พลิกโฉมองค์กรด้วยกลยุทธ์การสื่อสารชั้นเซียน

ย้ายลงจากหิ้ง...จะไม่ให้แน่นิ่งบนโต๊ะที่ทำงาน

            วันนี้หยิบหนังสือจากชั้นหนังสือในบ้านมาอ่านระหว่างการเดินทางไปทำงานค่ะ เล่มนี้ติดมือมาตั้งแต่ปี 2550 เก่าแล้วแต่ความรู้ยังอินเทรนด์อยู่สำหรับคนที่ทำงานในแวดวงการสื่อสารและงานประชาสัมพันธ์

            หนังสือเล่มนี้ชื่อ พลิกโฉมองค์กรด้วยกลยุทธ์การสื่อสารชั้นเซียน   Image & Corporate Communications เรียบเรียงโดย ดร.พจน์ ใจชาญสุขกิจ ผ่านสำนักพิมพ์  Than Books ราคา 200 บาทหนังสือมีความหนา 222 หน้า รวม 16 บท ค่ะ
(ฉันพลาดการบันทึกแนะนำหนังสือเล่มนี้ไปได้อย่างไรกัน)

            กลับมาปัดฝุ่นอ่านหนังสือฮาวทูเล่มนี้เหมือนได้มาทบทวนสิ่งที่เคยบันทึกไว้ในความทรงจำ ที่หายเข้าไปในรอยหยักสักแห่งหนึ่งของก้อนสมองจนแอบสงสัยว่าทำไมนะทำไมเราถึงจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทั้งๆ ที่ตั้งใจจำไม่ได้เสียเลย ฉันแก้ไขปัญหานี้ด้วยการบันทึกสรุปย่อก็แล้วสร้างประสบการณ์ตรงด้วยการลงมือปฏิบัติก็แล้ว คงต้องดั้นด้นค้นหาวิธีการที่ดียิ่งขึ้นต่อไปค่ะ

            เหตุที่หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านอีกครั้งก็เพราะหน้าที่การงานเติบโตขึ้น โดยที่ไม่คาดฝันว่าจะต้องตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินกับงานด้านการสื่อสารเพื่อองค์กรอย่างจริงจัง เนื่องด้วยมันถูกให้ความสนใจอย่างสำคัญถึงขั้นกำหนดไว้ในแผนพัฒนายาวไปข้างหน้าขององค์กร จึงเป็นที่มาของการเลื่อนชั้นจาก “หนังสือบนหิ้ง” มาวางแบบว่า “จะไม่ให้แน่นิ่ง” บนโต๊ะทำงานค่ะ

            หนังสือเล่มนี้บอกเล่าให้เราใส่ใจภาพลักษณ์และตระหนักในกระบวนการสื่อสารเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กร บอกเรื่องราวการวางแผน การกำหนดกรอบยุทธศาสตร์ กำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมาย การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ กระบวนการวางแผนวิเคราะห์โอกาสทางการสื่อสาร วิธีการทำงาน จนถึงการสรุปและประเมินผลสัมฤทธิ์ของการสื่อสาร ทำให้อดคิดถึงตำราว่าด้วยหลักการบริหารจัดการมากมายในห้องสมุดที่เขียนโดยผู้สอน สำหรับนักศึกษาเรียนเอาเกรด หรือแม้แต่การได้เข้ารับการอบรมเรียนรู้การวางแผนการเขียนแผนงานเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาตามสูตรของคนทำงานราชการ แต่หนังสือแนวนี้สำหรับฉัน ต้องเลือกแล้วที่อ่านง่ายไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย และนี่ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ฉันเลือกเป็นคู่มือการทำงานค่ะ

            ดูจากสารบัญเรื่อง ก็มีคำตอบภายในสองสามวินาทีว่าเราจะต้องเข้าไปเรียนรู้ศึกษา ทำตามคำแนะนำของผู้เขียนแล้วค่ะ โดยเฉพาะยุคสมัยนี้ใครๆ ก็จะให้ความสำคัญกับการสื่อสาร การสร้างแบรนด์ขององค์กร ซึ่งไม่ต้องดูอื่นไกล ที่ทำงานของฉันเองเลยค่ะ ซึ่งได้กำหนดเป็นหนึ่งกลยุทธ์ในแผนพัฒนาการศึกษาฯ ระยะที่ 11 เป็นโจทย์ใหญ่ของฉันและทีมงานที่ปฏิบัติงานหน้าที่เดียวกันทั้งองค์กรที่จะต้องทำกระบวนการตรงกลางให้ถึงพร้อม
           

            มาดูกันที่สารบัญทั้ง 16 บท มีดังนี้ค่ะ

1. การสื่อสารเพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กร
2. การจัดการชื่อเสียงขององค์กร
3. กระบวนการสื่อสารเพื่อสร้างภาพลักษณ์
4. สื่อสารองค์กร : แนวคิดของการจัดการองค์กรเชิงกลยุทธ์
5. แนวคิดในการวางแผนสำหรับสื่อสารองค์กร
6. การทบทวนสถานการณ์และวิเคราะห์โอกาสทางการสื่อสาร
7. การจัดการสื่อสารเชิงยุทธ์
8. แผนการสื่อสารองค์กร
9. การนำแผนสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
10. ยุทธศาสตร์การสื่อสารองค์กร
11. การประเมินผลการสื่อสาร
12. อุปสรรคในการวางแผนและดำเนินการสื่อสารขององค์กร
13. การวิจัยและวางแผนการสื่อสาร
14. บทสรุปสำหรับแผนการสื่อสารขององค์กร
15. การสื่อสารคุณค่าของภาพลักษณ์องค์กร
16. การปรับตัวทางด้านสื่อสารองค์กรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง

            หลังจากการอ่านเรื่องราวในเล่มหนังสือนี้แล้ว ทำให้นึกถึงเมื่อครั้งไปศึกษาดูงานการสร้างแบรนด์ขององค์กรภาคเอกชน ต่อคำถามว่า แบรนด์คืออะไร เกิดจากอะไร และคำตอบที่เค้าเฉลยมาว่า แบรนด์เกิดจากประสบการณ์ที่องค์กรนั้นสั่งสมมา

            นั่นใช่เลยค่ะ...เมื่อคิดจะเป็นนักการสื่อสารก็ต้องทำการบ้านหนักหน่อย จริงๆ เลย

            ไม่ได้มาเชียร์ให้หนังสือขายได้นะคะ (เพราะไม่รู้ว่าจะยังมีหนังสือนี้จำหน่ายอยู่ไหม แต่เห็นแว้บๆ ในอินเทอร์เน็ต ว่าห้องสมุดมหาวิทยาลัยมีให้บริการอยู่หลายแห่งค่ะ) ถ้าบล็อกเกอร์ท่านใดอยู่ในแวดวงการสื่อสารประชาสัมพันธ์ อย่างไรแล้วฉันก็ขอแนะนำหนังสือเล่มนี้อีกเล่มหนึ่งนะคะ ใช้เป็นหนังสืออ้างอิงสามัญประจำสถานที่ทำงานกันค่ะ

[Wasawat Deemarn]

ว้า ... ไม่ได้อยู่ในแวดวงดังกล่าวครับ พี่หม่อม ;)...

[ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี]

สวัสดีค่ะอาจารย์ Wasawat Deemarn

• เผื่อฟลุ๊กเอาไปประยุกต์ใช้ ดีไหมคะ
• อิอิ

[ขจิต ฝอยทอง]

• ไม่ได้อยู่ในแวดวง
• อ่านได้ไหมครับ
• 555
• พี่ดาวสบายดีนะครับ

[ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี]

น้องอาจารย์ ดร.ขจิตคะ

• การสื่อสารเป็นเรื่องของเราทุกคนค่ะ.
• ไม่ว่าจะอยู่ในองค์กรใดสังคมใด เริ่มที่ตัวเรา. คนสองคน.  ครอบครัว. ด้วยเลยอิอิ
• ว้าแต่คนพิเศษๆ ของน้องเรา. มีแล้วยัง. ไม่ได้ติดตามข่าวสารตั้งนาน

สรุปว่าเป็นหน้าที่ของเราทุกคนเลยดีไหม 555. มาหาอ่านกันค่ะ