เลิกบุหรี่แบบนี้ ....ฮา..ก๊ากๆ

         วันนี้เดินทางไปเยี่ยมพี่ชายที่สัตหีบ ชลบุรี  พร้อมไปต้อนรับสมาชิกใหม่ ลูกของพี่ชาย  เพิ่งผ่าคลอดได้ 2 วันนี้เอง ออกมาจากบ้านตั้งแต่บ่ายโมง มาถึงราวๆ หกโมงครึ่ง พอดีเพื่อนทราบข่าวว่าเรามา ก็เลยมาหาเราที่บ้านพี่ชาย  ก็ดีเหมือนกันกะว่าจะไปหามันสักหน่อยนี่มันมาหาเราเอง ถือโอกาสมาเยี่ยมหลานด้วย เจ้าเพื่อนคนนี้นี่ เคยเขียนในบันทึกอาจารย์ถางว่าตอนที่มันไปเรียนนาวิกนั้น  โดนเซนเซอร์จดหมายรักหวานจ๋อย  ต่อหน้ากอง ครั้งนั้นโดนชลัญแก้เผ็ดโดยเขียนจดหมายรักแทน เพื่อนสาวด้วยการเขียนเพลง ค่าน้ำนม และเชิญชวนให้ทุกคนก้มกราบพระแม่ธรณี เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณแม่  นั่นเอง  สำหรับเพื่อนชลัญคนนี้เป็นพยาบาลหน้าตาสะสวย เรียกว่าเป็นดาวตอนเรียน แต่ด้วยเป็นคนเรียบร้อยอ่อนโยนไม่พูดมาก มาปากจัด ซึ่งค่อนข้างจะตรงข้ามกับชลัญ  มีชื่อว่านุช (นามสมมติ) ส่วนเพื่อนชายนั้นเป็นทหารเหล่านาวิกโยธิน ตอนนี้ยศ พันจ่าเอก ด้วยเป็นคนไม่ค่อยฉลาด  มันก็คงเป็นจ่าแก่ๆไปจนเกษียณ หรือไม่มันก็สมองฝ่อเพราะเหล้าบุหรี่ไปแล้วก็ไม่รู้  ก็ดีใจได้เจอเพื่อน หลังจากไม่เจอกันนาน พอควร เพราะมาสัตหีบเมื่อ สองเดือนก่อนนี่ เพื่อนกลับไปเยี่ยมญาติที่อีสานก็เลยไม่เจอกัน

                มาครั้งนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่อดถามไม่ได้ คือ สังเกตเห็นเพื่อไม่ขอตัวไปสูบบุหรี่เหมือนเมื่อก่อน  ก็เลยเกิดความสงสัยแก่ชลัญยิ่ง  ก็เลยถาม

                ชลัญ :  เฮ้ย ! แอ๊ด แกเลิกบุหรี่แล้วเหรอว่ะ

                แอ๊ด  : ไม่ใช่แค่บุหรี่  เหล้าก็เลิกโว๊ย

                ชลัญ : พูดจริงเพื่อน  พร้อมทั้งหันหน้าไปถามนุช

                นุช : จริงโจ้  เลิกได้เกือบ สอง ปี แล้ว

ชลัญก็คิดในใจ  ว๊าว .... ได้เรื่องบันทึกอีกแล้ว  วุ๊ย แต่ก็คงเดิมๆล่ะว้า  คนอื่นเขียนเยอะแยะคงน่าเบื่อ แล้วน่ะ เอ้า ไหนๆ แล้วก็ถามหน่อยล่ะกันว่าเลิกได้อย่างไร

                ชลัญ :  แอ๊ด แล้วองค์อะไรเข้าฝันแกว่ะ เลิกได้งวดนี้น่ะ 

                แอ๊ด :  ไม่ได้มีอะไรเข้าฝันหรอกครั้งนี้ แต่ของจริงเต็มสองหูเลยแก  ไม่เลิกได้ไง

                ชลัญ  ทำหน้า งง .... ซึ่งนุชที่นั่งอยู่ใกล้ๆ  หัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ  “ อ้ที่เต็ม สองหูแกน่ะอะไร  นุชมันบิดหูแกเหรอ  เฮ้ย.. เป็นไปไม่ได้  นุชมันแม่ชีมดสักตัวยังไม่กล้าฆ่าเลย  แล้วอะไรที่เต็มสองหู” นุชยังหัวเราะชอบใจ

                แอ๊ด  : ให้นุชเล่าส่วนของนุช ล่ะกันแล้วเราจะเล่าส่วนของเรา

นุชหันไปถามสามีซึ่งมีวัยเดียวกัน “ ให้นุชเล่าก่อนเหรอ “ แอ๊ดพยักหน้า  แล้วนุชก็เริ่มเล่า

      นุช : โจ้ก็รู้อยู่แล้ว ใช่มั๊ยว่า แอ๊ดน่ะกินเหล้าสูบบุหรี่ ตอนหลังนี่จัดกว่าเดิม เราเคยขอร้องให้เลิกหลายครั้ง เขาก็พยายาม แต่ก็ล้มเหลวทุกที เราก็ไม่รู้จะทำไง แต่ด้วยแอ๊ดเป็นคนดี ดูแลเราและครอบครัวดีมาก ปัญหาแค่นี้มันคงใช่เรื่องใหญ่มาก  เราก็เลย พอพบกันครึ่งทาง โดย ขอร้องด้วยการอย่าสูบใกล้เราหรือใกล้ลุกเป็นได้  กินเหล้านี่ขออย่าเมามาก จนดูสภาพไม่ได้   ซึ่งแอ๊ดก็ ok รับปาก  เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากนะได้เท่านี้ก็หรูแล้ว  มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนมาขายประกันที่ รพ. เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีน่ะเขาเป็นคนพูดเก่งมาก โหเรางี้คล้อยตามเลย มีอยู่คำพูดหนึ่งของสาวขายประกัน ดูบุคลิกเหมือนโจ้เลยบอก สามีอยากกินหล้าสูบบุหรี่ห้ามไม่ได้ไม่เป็นไร เผื่อเขาอายุสั้น เขาก็ได้เงินประกันจะได้ไม่ลำบาก ยิ่งตายเร็ว เรายังสาวสวยรับรองหาสามีใหม่ได้สบายๆ  แถมมีเงินใช้จ่ายสบายมืออีก     ด้วยความที่เขาพูดเก่งมาก เราก็เลยซื้อประกันไป 2 กรมธรรม์ แต่ไม่ใช่เรื่องที่ยกตัวอย่างนะ ซื้อเพราะเกรงใจกันด้วยแล้วก็อยากมาหลักประกันไว้ให้ลูกนั่นแหล่ะ   ก็ไม่ได้เล่าอะไรแอ๊ดมาก บอกแค่ว่าซื้อประกันให้เท่านั้น ต่อมาแม่แอ๊ดมาเยี่ยมที่บ้าน เอ้า..... ถึงตรงนี้แอ๊ดเล่าต่อดีกว่า

        แอ๊ดรับมุกต่อ   :  ก็บังเอิญ วันนั้นนุชเขาคุยกับแม่อยู่ เขาไม่รู้ว่าเรา กลับมาได้ยินเต็มสองหู เลย เรื่องมีอยู่ว่า  แม่เขาก็บ่นเราบ่นนุชว่า ไม่รู้จักบอกให้เราเลิกเหล้าบุหรี่  แกก็คาดครั้นให้นุชหามาตรการขั้นเด็ดขาดที่จะให้เราเลิก ถึงตอนนี้นุชเสริมขึ้น 

         นุช : ก็ๆแม่มาเมื่อไรก็จะคาดคั้นเราแบบนี้ เราก็อึดอัด เราก็เลยนึกถึงคำพูดของสาวขายประกันเล่นๆ  ว่าถ้าแอ๊ดเป็นอะไปเร็วนุชก็จะมีเงินเป็นล้านๆ  หน้าตานุชก็ยังสะสวย คงมีแฟนใหม่ได้ไม่ยาก ดีไม่ดีมีแฟนฝรั่ง เพราะที่ รพ. มีฝรั่งมาบ่อยๆ ( นุชทำงานอยู่ รพ.เอกชนในพัทยา )   ก็ห้ามแล้วเขาไม่ฟัง  ก็ต้องปล่อยอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ก็แล้วกัน ซึ่งแม่แอ๊ดก็เห็นด้วยบอกถ้าคิดได้อย่างนั้นแม่เขาก็สบายใจ กลัวว่าจะเป็นแม่หม้ายลูกยังไม่โต

       แอ๊ดรีบแย่งซีนเลย  แอ๊ด  :  ตรงนี้แหล่ะแกเต็มๆ เข้า สองหูเต็มๆเลย  เริ่มเสียวสันหลังว๊าบๆ  เริ่มวิตกจริต ว่า ตอนหลังนี่นุชไม่ห้ามเราสักคำ  ท่าจะอยากได้สามีใหม่ คิดในใจ ตูไม่ตายให้ใครเสวยสุขบนกองเงินประกันตูแน่นอน  เท่านั้นแหล่ะแกเอ๊ยความอยากเหล้าบุหรี่หายเป็นปลิดทิ้ง  เลิกตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

       พอเล่าถึงนี่ชลัญธร หัวเราะก๊ากๆเลย  5555555555555 กลัวนุชมีสามีใหม่  “เฮ้ย มุกนี้แจ๋วว่ะ” ขอเอาไปเล่าใน gtk หน่อย ตอนนี้กระแสบุหรี่กำลังแรง

     ทั้งสองก็ Ok ถ้าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นก็ลองเอามุกนี้มาใช้ดู

     แต่เรื่องนี้ต้องขอบคุณสาวขายประกันนะเข้าใจคิดพลิกวิกฤตให้เป็น โอกาสได้  นับถือ  นับถือ 

     แต่คิดๆไปแล้ว ก็นึกถึงเจนเหมือนกันนะนี่  ถ้าทนๆแต่งไป อุ๊ยเกิดตายในไม่กี่ปี  ชลัญยังสาว ว๊าว .....กึยย์ ...ไม่อยากจะคิด  คุณป๊าจะมาแอบอ่านมั๊ยนี่ (  ย่อหน้านี้ คิดเล่นๆขำๆน่ะ อิ อิ อิ  )

[โสภณ เปียสนิท]

เป็นวิธีการที่ดี แต่พึงระวังจะเข้าทางสามี อิอิ

[นงนาท สนธิสุวรรณ]

[คนถางทาง]

ง่ายกว่านั้นคือ หัดสูบบุหรี่ซะเลย จะได้หาผัวฝรั่งได้ง่ายขึ้น (๕๕) ...สังเกตดูหญิงไทยที่มีผัวหรั่งส่วนใหญ่สูบบุหรี่กันแทบทั้งน้าน แบบนี้ผัวไทยกลัวตัวสั่น เลิกบุหรี่แน่ๆ

[ชลัญธร]

ไม่แน่นา อาจารย์ถาง อาจชอบก็ได้ กอดคอซดเหล้าเคล้าบุหรี่ทั้งคู่ ดูดีทีเดียว แถวๆบ้านชลัญเยอะเลย

[ไอดิน-กลิ่นไม้]

• เทคนิคนี้คงใช้ได้ผลเฉพาะในกรณีที่ ผู้ติดบุหรี่มีภรรยาที่ยังสาวและยังสวยนะคะ คุณชลัญธร อย่างในครอบครัวของคุณชลัญธรก็ถือว่าเข้าข่าย และนำเทคนิคนี้ไปใช้ได้
• แต่ที่ อ.วิขำก็คือ  พี่สาวคนติดกันซึ่งอายุมากกว่า อ.วิ 2 ปีเต็ม แต่ชอบแต่งตัวแบบกระชากวัย แกขัดใจที่สามีไม่เคยออกกำลังกาย ใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันนั่งกดรีโมทหน้าจอทีวี (เกษียณปี 2552) จะชวนอย่างไรก็ไม่ขยับทั้งที่มีที่ออกกำลังกายอยู่หน้าบ้านแค่ข้ามถนน (บริเวณโรงเรียน) และมีสวนสาธารณะใกล้บ้าน แกเลยมีผรุสวาจาด้วยที่ท่าฉุนเฉียวตามนิสัยว่า ถ้าตายแกก็จะหาสามีใหม่ พี่เขยก็ได้แต่หัวเราะหึๆ และเมื่ออ.วิได้ยินบ่อยครั้งเข้า แม้จะขัดใจพี่เขยที่กระตุ้นให้ออกกำลังกายอย่างไรก็ไม่ได้ผล แต่ก็แซวพี่สาวว่า (วัยนี้แล้ว) ยังคิดจะหาสามีใหม่อีกหรือ สงสัยว่าพี่สาวจะมัวแต่หัวเสียเลยไม่รับรู้ที่ถูกแซว ไม่เช่นนั้นอ.วิคงถูกด่าเปิงไปแล้ว