อย่าเชื่อว่าทำให้บัตรฉลาด "สมาร์ทการ์ด" แล้วคนจะฉลาดขึ้น.....ตรงข้าม คนจะโง่ลงเรื่อยๆ และถ้าเรียนรู้ไม่ทัน จะกลายเป็นเหยื่อ
แนวทางการทำบัตร "สมาร์ทการ์ด" และบัตรประชาชนของหลายๆ คน เป็นไปตามวัตถุประสงค์ การแสดงยืนยันข้อมูลความเป็นตัวตน ใช้อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ....ลองสำรวจกระเป๋าของชาวรากหญ้า และมนุษย์เงินเดือน ก่อนจะช่วยกันกำหนดวัตถุประสงค์ของการทำบัตรประชาชนให้ชัด และพูดถึงความปลอดภัยและมั่นคงของคนถือบัตรนับเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ
กระเป๋าชาวรากหญ้ามีอะไรในนั้นบ้าง?
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซด์
- ใบขับขี่รถยนต์
- บัตรทอง รักษาฟรีทุกโรค
- บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารออมสิน และ ธกส.
กระเป๋ามนุษย์เงินเดือน
- บัตรประจำตัวประชาชน
- บัตรข้าราชการ บัตรพนักงาน
- ใบขับขี่รถยนต์ รถมอเตอร์ไซ
- พาสปอร์ต
- บัตรประกันสังคม
- บัตรประกันชีวิตของบริษัทต่างๆ
- บัตรเอทีเอ็มต่างๆ
- บัตรเครดิตต่างๆ
- บัตรสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์
- บัตรสมาชิกซื้อของ แมคโคร โลตัส ร้านอาหาร เครื่องดื่ม อื่นๆ
- นามบัตรทั้งของตนและของคนอื่น (เพียบ)
- ใบสมาชิกของการบินไทย หรือสายการบินอื่นๆ
- ฯลฯ
หลักฐานอื่นที่ต้องใช้บ่อยๆ แต่ไม่ได้อยู่ในกระเป๋า ของชาวรากหญ้ามีอะไรบ้าง?
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ตอนนี้รวมใน "สมาร์ทการ์ด" แต่ยังต้องใช้เหมือนเดิม เพราะที่ว่าการฯ หรือสถานที่ราชการไม่ค่อยสนใจว่าตัวเองรวมมันไว้แล้ว....อีกเรื่องหนึ่งคือ...เขาต้องการ "ลายมือชื่อ" บนฉบับสำเนา
- ทะเบียนสมรส
- ใบสำคัญทางทหาร
- โฉนดที่ดิน
- สมุดรถมอเตอร์ไซ รถยนต์
- สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ โดยมากเป็นหนี้สินครับ
- ฯลฯ
เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมเราต้องมีบัตรต่างๆ เยอะแยะมากขนาดนั้น ต่อไปนี้ใช่เหตุผลหรือไม่หนอ
- เพราะหน่วยงานของรัฐต่างๆ ที่ออกบัตร ทำงานแยกส่วนกัน ไม่เชื่อมโยงบูรณาการกัน แต่ละหน้าที่ใช้ทรัพยกรแยกกัน....ตอนนี้ยุคไอซีทีต้องปรับเพื่อลดความซำซ้อนและสิ้นเปลืองด่วน
- ข้อที่ 1 ทำให้มีจำนวนข้าราชการหรือพนักงานจำนวนมาก การปรับเปลี่ยนทันทีเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ในสังคมไทย ยุคประชานิยม.... ยังไงก็ตามต้องปรับ... เพราะความซ้ำซ้อนทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากร ภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าเดินทางในการเดินทางไปกลับติดต่อ เป็นต้น
- มีการแข่งขันด้านธุรกิจสูง (ทุนนิยมสุดกู่) บริษัทร้านค้าต่างๆ ใช้กลยุทธต่างๆ ลุกคืบเข้าสู่ตัวบุคคลมากขึ้น และเพื่ออำนวยความสะดวกในการบริการต่างๆ ของบริษัท
- เพราะการศึกษาไทยไปไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก
- ฯลฯ
และคำถามสุดท้ายเราควรทำบัตรประชาชนเพื่ออะไร
- เพื่อเป็นหลักฐานว่า มีตัวตน (สมมติว่ามีตัวตน) ต่อคนอื่น ต่อสังคม ต่อประเทศ ต่อชาวโลก เช่น รหัสชีวิต(หมายเลขบัตรฯ) ชื่อ วันเกิด เพศ กลุ่มเลือด ชื่อบิดามารดา จำนวนพี่น้อง เป็นต้น
- เพื่อแสดงที่อยู่ปัจจุบันว่า พำนักพักอาศัยอยู่ที่ใด บ้านเลขที่เท่าใด เป็นบ้านใคร ข้อนี้ก็คือ ทะเบียนบ้านนั่นเองครับ...เห็นด้วยคร้บที่จะให้มีข้อมูลนี้ในบัตร
- บัตรแสดงสิทธิบางประการ เช่น เป็นใบขับขี่ เป็นบัตรข้าราชการ พนักงานของรัฐ (มีข้อความแสดงอาชีพ) เป้นต้น.....เห็นด้วยกับการรวมใบขับขี่และบัตรข้าราชการเข้ามาด้วยครับ
ส่วนเรื่องต่อไปนี้ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยหากมีการรั่วไหลของข้อมูล หรือบัตรหายไป หรือการโจรกรรมข้อมูลต่างๆ
- เรื่องการบันทึกประวัติส่วนตัว เช่น การศึกษา สุขภาพ อาชญากรรม ฯลฯ
- เรื่องที่เกี่ยวกับธุรกรรมการเงิน เช่น Cradit ATM หรือข้อมูลด้านหนี้สิน เป็นต้น....อันนี้อย่าเพิ่งนำมารวมเลยครับ
- เรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ข้อมูลการใช้จ่าย ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว หรือประสบการณ์ชีวิต (เห็นมีบางท่านแนะนำว่าใส่ให้หมด) ....ผมว่ายังไม่ถึงเวลา
- ข้อมูลด้านทรัพย์สินต่างๆ หากใส่ได้ก็ดี แต่ยุคนี้ยังไม่เหมาะ
สุดท้ายอยากเสนอข้อคิดเห็นต่อไปนี้ครับ
- อย่ายึดมั่นว่า บัตรประชาชนต้องเป็น บัตรแข็งๆ เพราะรูปแบบปัจจุบันถูกตีกรอบด้วยขนาดของกระเป๋าเงิน
- อย่าตีกรอบว่า บัตรประชาชนทุกคนต้องมีแบบฟอร์มหรือรูปแบบเหมือนกันหมดทุกคน
- อย่ายึดว่า บัตรประชาชนต้องทำอะไรได้หลายอย่าง แทนทุกบัตรที่เคยมีได้....เพราะแนวคิดการรวมแบบนั้นเกิดจากความรำคาญในการพกบัตรหลายใบ เป็นเพียงความต้องการความสะดวกสบายของคนไทย ต้องห่วงใยความปลอดภัยให้มาก
- อย่าเชื่อว่า การทำให้บัตรประชาชนแก้ไขข้อมูลต่างๆ ได้ยากและหลายขั้นตอนเป็นเรื่องดีเพียงเพราะป้องกันการปลอมบัตร.... เพราะวัตถุประสงค์หลักคือแสดงสถานะปัจจุบันของเจ้่าของบัตร จึงควรออกแบบให้แก้ไขได้รวดเร็ว แต่ปลอดภัย
- อย่าเชื่อว่าทำให้บัตรฉลาด "สมาร์ทการ์ด" แล้วคนจะฉลาดขึ้น.....ตรงข้าม คนจะโง่ลงเรื่อยๆ และถ้าเรียนรู้ไม่ทัน จะกลายเป็นเหยื่อ
เท่านี้ก็แล้วพอครับ.....
ฤทธิไกร