เปลี่ยน.... ทำไม?


ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องใด คำถามที่ทรงพลังคือ “ทำไม?”

...สองปีกแห่งอิสรภาพ @ริมน้ำใกล้บ้าน...

 

จากบันทึก เรื่องเล่าจิตอาสา : อีกหนึ่งภาพสะท้อนของความเชื่อมั่นต่อวิถี "เรื่องเล่าเร้าพลัง" (storytelling) ของคุณแผ่นดิน ทำให้นึกถึงเรื่องเล่าที่เคยได้ยินมาจากวิทยากรในการอบรม Change Management ที่บริษัทจัดขึ้น….

ในช่วงต้น ค ศ. 1900 ในเมืองชิคาโกมีทนายความผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อ อีซี่ เอดดี้ (Easy Eddie) เอดดี้ทำงานให้กับบริษัทหนึ่งชื่อ Al Capone เป็นที่รู้กันว่า AI Capone เป็นบริษัทที่ขายยาเสพติดและมีมาเฟียดำเนินการอยู่ ด้วยความสามารถ อีซี่ เอดดี้ ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายทำให้บริษัทพ้นผิดเรื่อยมาและตำรวจไม่อาจทำอะไรได้ และเขาก็ได้รับผลตอบแทนอย่างงดงาม มีบ้านใหญ่โต หรูหรา มีชีวิตครอบครัวที่สุขสบายยิ่งกว่าใครในเมืองนั้น

เวลาผ่านไปเมื่อเอดดี้ชราภาพลง เขานึกละอายต่อสิ่งที่ได้ทำไว้ เขาไม่อาจทนมองสิ่งที่เขาทำลงไปได้อีกต่อไป เขาไม่อยากให้ลูกๆ เขาโตขึ้นรับรู้สถานะของพ่อที่เป็นแบบนี้ แถมเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีในชีวิตของลูก เขารู้ตัวว่าจะต้องแก้ไขมันให้ได้เพื่อปลดแอกตัวเองสู่อิสรภาพแห่งจิตใจ

เขาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นพยานรื้อฟื้นคดี ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เขารู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร แต่เขาก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง...

เอดดี้ถูกรอบสังหารในขณะเดินทางกลับบ้านในคืนวันหนึ่ง ด้วยฝีมือของมาเฟียใน Al Capone และตำรวจพบกลอนบทนี้ในตัวเขา

...

The Clock of Life by Robert H. Smith, copyright 1932, 1982

The clock of life is wound but once,

And no man has the power

To tell just when the hands will stop

At late or early hour.

To lose one's wealth is sad indeed,

To lose one's health is more,

To lose one's soul is such a loss

That no man can restore.

The present only is our own,

So live, love, toil with a will,

Place no faith in "Tomorrow,"

For the Clock may then be still.

...

นาฬิกาชีวิตที่อ่อนแรงลงแต่ก็หมุนเพียงครั้งเดียว

ไม่มีใครบอกได้ว่ามันจะหยุดเดินเมื่อไหร่ เวลาเท่าใด

การสูญเสียทรัพย์สินเป็นเรื่องน่าเศร้า

การสูญเสียสุขภาพน่าเศร้ายิ่งกว่า

การสูญเสียจิตใต้สำนึกเป็นการสูญเสียที่ใหญ่ที่สุด

ที่ใครก็ไม่อาจเอาคืนมาได้

เวลาในปัจจุบันคือสิ่งเดียวที่คุณเป็นเจ้าของ

โปรดใช้ชีวิต โปรดรัก และใช้มันอย่างมีเป้าหมาย

และอย่าคิดว่าวันพรุ่งนี้จะมีอยู่อย่างนั้นเสมอไป

เพราะนาฬิกาชีวิตมันอาจหยุดหมุนได้ในทุกโมงยาม

... 

เอดดี้รู้ว่าเขาต้องทำอย่างนั้นเพราะเขาไม่อาจมีชีวิตอยู่อย่างรู้สึกผิดและเขายอมเสียทุกสิ่งเพื่อให้ลูกเขาจำว่า...พ่อเป็นคนดีอย่างไร…

 

อีกเรื่องหนึ่ง….

หลังจากนั้น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองก็มีฮีโร่คนแรกของกองทัพเรือสหรัฐชื่อ บุช โอแฮร์ (Butch O'Hare) เขาเป็นนักบินที่ได้รับเหรียญกล้าหาญ หลังจากเมื่อวันหนึ่งขณะออกบินปฏิบัติการเขาสังเกตเห็นว่าน้ำมันเครื่องบินเติมไม่เต็มและคงมีไม่พอ เขาถูกหัวหน้าสั่งให้บินกลับ ทีแรกเขาก็ไม่เต็มใจแต่เมื่อขัดคำสั่งไม่ได้ เขาจึงนำเครื่องกลับฐานทัพ

ในตอนกลับเขาเห็นทัพเครื่องบินรบฝ่ายญี่ปุ่นชื่อซีโร่ กำลังเตรียมโจมตีเรือรบอเมริกันอยู่ ด้วยเครื่องบินรบส่วนใหญ่ออกปฏิบัติการหมด เรือรบอเมริกันจึงคล้ายเป็นเป้านิ่งของการโจมตี บุชตัดสินใจเข้าโจมตีฝ่ายญี่ปุ่นในทันที ด้วยเครื่องบินลำเดียว เขายิงฝ่ายญี่ปุ่นตกไป 5 ลำ และคิดจะใช้เครื่องบินตัวเองบินเข้าชนฝ่ายตรงข้ามจนทัพญี่ปุ่นถอยล่าไป บุชนำเครื่องบินที่พรุนไปด้วยกระสุนกลับฐานทัพและรายงานตัว เขาได้รับการยกย่องอย่างสมเกียรติ

หลังจากนั้นอีกหนึ่งปี บุชก็ได้สละชีวิตในระหว่างการต่อสู้อย่างอาจหาญกับกองทัพญี่ปุ่นในวัยเพียง 29 ปี

ชาวชิคาโกนำชื่อของเขามาตั้งชื่อสนามบินในบ้านเกิด Chicago O'Hare International Airport.

บุช โอแฮร์ (Butch O'Hare) คือลูกชายของ อีซี่ เอ็ดดี้ (Easy Eddie O'Hare) นั่นเอง

..

...เปลี่ยน @Kraji Nature Trail... 

จะสายหรือไม่สำหรับการเปลี่ยนแปลงก็ขึ้นอยู่กับว่าจะลงมือทำเมื่อไหร่ และทุกๆ การเปลี่ยนแปลงต้องการความตั้งใจจริง มันไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่าย มันอาจไม่สะดวก...แต่มันก็เป็นไปได้

ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องใด คำถามที่ทรงพลังคือ “ทำไม?” คำตอบของคำถามที่ว่า “ทำไม?” เพียงพอที่จะทำให้คุณเปลี่ยนหรือไม่ หากคำตอบนั้นมีค่าพอ การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นได้ คำตอบของอีซี่ เอ็ดดี้คือ “เปลี่ยนเพื่อลูก” และเขาก็ทำให้ตัวเขาเป็นแบบอย่างที่ดีที่น่าภูมิใจให้ลูกได้จริงๆ

เพราะเราไม่ได้ทำงานกับพ่อค้ามาเฟีย เราคงมีโอกาสได้อยู่เพื่อชื่นชมผลแห่งความสำเร็จหลังการเปลี่ยนแปลง…. หากหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงนั้นคือ...การเลิกบุหรี่

 

------

เวลาไม่เคยพอ - แดน บีม

http://www.youtube.com/watch?v=K-1TRcNkTY8

หมายเลขบันทึก: 490328เขียนเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 16:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 16:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

สุดยอดค่ะ .. บันทึกของคุณปริม โดนใจเสมอค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ Bright Lily,

ชอบฟังเรื่องเล่าที่ให้กำลังใจค่ะ จะได้ส่งต่อแบ่งปัน

ขอบคุณค่ะที่มาทักทายกันเช่นเคย

มีความสุขในยามเย็นนะคะ :)

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่าน.....มาให้กำลังใจกันนะคะ

Have a good night... :)

ชอบบันทึกปริมจัง บทความดี ภาพสวย บทเพลงเพราะ เอกลักษณืของปริมเสมอ ขอบคุณนะที่มำให้มีความสุขทุกครั้งที่เข้ามา

พอได้ฟัง รู้สึกชอบมากค่ะ ประทับใจ พอได้แรงกระตุ้นจากบันทึกของคุณแผ่นดินเลยนำมาเล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดียามดึกค่ะคุณพี่ใหญ่ :)

คุณชลัญธร ขอบคุณค่ะ

กลับมาใช้รูปเดิมๆ น่ารักๆ อีกนะคะ :)

เมื่อเราเปลี่ยนอะไรสักอย่าง...ปล่อยเวลาให้มันเดินทำงานอย่าซื่อสัตย์...

เราจะรู้สึกว่า...สิ่งนั้นกลายเป็นเรื่องปกติ...เพราะเราไม่ได้กลับไปทบทวนว่า..

.เรื่องปกตินั้นเป็นสิ่งดีหรือไม่ดี....เราไม่สามารถหมุนเข็มนาฬิกากลับคืนได้..

.แต่เราสามารถหมุนใจของเรา...ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี....

ขอบคุณบทความที่ทำให้ผมได้ทบทวนตนเองครับ

*********

เห็นเพลงของแดน...ทำให้ผมอยากให้คุณปริมดูหนังเรื่องนี้จังเลย

ไม่รู้ว่า คุณปริมจะได้มัโอกาสดูหรือเปล่า?

ฟังเพลงประกอบหนังไปก่อนนะครับ

http://www.youtube.com/watch?v=_kMV0zVlcEg

"...คน ๆ นี้ ที่เป็นคนไม่สำคัญไม่มีใครสนใจ !

.... แต่วันนึง เธอ ' เข้ามาในชีวิต ของคน ๆ นี้

และเปลี่ยนแปลง ทุก ๆ อย่างในชีวิตของคน ๆ นี้ จากที่หม่นหมอง เศร้าใจ

ก็กลายเป็น ชีวิตที่มีค่า ........... ทำให้ชีวิตคนนี้ รู้จักกับคำว่า " รัก "

... ขอบคุณที่รักกัน...ที่ผ่านมาทุก ๆ อย่าง ขอบคุณจริง ๆ..."

 

เป็นเรื่องที่ประทับใจมากเลยครับ

ขึ้นอยู่ที่ใจ ...เพลงเพราะครับ

สวัสดีค่ะคุณหมออดิเรก

ขอบคุณที่แนะนำหนังดีดีให้ค่ะ ยังไม่เคยได้ดูค่ะ ปริมมักจะไม่ได้ติดตามหนังไทยเลยค่ะ คงต้องพยายามหามาดูหน่อย ชอบแดนค่ะ เป็นคนที่มีความสามารถหลายด้าน ดูๆ จากที่คุณหมอเล่าคงน่าโรแมนติกไม่น้อยเลยเชียว

เพลงเพราะดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ธวัชชัย

สำหรับคุณพ่อทั้งหลายที่รักคุณลูกสุดหัวใจ คงรู้สึกดีกกับเรื่องนี้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ แว่นธรรมทอง

ชื่นชอบศิลปินผู้มากความสามารถคนนี้ค่ะ เลยนึกถึงเพลงของเขาเมื่อเอ่ยถึงเวลา

ขอบคุณค่ะ :)

 สวัสดีค่ะคุณปริม...นอกจากชื่อบันทึกแห่งรอยยิ้มแล้วขอเรียกว่าบันทึกแห่งความสุขนะคะ(ยิ้มได้ทั้งข้างนอกและข้างใน)

...ขอบคุณเรื่องราวของแรงบันดาลใจดีๆค่ะ.อ่านแล้วทำให้ได้คำถามกับตัวเองค่ะ"เมื่อไหร่" และก็มีคำตอบเบาๆ(ภายในเดือนนี้) ปฏิบัติการแล้วจะเล่าให้ฟังนะคะ (บางสิ่งที่รู้ว่าดีแต่ก็"ว่าจะๆ"เพราะความกล้ายังไม่เพียงพอ อ่านบันทึกนี้แล้วรู้สึก"ถึงเวลา")...

...รบกวนถามคุณปริมค่ะ...เกี่ยวกับวิธีการนำเสียงเพลงเข้ามาใส่ไว้ในบันทึก ขอบพระคุณค่ะ.

สวัสดีค่ะคุณน้อย

จะรอฟังเรื่องเล่าของการปฏิบัติการค่ะ เอาใจช่วยค่ะ

ขอให้วันนี้เป็นวันแห่งความสุขนะคะ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท