การสร้างสปอร์หรือหัวเชื้อเห็ดสามารถทำได้ไม่ต้องรอ


หัวเชื้อเห็ดสามารถผลิตเองได้โดยเลี้ยงบนอาหารวุ้น พีดีเอ (PDA = Potato Dextrose Agar) ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปที่ไหนๆก็สามารถทำได้ถ้าหมั่นศึกษาเรียนรู้ทดลอง

 

เมื่อเราได้ทราบว่าการเกิดดอกเห็ดนั้น จะต้องมีเมล็ดหรือสปอร์เห็ดเป็นหัวเชื้อ ซึ่งจะต้องอาศัยดอกเห็ดแก่มาบดขยำตำกับน้ำเพื่อให้ได้สปอร์แพร่กระจายไปราดรดบนวัสดุที่เป็นแหล่งอาหารของเห็ดแต่ละชนิด ทีนี้เราลองมาศึกษาเรียนรู้พัฒนาผลิตหัวเชื้อเห็ดเองให้ได้เพื่อจะได้ไม่ต้องรอโชคลาภวาสนาให้ลมพัดพาสปอร์ปลิวมาตก เพราะกว่าจะปลิวมา กว่าจะได้ชนิดเห็ดที่ต้องการคงจะต้องใช้ระยะเวลานานและไม่แน่นอน ผู้ที่ชื่นชอบรับประทานเห็ดเป็นชีวิตจิตใจจึงควรที่จะต้องผลิตหัวเชื้อเห็ดไว้เป็นสต๊อคเพื่อตอบสนองความอยากของตนเองไว้บ้างจึงดี
 
หัวเชื้อเห็ดสามารถผลิตเองได้โดยเลี้ยงบนอาหารวุ้น พีดีเอ (PDA = Potato Dextrose Agar) ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปที่ไหนๆก็สามารถทำได้ถ้าหมั่นศึกษาเรียนรู้ทดลองหรือจะซื้อจากฟาร์มเห็ดใกล้บ้านเพื่อเป็นการประหยัดเวลาและต้นทุนก็ได้ไม่ว่ากัน เพราะปัจจุบันมีเห็ดมากมายหลากหลายชนิดที่สามารถผลิตและเพาะได้เอง เพียงคัดเลือกดอกเห็ดที่ชอบรับประทานอายุดอกที่กลางอ่อนกลางแก่ (ไม่อ่อนจัดหรือแก่จัดเกินไป) มีลักษณะสมบูรณ์อวบอ้วน ฉีกผ่าครึ่งเป็นสองซีกแล้วใช้เข็มเขี่ยลนไฟสกิดเนื้อเยื่อตรงบริเวณกึ่งกลางระหว่างก้านและกลีบดอกที่เพิ่งฉีกออกไปโดยพื้นที่บริเวณนี้ไม่ควรไปสัมผัสกับวัสดุใดๆอย่างเด็ดขาดแล้วนำไปวางบนอาหารวุ้น PDA ตามกระบวนและเทคนิคปลอดเชื้อทิ้งไว้เพียง 5-7 วันก็จะเห็นเนื้อเยื่อเส้นใยเห็ดเจริญออกมา
 
เชื้อที่ได้ในระยะแรกนี้เราเรียกว่า "เชื้อวุ้น" ซึ่งเป็นหัวเชื้อที่จะต้องนำไปต่ออีกทีบนข้าวฟ่าง, ข้าวเปลือกหรือเมล็ดธัญญพืชต่างๆที่เหมาะสม ที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันนิยมใส่ขวดโซดามากกว่าขวดแบนอย่างในอดีต หยอดเชื้อลงในเมล็ดข้าวฟ่างจนเส้นใยเดินเต็มแล้วประมาณ 7-10 วัน เรียกว่าเชื้อข้าวฟ่าง ซึ่งจะนำไปต่อเชื้อลงบนก้อนเชื้อขี้เลื่อยอีกครั้งหนึ่งทิ้งไว้จนเส้นใยเดินเต็มประมาณ 25-30วันเราก็จะได้หัวเชื้อหรือสปอร์เห็ดตามที่ต้องการเพื่อนำไปเพาะบ่มเลี้ยงในพื้นที่ที่เราต้องการให้เกิดดอกเห็ดโดยไม่ต้องพึ่งพาความหวังลมๆแล้งๆจากสปอร์เห็ดในอากาศที่จะมาตกลงพื้นที่ที่พอเหมาะพอดีเมื่อไรก็ไม่รู้ หรือจะนำไปเพาะบ่มเปิดดอกในโรงเรือนอย่างที่นิยมทำกันโดยทั่วไปก็ได้หรือจะนำไปวางกลบฝังไว้ใต้ร่มไม้ในสวนป่า สวนปาล์ม สวนยาง สวนผลไม้ก็จะช่วยให้พืชเหล่านั้นทนแล้ง ทนร้อน มีการเจริญเติบโตกว่าที่ดีกว่าพืชที่ไม่มีเห็ดอาศัยอยู่
 
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
 
 
 
หมายเลขบันทึก: 490091เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 07:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 09:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท