การปฎิวัติฝรั่งเศสตอนที่ 1


Story behind Bastille

 

คนฝรั่งเศสเนี่ยได้ประชาธิปไตยมาจากการปฎิวัติที่ค่อนข้างรุนแรงเสียเลือกเสียเนื้อกันข้อนข้างเยอะ เรื่องทั้งหลายอาจจะมีหลายสาเหตุรวมๆกันไม่ว่าเรื่องฐานะทางการเงินของประเทศที่ใกล้จะล้มละลายในสมัยนั้น คือว่ากษัตริย์ฝรั่งเศสตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นต้นมาได้ใช้เงินแบบค่อนข้างเยอะ ไม่ได้มีการทำระบบแบงค์ชาติ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคลังของวังแวร์ซาย นอกจากการใช้เงินที่ค่อนข้างสิ้นเปลืองอย่างต่อเนื่องแล้วแนวคิดด้านประชาธิปไตยที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกาก็ค่อนข้างแรงในประเทศทางยุโรปซะด้วย

Image hosted by Photobucket.com

ทำไมกระแสประชาธิปไตยมันแรงก็เพราะว่า สมัยนั้นมีการล่าอาณานิคมเกิดขึ้น ประเทศอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสมันก็ชอบที่จะล่ากันซะสนุกสนาน อังกฤษนั้นพยายามที่จะควบคุมอาณานิคมฝั่งอเมริกาจนเกิดสงครามประกาศเอกราช โดยฝรั่งเศสเนี่ยก็ได้ช่วยเหลืออเมริกาในการประกาศเอกราชอย่างเช่นมีนายพลดังที่เป็นชื่อห้างแสนไฮโซนครปารีส อย่าง La Fayette ก็ได้มาช่วยจนอเมริกาประกาศเอกราชได้ในวันที่ 4 July 1776

ในขณะที่ฝรั่งเศสได้ช่วยเหลืออเมริกาให้ประกาศเอกราชนั้น ก็ทำให้คนรู้สึกว่าทำไมบ้านเมืองตัวเองถึงไม่เห็นมีเสรีภาพอย่างงั้นบ้าง ขุนนาง นักการเมือง ก็ยังเอารัดเอาเปรียบประชาชน การใช้เงินในการทำสงครามก็ทำให้การเงินของประเทศเสียหายและไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อคนฝรั่งเศส อาหารก็ขาดแคลนแล้วรัฐบาลก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ได้ ราคาขนมปังก็ขึ้น ราคาเชื้อเพลิงก็ขึ้น คนก็เลยรู้สึกแย่

Image hosted by Photobucket.com

เหตุการณ์ทั้งหลายเริ่มประมาณปี 1789 (จำง่ายดีเนอะ) การประชุมก็ได้มีการเกิดขึ้นในระบบฐานนันดรทั้ง 3 ชั้นได้แก่ พระ ขุนนาง และประชาชนในพระราชวังแวร์ซาย เนื่องจากการแก้ปัญหาภาระทางการเงินของรัฐบาลนั้นจะกระทำโดยการขึ้นภาษี คนก็ต้องจ่ายภาษีอีก (จนแทบตายยังต้องจ่ายเพิ่ม) ส่วนบุคคลที่ได้ประโยชน์ก็คงเป็นพวกกลุ่มนายทุนที่ดิน เช่นพระและขุนนาง การโหวตในตอนแรกจะกระทำโดยการให้แต่ละฐานนันดรมี 1 เสียง ก็แน่นอน ถ้าพระ+ขุนนางก็จะได้ 2 เสียง ส่วนประชาชนที่เป็นคนเดือดร้อนส่วนใหญ่มี 1 เสียงก็คงต้องรับกรรมไป คนก็ไม่ยอมอะซิ

Image hosted by Photobucket.com

ประชาชนเหลืออดจากการกระทำของรัฐบาลจึงรวมตัวไป ทำลายคุกบาสติว สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของผู้นำฝรั่งเศส แล้วก็ปล้นปืน ปล้นอาวุธมาสู้กับรัฐบาลซะเลย จะปฏิวัติแล้วนิน่า (ไม่มีอาวุธจะสู้ได้ยังไง) วันที่มีการทำลายคุกบาสติวนั้นก็ตรงกับวันที่ประเทศฝรั่งเศสประกาศให้เป็นวันชาติฝรั่งเศสคือ 14 July 1789

Image hosted by Photobucket.com

หลังจากนั้นอีก 6 สัปดาห์ ประชาชนก็เลยไปจัดการเปิดสภาประชาชนเองซะเลยเรียกว่า National Assembly ใน Tenis Court Oat ซึ่งมีการประกาศสิทธิมนุษย์ชนทั้งหมด 17 ข้อ แต่จะให้กษัตริย์อยู่ในตำแหน่งต่อไปโดยไม่มีอำนาจทางการเมือง บรรดาขุนนางก็เลยไม่ยอมโดยเฉพาะพระนางมารีย์อังโตเน็ตนี่แทบกรี๊ดสลบบอกกับหลุยส์ที่ 16 ว่า "เดี้ยนไม่ยอมนะค่ะ" บรรดาผู้ที่เป็นแนวร่วมเด่นดังๆก็เลยมาร่วมกันเยอะแยะ เช่น ชาร์ค-หลุยส์เดวิช, โรสปีแอร์ จาคอบบิน

มีคำประกาศที่จะพูดกันอยู่เสมอๆ แล้วเป็นคำที่จะไปใส่ตามภาพและสิ่งของต่างๆในช่วงนั้นก็คือ

"Liberty Equity Neigbourhood"

"เสรีภาพ เสมอภาค ภาราดรภาพ"

Image hosted by Photobucket.com

เมื่อผมไปดูตำแหน่งของคุกบาสติวในปารีส ในปัจจุบันไม่มีร่องลอยและซากอะไรแล้วครับ มันการเป็นสัญลักษณ์ที่ชาวฝรั่งเศสรำลึกไว้ในการได้ประชาธิปไตยมา ข้างของเสาเนี่ยก็ยังมีคูน้ำที่ขุดไว้สำหรับเวลาที่เรือจะเข้ามาจอดที่คุกบาสติว แต่คลองนั้นก็หมดประโยชน์ไปแล้ว กลายเป็นสถานที่คนไปนั่งเล่นเอง ถามว่าคนฝรั่งเศสรู้สึกยังไงกับที่นี้ ก็คงจะเห็นได้จากการเฉลิมฉลองสิ่งที่ได้มาคือประชาธิปไตยจากการทำลายสถานที่นี้ในทุกวันชาติของเขาหล่ะครับ

กวิน สุวรรณตระกูล

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 4901เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2005 09:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุนมากน่ะ ค่ะท มีข้อมูลดี ดีๆๆๆ แบบ นี้ มาให้ อ่าน สนุกและชอบมากค่ะ อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท