คิดได้ไง "อยากให้แม่ตายๆไปซะ"


วันนี้อยู่เวรที่โรงพยาบาลคนไข้ไม่ยุ่งมากเพราะเป็นวันหยุด  ก็นั่งทำงานสบายๆได้งานหลายอย่างทีเดียวแถมได้ สนทนากับกัลยาณมิตรใน GTK อีกต่างหากเรียกว่าคุ้มทีเดียว

  สักบ่านสองเศษๆพี่สาวโทร.มาหา บอกมีคนมาหาที่บ้านมาปรึกษาเรื่องคนป่วย  ก็เลยบอกมาที่ โรพยาบาลก็แล้วกันเพราะ อีกหลายชั่วโมงกว่าจะกลับ 

    สักสิบห้านาที  ก็มีคุณป้าเข้ามาหาบอก เมื่อกี้ไปหาที่บ้านมา เห็นพี่สาวว่าอยู่เวรก็เลยมาปรึกษาเรื่องแม่ที่เป็นเบาหวาน  ชลัญก็รับทราบว่า แม่ของป้าแกเป็นเบาหวาน แต่เท่าที่รู้มา  ดูไม่ค่อยจะมีใครสนใจยายสักเท่าไร   บางครั้งปล่อยให้ยายขาดยาจนเบาหวานสูงลิ่ว  แล้ววันนี้ ป้ามาหาเราเพราะอะไร

    ป้าเริ่มเล่า  "ที่มาหานี่ ก็เพราะว่ายายน่ะหมอนัดตรวจเบาหวานตั้งแต่วันที่ 23 แล้ว ก่อนหน้านั้น ยายมานอนโรงพยาบาลด้วยน้ำตาลในเลือสูง  พอดีตอนนี้ยาหมด    ก็เลย ไม่ได้มาตามนัด  ตามจริงจะปล่อยให้แกตาย อายุมากแล้วอยู่ก็ทรมาน  แต่เห็นแกไม่ตายสักที ก็เลยกะจะมาให้หมอเบิกยาให้หน่อย"

    โหย...  ปริ๊ดขึ้นสมองตั้งแต่คำที่บอกอยากให้แม่ตายแล้ว  นี่ยังจะให้เราเบิกยาให้อีก  พยายามระงับสติอารมณ์เต็มที่  ก็เลยถามกลับ " แล้วตอนนี้ยายเป็นไงบ้าง"

    ป้า ตอบ  "ก็ไปไหนไม่ได้หรอกรอวันนั่นแหล่ะ"

    ชลัญ "เองี้ดีกว่าป้า เดี๋ยวเลิกงาน ชลัญแวะไปดูที่บ้านดีกว่า  จะให้เบิกยาไปให้แล้วไม่รู้ผลเลือด หรือ อาการนี่มันไม่ค่อย OK เท่าไร "

    สรุปแล้วหลังเลิกงาน ชลัญก็เบิกเครื่องเจาะน้ำตาล และเครื่องวัดความดันไป 

    พอไปถึงบ้านยายพบบ้านเงียบมากบ้านเป็นบ้านไม้มีใต้ถุน ครึ่งหนึ่งกั้นเป็นห้องปูน เด็กหญิงวัยรุ่นกำลังนั่งดูทีวีในบ้าน ด้านนอกที่ไม่ได้กั้น ห้องนั้นใช้สังกะสี เก่าๆตีปะๆไป  มีแคร่  มีมุ้งเก่าๆดำกางคล่อมแคร่อยู่  เด็กหญิงนั้นเห็นการมาของชลัญ แต่ไม่ว่าอะไร  ชลัญจึงเอ่ยถาม "หนูยายอยู่มั๊ย"  เด็กหญิงบอก "นอนอยู่นันแหล่ะ "  ไม่สนใจชลัญสักนิด  ยืนเก้ๆกังๆสักพักถามใหม่  "แล้วป้าอยู่มัีย" เด็กหญิงตอบ "ไม่อยู่" เอากะมันวิถามคำตอบคำ  ชลัยชักเริ่มมีอารมณ์  เริ่มเสียงดัง

    " นี่หนุ กำลังทำอะไรสำคัยแค่ไหน ไปตามป้ามาเดี่ยวนี้ พี่มาดุยาย"

   เด้กหยิงลุกขึ้นแบบไม่พอใจ  เดินหายไปสักพัก  ป้าก็มายกมือไหว้ชลัญ    ประกอบกับยายตื่นพอดีเอ่ยถาม

   "ใครมา"

    ป้าบอก "หมอมาดู"  ยายจำได้ว่าเป็นชลัญ  เพราะก่อนหน้านี้เคยมาเยี่ยมยายแล้ว  ยายลุกออกมาจากมุ้งเก่าๆ   เดินมานั่งที่แคร่ ข้างๆชลัญ  คิดในใจไม่เห็นเหมือนป้าบอกเลยนี่เหรอคนจะตาย  ก็ดูแข็งแรงทีเดียว 

    ยายพูด "ยายขาดยามาหลายวันแล้วหมอ  เหนื่อย"

    ชลัญ "มาเดี๋ยวหนูเจาะเลือดให้  " ผล DTX = 228 mg/dl  อ้าวก็พอได้นี่เจาะหลังอาหารเย็น  วัดความดันได้  110/80 mmHg ก็ดูไม่แย่  มาก  ฟังหัวใจก็ regular ดี  ก็เลยบอกป้ากับยายว่า ก็ OK ดูไม่เห็นแย่เหมือนป้าว่าเลย  ป้าก็เลยรีบออกตัว คืป้าไม่ได้ดู ป้าอยู่คนละบ้าน น้องชายที่อยู่ด้วยมันบอกอีกที ป้าก็ยุ่งหลานมาก ไม่มีเวลา ก็เลยกะจะให้หมอเป็นธุระเบิกยาให้น่ะ   ไม่มีใครพาป้าและยายไป ที่ รพ.  เมื่อตอนบ่ายไปน่ะก็จ้างรถมอเตอร์ไซด์เขาไปกะให้หมอเบิกยาจะได้เร็วๆ  ไม่เอายายไปตรวจ

  ชลัญหันไปเห็นรถเก่งคันงามจอดอยู่  จึงถามว่ารถใคร   ป้าบอกก็รถน้องชายนั่นแหล่ะ เขาเป็นครูไม่ค่อยมีเวลา นี่ก็เห็นว่าจะออกไปงานเลี้ยงอีก 

   ชลัญรู้สึกมีอะไรมาจุกแน่นในคอพูดไม่ออก  โหย ...งานเลี้ยง  งานอื่นสำคัญกว่าพาแม่ไปหาหมอ  ชั่วชมัด ชลัญคิดในใจ  แต่ก็รับปากป้ากับยายว่าวันรุ่งขึ้นจะเบิกยามาให้ป้ากับยายก็ยกมือไหว้ขอบคุณ แล้วชลัญก็ขอตัวกลับ

    ระหว่าที่ขี่รถกลับบ้านมารู้สึกแย่จังนี่หรือ คนเป็นลูกเขาดูแลพ่อแม่แบบนี้หรือ  จึงนึกถึงบทคความหนึ่งมีคนเขียนไว้ใน net แล้วรู้สึกสะท้อนใจเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก

.........................................................................

 "When you came into the world, she held you in her arms.You thanked her by wailing like a banshee.เมื่อคุณกำเนิดมาในโลกนี้ เธออุ้มคุณไว้ในอ้อมอก คุณขอบคุณเธอโดยการร้องไห้

 

When you were 1 year old, she fed you and bathed you.You thanked her by crying all night long.เมื่อคุณอายุ 1 ขวบ เธอป้อนข้าวและอาบน้ำให้คุณ คุณขอบคุณเธอโดยการงอแงทั้งคืนวัน

 

When you were 2 years old, she taught you to walk.You thanked her by running away when she called.เมื่อคุณอายุ 2 ขวบ เธอสอนคุณเดิน คุณขอบคุณเธอด้วยการวิ่งหนีเมื่อเธอเรียกหา

 

When you were 3 years old, she made all your meals with love.You thanked her by tossing your plate on the floor.เมื่อคุณอายุ 3 ขวบ เธอทำอาหารทุกอย่างให้คุณด้วยความรัก คุณขอบคุณเธอด้วยการโยนจานลงพื้น

 

When you were 4 years old, she gave you some crayons.You thanked her by coloring the dining room table.เมื่อคุณอายุ 4 ขวบ เธอให้ดินสอสีคุณ คุณขอบคุณเธอด้วยการระบายสีบนโต๊ะอาหาร

 

When you were 5 years old, she dressed you for the holidays.You thanked her by plopping into the nearest pile of mudเมื่อคุณอายุ 5 ขวบ เธอแต่งชุดเก่งให้คุณเพื่อไปเที่ยว คุณขอบคุณเธอด้วยการทำชุดเก่งนั้นเปื้อนโคลนเลอะเทอะ

 

When you were 6 years old, she walked you to school.You thanked her by screaming, "I'M NOT GOING!"เมื่อคุณอายุ 6 ขวบ เธอเดินไปส่งคุณไปโรงเรียน คุณขอบคุณเธอด้วยการกรีดร้องว่า "ไม่ไป!!!"

 

When you were 7 years old, she bought you a ball.You thanked her by throwing it through the next-door-neighbor's window.เมื่อคุณอายุได้ 7 ขวบ เธอซื้อบอลให้คุณ คุณขอบคุณเธอด้วยการไปทำหน้าต่างของเพื่อนบ้านแตก

 

When you were 8 years old, she handed you an ice cream.You thanked her by dripping it all over your lap.เมื่อคุณอายุได้ 8 ขวบ เธอซื้อไอศกรีมให้คุณ คุณขอบคุณเธอด้วยการทำมันหกเลอะเทอะไปทั่ว

 

When you were 9 years old, she paid for piano lessons.You thanked her by never even bothering to practice.เมื่อคุณอายุได้ 9 ขวบ เธอสอนเปียโนให้คุณ คุณขอบคุณเธอด้วยการไม่เคยแม้แต่จะซ้อม

 

When you were 10 years old, she drove you all day, from soccerto gymnastics to one birthday party after another.You thanked her by jumping out of the car and never looking back.เมื่อคุณอายุ 10 ขวบ เธอขับรถไปส่งคุณทั้งวัน ตั้งแต่สนามบอล, โรงยิม, ยันงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนแต่ละคนคุณขอบคุณเธอด้วยการกระโดดออกนอกรถ โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

 

When you were 11 years old, she took you and your friends to the movies.You thanked her by asking to sit in a different row.เมื่อคุณอายุ 11 ขวบ เธอพาคุณและเพื่อนคุณไปดูหนัง คุณขอบคุณเธอด้วยการขอนั่งที่นั่งคนละแถว

 

When you were 12 years old, she warned you not to watch certain TV shows.You thanked her by waiting until she left the house.เมื่อคุณอายุ 12 ขวบ เธอเตือนคุณอย่าดูทีวี คุณขอบคุณเธอด้วยการรอเธอออกไปก่อน แล้วดูต่อ

 

When you were 13, she suggested a haircut that was becoming.You thanked her by telling her she had no taste.เมื่อคุณอายุ 13 เธอแนะให้คุณตัดผมให้มันดูดี คุณขอบคุณเธอด้วยการบอกว่าเธอไม่มีรสนิยมเอาเสียเลย

 

When you were 14, she paid for a month away at summer camp.You thanked her by forgetting to write a single letter.เมื่อคุณอายุ 14 เธอจ่ายค่าซัมเมอร์แคมป์หนึ่งเดือนให้คุณคุณขอบคุณเธอด้วยการไม่ได้เขียนจดหมายมาหาเลยสักฉบับนึง

 

When you were 15, she came home from work, looking for a hug.You thanked her by having your bedroom door locked.เมื่อคุณอายุ 15 เธอกลับบ้านหลังเลิกงาน อยากได้กอดสักครั้ง คุณขอบคุณเธอด้วยการล็อกห้องนอนขังตัวเองในห้อง

 

When you were 16, she taught you how to drive her car.You thanked her by taking it every chance you could.เมื่อคุณอายุ 16 เธอสอนคุณขับรถ คุณขอบคุณเธอด้วยการเอารถไปขับทุกเวลาที่คุณจะเอาไปได้

 

When you were 17, she was expecting an important call.You thanked her by being on the phone all night.เมื่อคุณอายุ 17 เธอกำลังรอโทรศัพท์สายสำคัญ คุณขอบคุณเธอด้วยการใช้สายตลอดคืนนั้น

 

When you were 18, she cried at your high school graduation.You thanked her by staying out partying until dawn.เมื่อคุณอายุ 18 เธอร้องไห้ในวันที่คุณเรียนจบมัธยม คุณขอบคุณเธอด้วยการฉลองยันเช้า

 

When you were 19, she paid for your college tuition, drove you to campus carried your bags.You thanked her by saying good-bye outside the dorm so youwouldn't be embarrassed in front of your friends.เมื่อคุณอายุ 19 เธอจ่ายค่ากวดวิชา ขับรถไปรับไปส่ง คุณขอบคุณเธอด้วยการบอกลาข้างนอกเพื่อที่จะไม่ได้อายเพื่อน

 

When you were 20, she asked whether you were seeing anyone.You thanked her by saying, "It's none of your business."เมื่อคุณอายุ 20 เธอถามคุณว่ามีแฟนหรือยัง คุณขอบคุณเธอด้วยการพูดว่า ไม่ใช่เรื่องของเธอสักหน่อย

 

When you were 21, she suggested certain careers for your future.You thanked her by saying, "I don't want to be like you."เมื่อคุณอายุ 21 เธอแนะนำอาชีพให้คุณสำหรับอนาคต คุณขอบคุณเธอด้วยการบอกว่า คุณไม่อยากเป็นอย่างเธอ

 

When you were 22, she hugged you at your college graduation.You thanked her by asking whether she could pay for a trip to Europe.เมื่อคุณอายุ 22 เธอกอดคุณวันรับปริญญา คุณขอบคุณเธอด้วยการบอกว่า อยากได้รางวัลไปเที่ยวยุโรปสักครั้ง

 

When you were 23, she gave you furniture for your first apartment.You thanked her by telling your friends it was ugly.เมื่อคุณอายุ 23 เธอให้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งในอพาร์ตเมนท์แห่งแรกของคุณคุณขอบคุณเธอด้วยการบอกเพื่อนๆ ว่า มันช่างน่าเกลียดเสียนี่กระไร

 

When you were 24, she met your fiance and asked about your plans for the future.You thanked her by glaring and growling, "Muuhh-ther, please!"เมื่อคุณอายุ 24 เธอพบคู่หมั้นคู่หมายของคุณและถามคุณเกี่ยวกับแผนการในอนาคตนคุณขอบคุณเธอด้วยการจ้องมองเขม็งพร้อมพูดว่า "แม่ โปรดเถอะอย่ายุ่งกับเรื่องนี้"

 

When you were 25, she helped to pay for your wedding, and she criedand told you how deeply she loved you. You thanked her by moving halfway across the country.เมื่อคุณอายุ 25 เธอช่วยคุณจ่ายค่าใช้จ่ายงานแต่งงานและสินสอดร้องไห้และบอกคุณว่าเธอรักคุณแค่ไหน คุณขอบคุณเธอด้วยการย้ายไปอีกฟากหนึ่งของประเทศ

 

When you were 30, she called with some advice on the baby.You thanked her by telling her, "Things are different now."เมื่อคุณอายุ 30 เธอโทรมาหาพร้อมกับแนะนำเรื่องการเลี้ยงเด็ก คุณขอบคุณเธอด้วยการบอกว่า สมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว

 

When you were 40, she called to remind you of an relative's birthday.You thanked her by saying you were "really busy right now."เมื่อคุณอายุ 40 เธอโทรมาเตือนความจำคุณเกี่ยวกับวันคล้ายวันเกิดญาติคุณขอบคุณเธอด้วยการบอกว่า ตอนนี้ไม่ว่างเลย

 

When you were 50, she fell ill and needed you to take care of her.You thanked her by reading about the burden parents become to their children.เมื่อคุณอายุ 50 เธอเริ่มชราและไม่ค่อยสบาย ต้องการให้ดูแลคุณขอบคุณเธอด้วยการบอกว่ามันเป็นภาระแค่ไหนที่จะต้องเลี้ยงดูเธอ

 

And then, one day, she quietly died. And everything you never didcame crashing down like thunder. “Rock me baby, rock me all night long.”และแล้ว วันหนึ่ง เธอจากไปอย่างเงียบสงบ และทุกอย่างที่คุณไม่เคยกระทำจะเหมือนฟ้าผ่าในใจคุณ "เรียกแม่ไปเถอะลูก เรียกตลอดทั้งคืนนะ"

 ..................................................................

ฉันจำไม่ได้ว่าได้บทความนี้มาจากไหน แต่ก็ขอขอบคุณเจ้าของบทความที่ทำให้ฉัน คิดอะไรได้หลายอย่าง เหตุการณ์อย่างนี้จะไม่เกิดกับครอบครัวชลัญ....แน่นอน

 

คำสำคัญ (Tags): #แม่
หมายเลขบันทึก: 489326เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 21:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 13:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

อ่านแล้วเศร้าใจค่ะ วันนี้เราใจตรงกันจัง เพียงแต่ต่างกันตรงที่ คนหนึ่งเขียนในมุมแม่ อีกคนเขียนในมุมลูก

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ^__^

...อ่านเรื่องแม่ทีไรน้ำใสๆจะใหลออกตา....

ขอบคุณค่ะที่แบ่งปันและยิ่งเพิ่มให้มีสติมากขึ้น ที่บ้านครูบนดอยก็เหลือพระองค์เดียว จะไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน

ขอบคุณ ครูบนดอย ที่มาให้กำลังใจ และขอบคุณที่จะไม่มีเหตุการณ์อย่างในบทความ ถือเป็นกุศลอย่างแรงที่เราได้ดูแลพ่อแม่ ค่ะ

  • เศร้าเหมือนกัน
  • คนเราเดี๋ยวนี้ใจร้ายมากนะครับ
  • แต่งง งงกับแม่ตัวเองยังใจร้าย
  • ทำได้ไงเนี่ย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท