ตะไล เป็นพลุที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแบบควงเป็นเกลียวสว่าน จุดประทุและใช้แรงขับจากดินปืน ชาวบ้านตามท้องถิ่นต่างๆจะทำขึ้นในโอกาสต่างๆ ซึ่งโดยมากจะเป็นงานรื่นเริงและงานมงคล เช่น งานทอดกฐินผ้าป่า งานเฉลิมฉลองการสร้างบุญกุศลและสาธารณสมบัติ งานเทศมหาชาติ งานประจำปีและงานในเทศกาลต่างๆ พบมากในวิถีวัฒนธรรมของชาวบ้านอีสาน และอาจพบได้บ้างในบางแห่งของภาคเหนือและภาคกลาง
ที่บ้านตาลิน อำเภอหนองบัว นครสวรรค์นั้น มักทำตะไล พลุบั้งไฟ โคมลอย ในงานบูชาและเฉลิมฉลองเทศกาลที่ยิ่งใหญ่บางเทศกาล คือ งานเทศมหาชาติ งานทอดกฐิน และงานประจำปีหลังฤดูเก็บเกี่ยว ผู้ที่ทำตะไลได้และยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันเหลืออยู่คนเดียวคือน้าบุญช่วย มีแสง อายุกว่า ๗๕ ปีแล้ว เมื่อวานนี้ผมไปบวชหลานที่บ้านเกิดและได้มีโอกาสเจอท่าน จึงถือโอกาสขอสัมภาษณ์และนำสูตรการทำตะไลมารวบรวมไว้
สูตรการคำนวณดินตะไล :
ดินบาท มาดเฟื้อง ถ่านสลึง
รายละเอียด
:
ดินประสิว
น้ำหนัก ๑ บาท
มาด หรือกำมะถัน น้ำหนัก
๑ เฟื้อง
ถ่าน
น้ำหนัก ๑ สลึง
วัสดุอุปกรณ์สำหรับทำตัวตะไล
:
๑. แกนตะไล
ทำด้วยไม้รวกหรือไม้รวกป่า และต้องเป็นไม้ไผ่สด
๒. ปีกวงกลมของตะไล
ทำด้วยไม้ไผ่ตง
๓. ถ่าน
เป็นถ่านที่เผาจากไม้สัก ไม้ฉำฉา และเลือกเนื้อถ่านอย่างดี
โครงสร้างและรูปทรงโดยประมาณ ดังภาพ
การทำดินปืนสำหรับบรรจุตะไลและการทดสอบ
๑.
เผาถ่านจากไม้สักหรือไม้ฉำฉาให้สุก จากนั้นดับและนำไปตากแดดจนแห้งสนิท
เลือกก้อนถ่านที่มีความเป็นเนื้อถ่านสมบูรณ์ที่สุด
๒. แยกตำมาดหรือกำมะถัน
ดินประสิว และถ่าน ทีละอย่างจนละเอียด หลังจากตำละเอียดแล้ว
นำไปตากแดดให้ไม่มีความชื้นซึ่งจะทำให้คำนวณน้ำหนักคลาดเคลื่อน
๓. ผสมดินประสิว มาด
และผงถ่านตามสัดส่วนข้างต้น
จากนั้นค่อยตำและพรมน้ำเพื่อช่วยลดแรงเสียดทานให้ดินติดไฟ
๔. เมื่อตำละเอียดดีแล้ว
นำไปผึ่งแดดให้แห้งสนิท
๕.
ทดสอบโดยหยิบดินปืนวางบนพื้นเรียบและจุดไฟ
ดินปืนที่พร้อมสำหรับบรรจุแกนตะไลจะต้องติดไปลุกพรึ่บเดียวโดยเหลือเพียงเขม่าและไม่เหลือผงดินปืนเป็นก้อนแม้แต่น้อย
๖.
การจุดไฟแล้วจ่อใส่ดินปืนเพื่อทดสอบนั้น
ต้องให้ไฟสามารถแตะถึงเนื้อดินปืน
หากดินปืนติดไฟเร็วเกินไปโดยเพียงจ่อเข้าใกล้แต่ยังไม่แตะดินปืน
ก็จะทำให้ตะไลแรงและระเบิดง่าย
ขั้นตอนในการทำ
๑. ลำดับในการทำ หาไม้ทำถ่านและทำถ่านก่อน
จากนั้นจึงทำดินปืน ทดสอบดินปืน เก็บดินปืนไว้พร้อมใช้
๒. หาไม้ทำแกนตะไล
เลือกแกนตะไลจากไม้รวกหรือไม้รวกป่าที่แก่ สด เนื้อแข็ง ลักษณะสมบูรณ์
กลม ผิวเรียบสม่ำเสมอ ไม้รวกที่เลือกไม่ดีจะแตก ระเบิด
และไม่มีความสมดุล
๓.
หาไม้ไผ่ตงและทำปีกตะไล
๔. บรรจุดินปืนใส่แกนตะไล
ค่อยๆใส่และตำอัดแน่นทีละนิด สม่ำเสมอ
ในการตำต้องไม่ตำแรงจนเกินไปเพราะจะทำให้กระบอกไม้ไผ่ถูกแรงอัดจากดินปืนดันให้ปริแตก
๕.
ดินปืนที่ตำและอัดใส่แกนตะไล ต้องไม่แน่นจนเกินไป
เพราะจะทำให้ระเบิดในขณะจุด
๖.
หลังจากดินปืนเต็มบ้องไม้ไผ่แกนตะไลแล้ว
นำปีกวงกลมของตะไลตามสัดส่วนที่คำนวณดีแล้วมาติดกับแกนตะไล
๗.
หาจุดสมดุลของแกนตะไลและคำนวณจุดสำหรับเจาะรูปประทุ
๘. ตบแต่งให้เรียบร้อย
ได้ตะไลที่พร้อมจะจุดตามที่ต้องการ
สูตรการคำนวณขนาดและการเจาะ :
๑.
ใช้เชือกวัดเส้นรอบวงของรูบ้องไม้ไผ่ที่เลือกมาทำแกนตะไลวน ๒ รอบ
ความยาวของเชือกที่วัดเส้นรอบวงรูบ้องไม้ไผ่ทำแกนตะไลนี้
ถือเป็นสัดส่วนการคำนวณโครงสร้างของตะไลอีก ๒ ส่วน คือ
ใช้เป็นความยาวของแกนตะไล และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของปีกวงกลมตะไล
๒.
หลังจากบรรจุดินปืนใส่ในกระบอกไม้ไผ่ที่เป็นแกนตะไล
และประกอบชิ้นส่วนต่างๆของตะไลดังภาพเสร็จเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว
ใช้เชือกมัดแกนตะไลเพื่อหาจุดสมดุลของตะไลบนแกนตะไล
๓.
เมื่อได้ตำแหน่งจุดสมดุลแล้ว ใช้นิ้วหัวแม่มือทาบ ๒
นิ้วหัวแม่มือจากจุดสมดุล จะเป็นระยะของการเจาะรูประทุ
๔. ที่ระยะ ๒
นิ้วหัวแม่มือและตัวตะไลอยู่ในแนวระนาบขนานกับพื้นราบนี้
ใช้นิ้วหัวแม่มือทาบต่ำลงไปด้านล่างอีก ๑ หัวแม่มือ
ซึ่งจะเป็นตำแหน่งเฉียงประมาณ ๑๕ องศา(ประมาณโดยผู้เขียน)
จะเป็นตำแหน่งสำหรับเจาะรูประทุ
ทำให้แรงขับจากดินปืนพุ่งเฉียงออกด้านล่าง
และดันให้ตะไลพุ่งขึ้นด้านบนแบบควงเป็นเกลียวสว่าน
การจุดและปล่อยตะไล
๑.
ใช้ดินปืนหยอดใส่รูที่เจาะเป็นรูประทุบนแกนตะไลเพียงเล็กน้อย
แล้วใช้นุ่นหรือสำลีอุดใส่รูเพื่อเป็นเชื้อจุดชนวนไม่ให้ดินปืนในตัวตะไลติดไฟเร็วเกินไป
๒.
คว่ำมือขวาถือตะไลโดยจับปีกวงกลม
แล้วหงายมือขึ้นให้ระนาบวงกลมของปีกตะไลขนานกับพื้น
เมื่อหงายมือขึ้นนี้ จะทำให้รูประทุหงายขึ้นอยู่ด้านบนเพื่อจุด
๓. จุดตะไล
เมื่อดินปืนตะไลติดและพุ่งจนเกิดแรงดันให้มือสบัดพอสมควรแล้ว
คว่ำมือขวาที่ถือตะไลลง รูประทุจะกลับไปอยู่ด้านล่าง
ทำให้เกิดแรงดันจำนวนมากพุ่งเฉียงลงด้านล่าง
เบี่ยงมือและแขนขวาที่ถือตะไล
เหยียดออกไปทางด้านซ้ายของลำตัวเหมือนท่าเงื้อง่าเพื่อสบัดมือเล่นขว้างจักรหรือจานบิน
๔.
สบัดมือออกตามจังหวะแรงดันที่เกิดขึ้นของตะไล เหวี่ยงออกไปในแนวขนาน
ตะไลจะลอยตัวและพุ่งขึ้นสู่เบื้องบนเป็นเกลียวสว่าน
Thank you for the detailed recipe! How do they mix ดินตะไล is kept out for "safety reasons" ;-)
I think ตะไล is more like 'flying saucer' while บ่องไฟ is rocket.
เท่าที่ผมไปสัมภาษณ์ หมอตะไลอีสานมาหลายคน ก็ประมาณนั้ันครับ เสียแต่ว่าบางคนนิ้วเล็กนิ้วใหญ่ต่างกัน :-)
หรือนั่นอาจเป็นเหตุผลให้หมอตะไลหลายคน มีแผลเป็นเต็มตัว เต็มหน้า ..เพราะโดนตะไลระเบิดใส่ บางคนนิ้วกุด ตาบอดข้างหนึ่ง ถามไปถามมา เพราะตะไลระเบิดทั้งสิ้น ......ไม้ถ่านที่ตำใส่ผสมดินประสิว บางคนใช้ไม้ระกำ บางคนไม้้เพกา ไม้พริก ก็มี ล้วนแต่ไม้เบาๆ ...กำมะถันนั้นบางคนเีรียกดินมาด
เป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาของชาวหนองบัว..
สวัสดีครับดร.หมอเปิ้ลครับ หลักการทำและลักษณะการทำงานก็เหมือนกับบ้องไฟเหมือนกันครับ แต่บ้องไฟจะพุ่งไปตรงๆในทางตรงกันข้ามกับแรงดันของดินปืนที่จุดระเบิดให้พลังงาน ส่วนตะไลนี้จะพุ่งขึ้นแบบควงเป็นเกลียวสว่านน่ะครับ
สวัสดีครับคุณ sr ครับ
เมื่อก่อนนี้ผมเคยนั่งเฝ้าดูเขาทำเหมือนกันครับ แล้วก็เกิดคำถามในใจตรงที่คุณ sr สนใจนี้ด้วยเช่นกัน เท่าที่เห็นก็คือ หลังจากผสมดินปืนครบสูตรแล้ว เขาจะพรมน้ำในขณะตำอัดดินปืนใส่บ้องไม้ไผ่ไปด้วยครับ และในการตำ ก็จะลงน้ำหนักมือไม่มาก ในชั้นนี้ ก็จะให้ความปลอดภัยได้ครับ ผมเองนั้น ก็เคยทดลองทำดู แต่หลังจากตำเสร็จและทดสอบจุดดูแล้ว มันก็พลอยทำให้ไม่ติดพรึ่บอย่างที่ครูบ้องไฟเขาทำ
อีกทางหนึ่ง เท่าที่เห็นแถวบ้านเกิดผมนั้น สูตรการทำดินตะไล กับขนาดของแกนตะไลซึ่งจะกำหนดไปตามขนาดบ้องไม้รวกนั้น สูตรดินตะไลจะไม่แรง ขนาดแกนตะไลก็จะไม่ใหญ่ไปกว่าบ้องไม้รวก หากเกิดระเบิดก็จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง ผมเคยเห็นตะไลแถวชุมชนบ้านเกิดผม เกิดระเบิดในขณะจุดอยู่เสมอ และบางครั้งก็ระเบิดบนมือในขณะเตรียมปล่อย แต่ไม่น่ากลัวและไม่เคยเห็นทำให้คนบาดเจ็บเลยแม้แต่ผู้จุด
การเรียกที่แสดงถึงความแตกต่างกันของตะไลกับบ้องไฟอย่างที่คุณ sr ให้นี่ ก็ชัดเจนดีนะครับ ในบันทึกของท่านอาจารย์คนถางทางที่ผมเคยอ่าน และก็ทำให้ตามไปดูรายละเอียดตามคลิปต์ต่างๆของบ้องไฟอีสาน ก็ให้ความรู้และอธิบายให้เข้าใจในรายละเอียดต่างๆได้เป็นอย่างดีเลยนะครับ
สวัสดีครับอาจารย์คนถางทางครับ
ผมนำเอารายละเอียดมาบันทึกเพิ่มอีกครับ
เมื่อวานนี้นั่งแกร่วรอรถไฟกลับจากนครสวรรค์ไปเชียงใหม่จากบ่ายสองโมงไปจนถึง
๔ ทุ่มกว่า เลยนั่งวาดรูปและบันทึกเรื่องพวกนี้เก็บไว้
ลงรายละเอียดต่างๆไว้เรียบร้อยเหมือนกันครับ
แต่พอกำลังจะโพสต์ไฟแบตเตอร์รี่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คก็หมด
เปิดมาดูอีกทีก็มีแต่รูป
ต้องมานั่งเขียนใส่เข้าไปใหม่เพราะเสียดายที่ไปถามมาครับ
สวัสดีครับพี่ใหญ่ครับ
บัวสัตตบงกชของพี่ใหญ่ปลูกได้สวยจังเลยครับ
ปลูกและดูแลยากเหมือนกันนะครับ
ผมกำลังหาทางแยกเหง้าบัวฉัตรแดงหรือบัวสัตบงกชซึ่งมีอยู่ในกระถาง
เอาไปลงในสระและบ่อดินอีกรอบหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่าน่ะครับ
เคยทำกันแล้วแต่ไม่ได้สักที
สวัสดีค่ะอาจารย์
ตอนเด็ก ๆ หนูเคยได้ยินเสียงจุดตอนพิธีเปิดแข่งขันกีฬาด้วยนะคะ
ส่วนงานศพ ไม่แน่ใจว่าใช่เสียงตะไลหรือเปล่า
สวัสดีครับคุณหมอธิรัมภาครับ
ที่เห็นดังตูมตามในงานฌาปนกิจศพนี่เป็นพลุครับ ไม่ใช่ตะไลหรอกครับ
ในงานเปิดกีฬาต่างๆก็คงจะเป็นพลุเหมือนกันนะผมว่า
ตะไลนั้นจะไม่ดังตู๊มมม ม ดังๆหรอกครับ แต่จะดังแช่ด แช่ด แช่ด แช่ด
แช่ด ๆๆๆๆๆๆ แล้วก็หมุนควงเป็นเกลียวขึ้นฟ้า
มองดูควันที่พวยพุ่งออกมาของตะไล
ก็จะเป็นเกลียวเหมือนริ้วผ้าบิดเป็นแนวยาว สวยมากครับ
อยากทราบว่าตะไลมีมานานแคไหนแล้ว บ้างว่ามีเป็นพันปีก่อนฝรั่งสร้างจรวด