคิดดูนะครับ

หมายเลขบันทึก: 490854เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 14:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 22:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ออกความเห็นไม่ได้ครับ ไม่มีประสบการณ์ 5555 ผมกังวลอยู่ว่า ตอนนี้มีนิสิตเบี่ยงเบนทางเพศ ไปมากกว่าเมื่อก่อนครับ เอหรือโลกเราเปลี่ยนไป

อย่างอ.ขจิตว่ามีนิสิตเบี่ยงเบนทางเพศมาก  ไม่ใช่เฉพาะนิสิตนะคะ

ตอนนี้ระบาดไปทั่วชนิดเอาไม่อยู่  ต้องทำความเข้าใจและทำใจแล้วล่ะค่ะ

ตอนนี้พี่ดูซีรี่ย์เกาหลีเรื่องหนึ่ง....ลูกชายคนโตมีความเบี่ยงเบนทางเพศ  พ่อแม่และคนในครอบครัวก็พยายามให้กำลังใจและเห็นเป็นเรื่องปกติ  อาจจะด้วยความสงสารหรือความดีของเขาก็ได้....

หากพวกเขาไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร  เป็นคนดีและทำคุณประโยชน์ให้สังคมและส่วนรวม  พี่คิดว่าพี่รับได้นะ  เพราะบางคนอาจจะเป็นคนดีกว่าคนปกติด้วยซ้ำไปนะคะ

อกเขา..อกเรา..เขาว่าเขาปกติ..เราว่าเราปกติ..ใครกันแน่ผิดปกติ..???

I am common and I like common folks. I do recognize but I am not comfortable with any GLBT.

Compare my reactions to corrupt people and exploiters -- they get my strong reactions. I react to monks not respecting the Vinaya -- all monks know they have to abide by the Vinaya before they ordain. I react to public servants and politicians who "swear" to duites to serve people before they take office. ...

Society contains varieties and the strengths of connections among varieties will eventually reshape the society into its stable form and function. What a balanced society with GLBT will look like is still beyond me.

Thank you for giving me another chance to consider it.

ลูกศิษย์ในห้องเรียนสิทธิมนุษยชนกำลังจะทำเสวนาเรื่องประมาณนี้ค่ะ

การใช้ภาพด้านลบมาเป็นเครื่องมือหารายได้เช่นนี้ คนได้ประโยชน์คือดาราและบริษัท ส่วนสังคมก็ต้องรับภาระในพฤติกรรมด้านลบที่ถูกชี้นำให้กลายเป็นเครื่องมือในการประพฤติตามเพื่อบริโภคสื่อของดารานักร้องคนนั้น  ผมจะชื่นชมบริษัทที่ใช้ด้านบวกของสังคมมาเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ และรู้สึกรังเกียจองค์กรที่ใช้ด้านลบของสังคมมาเป็นเครื่องมือในการทำกำไร

เห็นด้วยครับ อ.ธวัชชัย และพบว่าปัจจุบันองค์กรธุรกิจ หรือ องค์กรการเมือง ก็ใช้กลยุทธ์แบบนี้กันทั้งนั้น สังคมบ้านเราก็รับรู้กันแต่เรื่องเสื่อม ๆ ส่งผลถึงเยาวชนเป็นอย่างยิ่งครับ

ยอมรับในความแตกต่างค่ะ เพศไหนๆก็น่าชื่นชมหากช่วยกันสร้างสรรค์สังคมร่วมกัน

ผมว่าจะเขียนเรื่องนี้นานแล้ว เดี๋ยวจะลองปั่นดูครับ

555 คนเราไม่ได้เกิดตัวเองขึ้นมาเอง ต่างก็ถูกเกิดมา เป็นหญิงแท้ไม่แท้ ก็ว่ากันไปมันเลือกเกิดไม่ได้จริง ๆ แต่ทุกคนที่เกิดมา มันก็น่าสงสารกันหมดทุกคน

ผมมีเพื่อนฝรั่งที่เป็นเกย์ ตอนหนุ่ม ๆ ก็ไม่รู้ว่าเกย์คืออะไร ในสมัยน้้นหนุ่ม มันไม่เคยได้ยิน

ห้าหกปีต่อมาหลังจากพบกัน เขาเขียนจดหมายมาว่า หลังจากได้อยู่กินกับชายไทย ที่เขามาพบตอนที่มาเยี่ยมผมนั้น ตอนนี้เขาแต่งงานกันแล้ว 555 ผมก็งง ที่น่าสงสารก็คือ แม่พ่อพี่น้องรับไม่ได้ ทุกคนเสียใจ ไม่พอใจ เขาทุกข์มาก เขียนจดหมายมาเล่าผม ผมบอกกลับไปว่า คนเรานั้นเกิดมาแล้ว ชีวีดใช่จะอยู่นาน 70 80 ก็ตายแล้ว มันเป็นสิทธิ์ของยูที่จะเลือก ชอบอะไร รักอะไรก็ทำไปเถิด ไอไม่เคยรังเกียจ ยูเป็นเพื่อนที่ดีของไอเสมอ

ผ่านไป 36 ปี เรายังสไกป์ กันอยู่บ่อย ๆ เขาก็มีความสุขกันทั้งสองคน ทุกคนในครอบครัวของเขาต่างก็รับได้กันแล้ว

ชีวิตมันเลือกเกิดไม่ได้
ที่เลือกได้ก็คือ ความต้องการและไม่ต้องการมิตรภาพ ความสงสาร และไม่อยากสงสารแก่กัน

เลดี้กาก้า เธอก็น่ารักน่าสงสารอีกแบบ ที่แน่ ๆ เธอก็น่าจะเป็นที่ภาคภูมิใจของพ่อแม่ของเธอ ที่แน่ยิ่งกว่าแน่ก็คือ เธอเป็นนางเอกของโลกไปแล้ว

ขอบคุณที่หยิบยกมา ให้อภิปราย ให้เกิดปัญญาร่วมกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท